เหตุการณ์ไฟใต้ในช่วงนี้ว่าร้อนแรงแล้ว ศึก “สีกากี” ชายแดนใต้ก็เดือดไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ที่เกิดศึกสายเลือด

ไม่รู้ “ปืน” ซื้อง่าย ขายคล่อง พกพาสะดวกกันหรืออย่างไร เพราะตลอดช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา นอกจากสาดน้ำเล่นกันอย่างสนุกสนานแล้ว หลายจุด หลายพื้นที่ ก็สาดกระสุนกันเหมือนบ้านเมืองไม่มีชืนมีแป

แสดงความยินดีกับ “นายพลสีกากี” ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เรื่องแต่งตั้งข้าราชการตำรวจและพระราชทานยศตำรวจชั้นนายพล วาระเดือนเมษายน 2568

เคลียร์ครบจบทุกประเด็นร้อนๆ ในแวดวง “สีกากี” ตลอดช่วงหลายสัปดาห์ ที่มีกระแสข่าวสะพัด อาจมีรายการ “สอดไส้” แต่งตั้ง “นายพล” วาระเดือนเมษายน แนบท้ายในบัญชีแต่งตั้ง

หากเป็นไปตามวาระปกติเหมือนทุกๆ ปี ตำรวจที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และพ้นจากราชการเมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ.2568 จะต้องโบกมืออำลา ถอดเครื่องแบบ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ใช้ชีวิตข้าราชการตำรวจ

รวดเร็วปานกามนิตหนุ่ม โปรเจกต์ป้ายแดง “กรมปทุมวัน” เออร์ลีรีไทร์ ระดับ “นายพล” หรือโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพลของ ตร. วาระกลางปี 1 เม.ย. ซึ่งเป็นครั้งแรก จากปกติที่มีวาระแค่ 1 ต.ค.เท่านั้น

เอ๊ะยังไง! ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ทิ้งคำพูดปริศนาเอาไว้ ในระหว่างเป็นประธาน เปิดโครงการอาหารกลางวันสำหรับข้าราชการตำรวจในหน่วยงาน

ก็มีดรามาเล็กๆ พอเป็นกระสาย พอเป็นสีสัน กับการแต่งตั้ง “นายพัน” สีกากี ตำแหน่ง รองผู้บังคับการ (รองผบก.) ถึง สารวัตร (สว.) วาระประจำปี 2567 ที่เพิ่งประกาศคำสั่งออกมาทันตามเงื่อนไข ทันตามคำสั่ง ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.

ต้องเรียกว่าได้กันแบบจุกๆ มติคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ครั้งที่ 2/2568 มี ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี นั่งหัวโต๊ะประธาน ก.ตร. แทนนายกฯ อิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา

หากทุกอย่างเป็นไปตามเดดไลน์แต่งตั้ง “นายพันสีกากี” ที่ ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร แม่ทัพใหญ่สีกากี มีบันทึกสั่งการให้แต่ละกองบัญชาการ จัดทำบัญชีแต่งตั้งตำรวจ ระดับ รองผู้บังคับการ (รองผบก.) ถึง สารวัตร(-สว.) วาระประจำปี 2567

ได้ฟังบทสัมภาษณ์ ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี เรื่องที่ถูก อดีตรอง ผบ.ตร.คนดัง ขึ้นโรงพักแจ้งความดำเนินคดี

เอ๊ะยังไง! ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ทิ้งคำพูดปริศนาเอาไว้ ในระหว่างเป็นประธาน เปิดโครงการอาหารกลางวันสำหรับข้าราชการตำรวจในหน่วยงาน

ตั้งแต่เห็น พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ออกคำสั่งเด้ง “ผกก.” หรือ “ผู้กำกับการ” ชายแดนจังหวัดตาก แบบรวดเดียว 3 โรงพัก ประกอบด้วย

น่าจะเป็นสัญญาณที่ดี สัญญาณที่ดูมีความหวัง การแต่งตั้งระดับ “นายพัน” ตำแหน่ง รองผู้บังคับการ (รองผบก.) ลงมาถึง สารวัตร (สว.) วาระประจำปี 2567

เข้าใจและเห็นใจ หัวอก “สีกากี” ที่ผิดหวัง ที่พลาดเก้าอี้ จากการแต่งตั้ง “นายพล” วาระประจำปี 2567 โดยเฉพาะ “นายพลล็อตสอง” ตำแหน่ง รองผู้บัญชาการ (รอง ผบช.) และผู้บังคับการ (ผบก.) ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา

ก่อนจัดโผแต่งตั้ง “นายพล” ล็อตสอง ตำแหน่ง รองผู้บัญชาการ (รอง ผบช.) – ผู้บังคับการ (ผบก.) ยศ พล.ต.ต. วาระประจำปี 2567 มีคำแนะนำออกมาจาก พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ถึงกรอบแนวทางในการแต่งตั้งต่อวงประชุม ก.ตร. 3 ข้อสำคัญ

หากทุกอย่างเป็นไปตามไทม์ไลน์ “กรมปทุมวัน” การแต่งตั้ง “นายพลเล็ก” ตำแหน่ง รองผู้บัญชาการ (รอง ผบช.)-ผู้บังคับการ (ผบก.) ยศ พล.ต.ต. วาระประจำปี 2567

การนัดประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ที่มี นายกฯ อิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน

ออกอาการเกร็งอย่างเห็นได้ชัด การจัดโผ “นายพล” ล็อตสอง ระดับรองผู้บัญชาการ (รอง ผบช.)-ผู้บังคับการ (ผบก.) วาระประจำปี 2567 หรือนายพลเล็ก ยศ พล.ต.ต. ทั่วประเทศ

ปวดหมองแทน ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร แม่ทัพใหญ่สีกากี กว่าจะฝ่าฝุ่นตลบงวดแต่งตั้ง “นายพลใหญ่” ระดับ รองผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติ ถึง ผู้บัญชาการ(ผบช.) ยศ พล.ต.อ.-พล.ต.ท.วาระประจำปี 2567 มาได้ก็แทบต้องเรียกหายาพารา