ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ร่วมปันน้ำใจ เนรมิตพื้นที่เป็น ‘ห้องตัดผมที่ใหญ่ที่สุดในโลก’ สร้างปรากฏการณ์อัศจรรย์ในงาน ‘Cut & Con ตัดผม ชมคอนเสิร์ต’ โดยสมาคมช่างผมเสริมสวย แห่งประเทศไทย กลุ่มนักร้องนักดนตรี ศิลปิน สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย และ พันธมิตรอีกมากมายที่มาร่วมกันจัดงานเพื่อระดมทุนช่วยผู้ประสบอุทกภัย ในวันเสาร์ที่ 14 กันยายน 2567

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ NAKON45 อัญวุฒิ โพธิ์อำไพ โพสต์ภาพนายเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ หรือ ไทด์ มอบเงินจำนวน 1 ล้านบาทให้แก่ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ นำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จังหวัดอุบลราชธานี

จากข่าวที่แพร่ออกไปว่า พระเอกรุ่นใหญ่ เอก-สรพงศ์ ชาตรี ป่วยเป็นมะเร็งสมอง ทำให้แฟนๆ เกิดความห่วงใย ล่าสุด 2 พี่น้อง ท็อป-ไทด์ หรือ บิณฑ์ -เอกพัน บันลือฤทธิ์ ซึ่งมีความสนิทสนมกับเอก สรพงศ์ เป็นอย่างมาก ได้ออกมาชี้แจงถึงอาการป่วยของพระเอกรุ่นพี่ ว่าจริงๆ แล้วอีกฝ่ายเป็นมะเร็งปวด โดยล่าสุดสำลักอาหาร จนทำเข้าไอซียู แต่อาการดีขึ้นแล้ว
ท็อป-ไทด์ เล่าว่า เมื่อ 5 ปีที่แล้วได้มีโอกาสไปเยี่ยม เอก สรพงศ์ อีกฝ่ายเป็นมะเร็งที่ปวด เป็นชิ้นมะเร็งก็ตัดออกไป 4-5 นิ้ว ที่ปอดด้านซ้าย และรักษาตามอาการมาตลอด จนแข็งแรงดีกลับไปถ่ายละคร ทำงานได้ปกติ จนปีที่แล้วอาการกลับมาอีก ก็ได้ไปเยี่ยมประมาณ ก.พ.-มี.ค. ปีที่แล้ว เริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของ เอก สรพงศ์ เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ค่อยแข็งแรง
ซึ่งตอนที่กลับมาเป็นมะเร็งในครั้งนี้ก็คือมะเร็งปอด แต่มีเชื้อบ้างที่มันกระจายตามร่างกาย ตอนนี้กำลังให้ยาระงับอยู่ มันต้องใช้เวลา ตั้งแต่มี.ค.ปีที่แล้วจนตอนนี้ก็เกือบปีแล้ว อาการก็ดีขึ้นตลอด แต่ที่มาเข้าโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ต้องเข้าไอซียู เพราะอีกฝ่ายไปทานกล้วยน้ำว้า จังหวะกลืนและดื่มน้ำไปด้วยก็เลยสำลัก กล้วยก็เข้าไปในหลอดลม หายใจไม่ออก ต้องพาเข้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล ตอนนี้โอเคดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังอยู่ห้องไอซียู
ข่าวบอกว่า เอก สรพงศ์ เป็นมะเร็งที่สมอง หรือมีอาการลามไปที่สมอง หมอบอกว่าไม่ใช่ เป็นข่าวลือที่ออกไป จริงๆ แล้วแค่เชื้อมะเร็งกระจายไปตามร่างกาย แต่ไม่ถึงกับเป็นมะเร็งที่สมอง สำหรับแฟนๆ ที่วิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องมะเร็งที่สมอง จริงๆ ไม่มี ตอนนี้เป็นที่ปอด แต่อาจจะกระจายไปที่อื่นนิดหน่อย แต่ยังรักษาตามอาการอยู่ ขอให้ทุกคนเบาใจและคลายกังวลได้เลย ส่วนที่สำลักอาหารตอนนี้โอเค ดีขึ้นตามปกติ อีกไม่เกิน 2-3 วันถ้าคุณหมอดูอาการแล้วกลับมาปกติเหมือนเดิม ก็คงจะกลับบ้านได้