'อ.เอนก' ชวนย้อนรอยเส้นทาง Trade Route เส้นทางการค้าโลก ณ คอคอดกระ

24 ก.ค. 2567- ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เอนก เหล่าธรรมทัศน์ Anek Laothamatas ว่า

ผมชวนย้อนรอยเส้นทาง Trade Route เส้นทางการค้าโลก ณ คอคอดกระ บนแผ่นดินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นอนาคตของไทย อนาคตของโลก.....ชมคลิปไปด้วยนะครับ

“ แผ่นดินตะวันออกอันไกลโพ้น มีดินแดน ที่มีแต่ของดี ของล้ำค่า ซึ่งเป็นที่ปรารถนาของผู้คน เป็นดินแดนที่ร่ำลือกันว่ามีความมั่งคั่ง หากใครได้ไปถึงที่นั่น จะร่ำรวยกลับมา ”

ข้อความนี้ที่ถูกบันทึกไว้ในตำราการเดินเรือของกรีก โรมัน รวมทั้ง ในชาดก และ วรรณกรรมของอินเดีย จีน ทิเบต ในยุค 2,000 กว่าปีที่ผ่านมา

ที่มีการกล่าวขานถึงความมั่งคั่งของดินแดนที่เต็มไปด้วย ทองคำ ดีบุก เกลือ พริกไทย ผ้าไหม งาช้าง เพชร พลอย ลูกปัด และ อีกมากมาย ในนามของ “ The Golden Land แผ่นดินสุวรรณภูมิ” ครับ

ซึ่งปัจจุบันนักโบราณคดีได้ขุดค้นพบวัตถุโบราณอันล้ำค่าเหล่านี้ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญของศูนย์กลางแหล่งอารยธรรม ความเจริญรุ่งเรืองอันเป็นที่กล่าวขานเช่นนั้นมาตั้งแต่อดีตกาล บนผืนแผ่นดินไทยในปัจจุบันที่เราเรียกกันว่า “คอคอดกระ” ครับ

การค้นพบเหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องของคนรุ่นเก่าที่บ้าประวัติศาสตร์นะครับ แต่เป็นการเรียนรู้อดีต เพื่อจะเข้าใจปัจจุบันและเห็นการเดินทางต่อไปในอนาคต เพราะภูมิศาสตร์อันเป็นตำแหน่งที่ตั้งของประเทศไทยนั้นเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่เป็นสะพานเชื่อมโลกของ 2 มหาสมุทร ระหว่างมหาสมุทรอินเดีย และ ทะเลจีนใต้ หรือ มหาสมุทรแฟซิฟิค

อันเป็นแผ่นดินทอง แผ่นดินที่มีทรัพยากรธรรมชาติอันล้ำค่า ทั้งแร่ธาตุ โลหะ และ พันธุ์พืชต่างๆ เป็นศูนย์กลางการค้า เป็นจุดที่ตะวันตก พบตะวันออกนั้นเป็น “ความจริง” ตลอดกาลครับ

และเป็นเรื่องที่ยืนยันว่า ดินแดนที่ประเทศไทยตั้งอยู่นั้น มีความเป็น Civilization และ Globalization มานานแล้ว

เราไม่เคยล้าหลัง เราเป็นชาติที่เก่งเรื่องการค้าขายทางไกล การติดต่อทำการค้ากับผู้คนต่างเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ต่างอารยธรรม และเป็นที่เลื่องชื่อ ในเรื่องสหวิทยาการ เป็นแหล่งผลิตดีบุกคุณภาพดีที่สุดของโลก เป็นแหล่งผลิตสินค้าชั้นสูง เป็นเมืองอุตสาหกรรมที่ทันสมัย

มีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
ในขณะเดียวกันก็มีศิลปะ วัฒนธรรม อารยะธรรมที่เข้มแข็งเป็นเอกลักษณ์ จนเป็นที่ยอมรับ และเป็นชาติพันธุ์ที่มีความเป็นมิตร ผสมผสาน กลมกลืนบนความหลากหลาย โดยไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี

ซึ่งเรื่องเหล่านี้ล้วนปลูกฝังอยู่ใน DNA ของคนไทยมาตลอดครับ
คนในยุคโบราณเห็นความสำคัญของแผ่นดินที่มีความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ และก่อร่าง สร้างเมือง สู่นคร เป็นรัฐ และอาณาจักร จนเป็นชาติในปัจจุบัน

จากความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์มากว่า 2,500 ปี เป็นบทเรียนสำคัญที่ผู้นำ และ คนไทยในยุคปัจจุบันต้องเรียนรู้ความยิ่งใหญ่ในอดีต จากภูมิปัญญาของคนสมัยก่อนที่ใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ และ ความมั่งคั่งของทรัพยากรธรรมชาติของเรา

มาเป็นยุทธศาสตร์ในการเพิ่มคุณค่า และ มูลค่าของประเทศ และ เป็นการยกราคาของประเทศให้สูงขึ้น ให้สมกับที่เคยเป็นแผ่นดินทองมาช้านาน

เรียกได้ว่าเป็น Soft Power ที่มาจากผืนแผ่นดินที่เป็นมรดกของโลกแห่งนี้ โดยที่เราไม่ต้องสร้างขึ้นใหม่

ผมเชื่อมั่นว่า เรื่องดินแดนสุวรรณภูมิ จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของประเทศ ตามที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ท่านได้ทรงพระราชทานให้เป็นชื่อของสนามบินสากลแห่งชาติว่า “สนามบินสุวรรณภูมิ” เพื่อให้โลกได้จารึกถึงแผ่นดินทองแห่งนี้ตลอดไปครับ

ผมในฐานะ รมว.อว. ตอนนั้น สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน และ มองเห็นเรื่อง สุวรรณภูมิ นี้เป็นวาระแห่งชาติครับ

เพราะในโลกนี้มีเพียง 20 ประเทศเท่านั้น ที่มีภูมิศาสตร์แบบ 2 มหาสมุทร ซึ่งไทยเป็น 1 ในนั้น ดังนั้น เราต้องกำหนดยุทธศาสตร์ให้เราชนะ

จากข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์นี้ จึงเป็นเหตุที่ผมได้ตั้ง สถาบันสุวรรณภูมิศึกษา ขึ้นใน ธัชชา (Tassha) วิทยสถานสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ของประเทศไทย

เพื่อให้คนไทย โดยเฉพาะคนในกระทรวง อว. ได้เห็นความสำคัญ และ ใช้ทรัพยากรที่มีทั้งด้านวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม และ สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ศิลปกรรมศาสตร์

มาศึกษา ต่อยอด พัฒนา เรื่องของสุวรรณภูมิ ให้เป็นนโยบายของชาติ ในการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยก้าวสู่ประเทศพัฒนาแล้วให้ได้ภายในปี 2580

ผมต้องขอขอบคุณบุคคลสำคัญที่ขับเคลื่อนเรื่อง “สุวรรณภูมิ” มาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่

ท่าน ศ.พิเศษ ศรีศักร วัลลิโภดม นักวิชาการด้านโบราณคดีและมานุษยวิทยา

นพ.บัญชา พงษ์พานิช ประธานสถาบันสุวรรณภูมิศึกษา ธัชชา

ผศ.ชวลิต ขาวเขียว อดีตคณบดีคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร และ ผู้อำนวยการสถาบันสุวรรณภูมิศึกษา ธัชชา คนปัจจุบัน

และ อีกหลายๆท่านที่มิได้เอ่ยนาม มา ณ ที่นี้

และหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ นวัตกรรมที่มีส่วนสำคัญในการพิสูจน์หลักฐานยืนยันความเป็นสุวรรณภูมิให้ประจักษ์กันอย่างกว้างขวาง ได้แก่

...สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)

...สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)

...สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน)

...สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)

สุดท้าย ผมอยากจะชวนท่านผู้นำ และ ผู้มีบทบาทต่อนโยบายของประเทศในทุกภาคส่วน ให้พิจารณาจุดเด่นในเชิงกายภาพทางพื้นที่ภูมิศาสตร์ของเรา มาวิเคราะห์หาโอกาสที่สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของโลก

และพัฒนาคุณค่าแห่งอัตลักษณ์ของ “วัฒนธรรมสุวรรณภูมิ” ให้เป็นวาระแห่งชาติ
จะทำให้ไทยสามารถแข่งขัน และ โดดเด่นในเวทีโลก

เพราะโลกกำลังจะหันกลับสู่ความเจริญในอดีต บูรพาทิศ หรือ ดินแดนเอเชียอาคเนย์ กำลังจะฉายแววแห่งความเจริญผ่านร่องรอยทางอารยธรรมดั้งเดิม ในขณะที่โลกตะวันตกกำลังดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด

ไทยต้องใช้โอกาสนี้ให้โลกเห็นแผ่นดินสุวรรณภูมิเป็น แผ่นดินทอง อีกครั้ง ไทยจะก้าวสู่ประเทศพัฒนาแล้วภายในปี 2580 ได้แน่นอนครับ

..... เชิญทานอาหารให้อร่อยครับ

“เอกเขนก” รวมเรื่อง (ไม่) ลับตลอด 3 ปี ที่คุณไม่เคยได้ยินของผม อดีต รมว.อว.ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ กับ เรื่องราวเบื้องหลังแผนการเปลี่ยนไทยสู่ประเทศพัฒนาแล้วในปี 2580

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดร.เอนก' ฝากฝังลูกชาย 'เขตรัฐ' ลงส.ส.เขต4 กทม.เป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่เหมือน 'ก้าวไกล'

'ดร.เอนก' ฝากฝัง ลูกชาย-เขตรัฐ ลงสส.เขต4 กทม. พรรครทสช.เป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่เหมือนพวก'ก้าวไกล' มีความคิดข้อเสนอดีๆ มุ่งมั่นประสานสามัคคีกับผู้คนทุกวัยทุกฐานะทุกสายทุกอุดมการณ์ มีวุฒิภาวะพร้อมทำงานกับคนทุกวัย

'ดร.เอนก' แนะขยายตลาดชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าไปยังอินเดีย-CLMV ที่เชื่อมั่นเทคโนโลยีของไทย

'ดร.เอนก'แนะ ขยายตลาดชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าไปยังอินเดีย และ CLMV ชี้ ต่างชาติเชื่อมั่นเทคโนโลยีของไทย สอวช. ตั้งเป้าขับเคลื่อน 5 ทิศทางสำคัญ นำพาประเทศไทยบรรลุเป้าหมายสู่ประเทศพัฒนาแล้ว

อว.ยิ้มปีงบประมาณ 2567 กวาดงบกว่า 1.46 แสนล้าน!

อว.ปลื้ม ครม.อนุมัติงบประมาณปี 2567 รวมกว่า 1.46 แสนล้านบาท ฟุ้งพร้อมตอบโจทย์ประเทศทั้งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจบีซีจี เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และพัฒนากำลังคน

'สภาพัฒน์' แจงเหตุไม่เดินหน้าโครงการขุดคลองไทยต่อ

“โครงการคลองไทย”สะดุด สภาพัฒน์ไม่ยื้อศึกษาเพิ่มเติม ชี้ใช้งบมหาศาลไม่เหมาะสมกับการลงทุน ไม่คุ้มค่ากับสถานการณืปัจจุบัน ย้ำมีทางเลือกอื่นที่ลงทุนน้อยแต่ได้ประโยชน์เหมือนกัน เล็งนำข้อมูลผลศึกษาโครงการฯลงเว็ปไซต์เพื่อเผยแพร่ต่อไป

'เอนก' ยันไม่ยุบพรรคไปรวมกับใคร 'สุเทพ' ยังอยู่ ชี้พิจารณาตามสถานการณ์

"เอนก" ยืนยัน เดินหน้าพรรครวมพลังต่อไป "สุเทพ" ก็ยังอยู่ ไม่สนคนย้ายออก กั๊กอนาคต ร่วมรวมไทยสร้างชาติหรือไม่ อยู่ที่สถานการณ์การเมือง

เพื่อไทย ชำแหละโครงการ 'อว.' ใช้งบกลาง 2 พันล้าน ซ้ำซ้อนกระทรวงเกษตรฯ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อภิปรายกรณีการใช้งบกลางไม่โปร่งใสของนายกฯว่า สิ่งที่นายกฯบอกว่า พรรคฝ่ายค้านมีแต่นั่งร้านแต่ไม่มีหัว