เที่ยวกาฬสินธุ์ ถิ่นไดโนเสาร์

ททท. สำนักงานขอนแก่น เชิญชวนน้อง ๆ นักเรียน รวมถึงผู้ปกครองและนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวที่ชื่นชอบความสนุกและความตื่นเต้น ออกเดินทางไปท่องเที่ยวและเรียนรู้ เรื่องราวในยุคดึกดำบรรพ์ ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ พบกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยาที่มีธรรมชาติสวยงาม แปลกตา น่ามหัศจรรย์ พร้อมตามรอยสัตว์โลกล้านปีอย่างไดโนเสาร์ที่มีอยู่จริง

นายเสกสรร ศรีไพรวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  (ททท.) สำนักงานขอนแก่น ดูแลพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า จังหวัดกาฬสินธุ์เป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน ที่มีแหล่งท่องเที่ยวด้านธรณีวิทยาและธรรมชาติที่มีความสวยงาม แปลกตา มีเสน่ห์น่าค้นหา และยังเป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นดี สำหรับเด็กและเยาวชน นักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว รวมทั้งคนที่สนใจเกี่ยวกับโลกยุคดึกดำบรรพ์

ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการขุดค้นพบร่องรอยของไดโนเสาร์และซากดึกดำบรรพ์หลายแห่งในพื้นที่ ซึ่งทางจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อ งได้ร่วมกันดูแลรักษาและพัฒนา จนกลายเป็นศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับไดโนเสาร์ ซึ่ง  ททท. ได้ดำเนินการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้มาโดยตลอด อาทิ

น้องมะม่วง สื่อการ์ตูนชวนไปดูไดโนเสาร์

การสื่อสารผ่านคาแรกเตอร์การ์ตูนเกี่ยวกับบรรพชีวินและไดโนเสาร์ ด้วยการนำน้องมะม่วง ตัวการ์ตูนเด็กหญิงที่ใครๆ ก็หลงรักมาปรากฏตัวท่องเที่ยวอยู่บนเส้นทางทางไดโนเสาร์ ที่ถ่ายทอดกลิ่นอายความเป็นอีสานได้เป็นอย่างลงตัว เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่มครอบครัวที่มีสมาชิกเป็นเด็ก และกลุ่มนักเรียนในสถานศึกษา ซึ่งเป็นวัยที่ชอบความตื่นเต้น สนุกสนานและการค้นหา เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการออกเดินทางตามรอยโลกยุคดึกดำบรรพ์ รวมทั้งมีกิจกรรมผ่านสื่อออนไลน์ด้วยการเชิญชวนให้สแกนดาวน์โหลดวอลเปเปอร์น้องมะม่วงกับไดโนเสาร์ไปใช้ได้ฟรี 

วอลเปเปอร์สุดน่ารัก ดาวน์โหลดได้ฟรี

สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวสามารถไปชมเรื่องราวเกี่ยวกับไดโนเสาร์และสัตว์โลกในยุคโบราณ มีหลายแห่งที่น่าสนใจ ดังนี้

พิพิธภัณฑ์สิรินธร แหล่งเรียนรู้โลกดึกดำบรรพ์

เริ่มต้นกันที่อำเภอสหัสขันธ์ จุดแรกที่แนะนำคือ ศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว หรือ พิพิธภัณฑ์สิรินธร (Sirindhorn Museum) เป็นศูนย์วิจัยเกี่ยวกับไดโนเสาร์และพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์แห่งแรกของประเทศไทยที่สมบูรณ์ที่สุดในอาเซียน ตั้งอยู่ที่ตำบลโนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ โดยได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่า “พิพิธภัณฑ์สิรินธร” และมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2551

ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงนิทรรศการการกำเนิดโลก จักรวาล และสิ่งมีชีวิต ตลอดจนวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตและยุคของไดโนเสาร์ จนถึงการกำเนิดมนุษย์ รวมทั้งมีห้องปฏิบัติการวิจัยและศึกษาฟอสซิลไดโนเสาร์ที่สามารถชมการทำงานของนักวิจัยได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีหลุมขุดค้นจริงที่สามารถชมซากฟอสซิลกระดูกไดโนเสาร์ “ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน” ซึ่งเป็นไดโนเสาร์สกุลใหม่ของโลกที่ค้นพบเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทย ซึ่งมีสภาพสมบูรณ์เกือบทั้งตัว และตรงบริเวณชั้นที่ 2 ซึ่งเป็นพื้นที่ประชาสัมพันธ์ มีการจัดแสดงหุ่นจำลองไดโนเสาร์สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส และข้อมูลเกี่ยวกับธรณีวิทยาของประเทศไทย

ไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์ ที่พิพิธภัณฑ์สิรินธร

ส่วนนิทรรศการถาวรแบ่งพื้นที่ออกเป็น 8 โซน ดังนี้ 

โซนที่ 1 จักรวาลและโลก จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับจักรวาล โลก สิ่งมีชีวิต  รวมทั้งไดโนเสาร์ซึ่งถือกำเนิดมานานแล้ว

โซนที่ 2 เมื่อชีวิตแรกปรากฏ จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อราว 3,400 ล้านปีก่อน เป็นช่วงที่ดาวเคราะห์ร้อนจัดและปั่นป่วน เนื่องจากภูเขาไฟระเบิดและการพุ่งชนของอุกกาบาต โลกค่อยๆ เย็นตัวลง ทั้งบรรยากาศและน้ำช่วยนำทางไปสู่พัฒนาการของสิ่งมีชีวิต

โซนที่ 3 พาลีโอโซอิก มหายุคแห่งวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับมหายุคพาลีโอโซอิก ซึ่งมีระยะเวลาในช่วง 542-251 ล้านปีมาแล้ว โดยแบ่งออกเป็นยุคต่างๆ มีการจำลองสภาพภูมิประเทศที่เคยเกิดขึ้นในยุคนั้น พร้อมทั้งหุ่นจำลองของสัตว์ดึกดำบรรพ์ในยุคต่างๆ

โซนที่ 4 มหายุคมีโซโซอิก จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับมหายุคมีโซโซอิกซึ่งอยู่ในช่วงเวลา 251-65 ล้านปีก่อน

โซนที่ 5 วิถีชีวิตไดโนเสาร์ จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับไดโนเสาร์โดยเฉพาะ เช่น ลักษณะของไดโนเสาร์ชนิดต่างๆ การกินอาหาร, การล่าเหยื่อ, การป้องกันตัว, การเลี้ยงลูกอ่อน และการสูญพันธุ์

โซนที่ 6 คืนชีวิตให้ไดโนเสาร์ จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับนักบรรพชีวินวิทยาซึ่งทำงานศึกษาอนุรักษ์ซากดึกดำบรรพ์ทั่วโลก โดยมีการเล่าเรื่องราวผ่านจอวีดิทัศน์แสดงเหตุการณ์จำลอง

โซนที่ 7 ซีโนโซอิก มหายุคแห่งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จัดแสดงวิวัฒนาการของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แบ่งออกเป็น 7 สมัย คือ สมัยพาลีโอซีน, สมัยอีโอซีน, สมัยโอลิโกซีน, สมัยไมโอซีน, สมัยไพลโอซีน, สมัยไพลสโตซีน และสมัยโฮโลซีน

โซนที่ 8 เรื่องของมนุษย์ จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับวิวัฒนาการของมนุษย์ และการสร้างอารยธรรมของมนุษย์ผ่านวัตถุจัดแสดงต่างๆ เช่น โครงกระดูกจำลองของมนุษย์โบราณ ภาพวาด ภาพถ่าย แผนผัง และวีดิทัศน์

พิพิธภัณฑ์สิรินธร เปิดบริการทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 09.30-16.30 น.

อัตราค่าเข้าชมสำหรับชาวไทย ผู้ใหญ่ 50  บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก   70 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-4387-1612-6, 0-4387-1393-4 Website : www.sdm.dmr.go.th  Facebook Fan page : พิพิธภัณฑ์สิรินธร-Dinosaur museum

จากพิพิธภัณฑ์สิรินธร ไปชมความมหัศจรรย์แห่งผาหินกันที่ ผาแดงภูสิงห์  ตั้งอยู่ที่ตำบลภูสิงห์ อำเภอสหัสขันธ์เช่นกัน 

นักท่องเที่ยวชมทิวทัศน์ผาแดงภูสิงห์

ผาแดงภูสิงห์ เป็นผาหินทรายสีแดงขนาดใหญ่ ที่มีการเรียงตัวของชั้นหินอันเกิดจากการกัดเซาะของน้ำ มีความสวยงามจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen แห่งใหม่ของจังหวัดกาฬสินธุ์ และถือเป็นแหล่งมรดกทางธรณีวิทยาที่สำคัญ จากหน้าผาสามารถมองเห็นทั้งเขื่อนลำปาวและหมู่บ้านในเขตตำบลสหัสขันธ์ ซึ่งเป็นจุดที่สามารถถ่ายภาพ ชมวิวได้แบบสุดลูกหูลูกตา เหมาะแก่การมาพักผ่อนอย่างยิ่ง

มหัศจรรย์แห่งผาหิน ผาแดงภูสิงห์

นอกจากนี้ ที่นี่มีเส้นทางเดินป่าภูสิงห์ ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ที่ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้พบความสมบูรณ์ของป่า และต้นไม้หายากขนาดใหญ่ รวมถึงวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ตลอดสองข้างทาง ข้อแนะนำในการเดินทางสำหรับผู้ที่สนใจ ควรให้ไกด์ท้องถิ่นของชุมชนเป็นผู้นำทาง จะได้รับทั้งความรู้และความปลอดภัยไปพร้อมๆ กัน

ชั้นหินสวยงาม จากฝีมือธรรมชาติ ผาแดงภูสิงห์

ผู้สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 06-4317-3888 Facebook Fan page : การท่องเที่ยวอำเภอสหัสขันธ์

ส่วนคนที่ชอบเดินพิพิธภัณฑ์ ยังมีพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ นาไคร้ แหล่งค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์ชนิดกินพืช แหล่งใหญ่และสมบูรณ์ที่สุด แห่งที่ 2 ของกาฬสินธุ์ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดกาฬสินธุ์ ตั้งอยู่ที่บ้านนาไคร้  ตำบลกุดหว้า อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์

พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ นาไคร้ เป็นสถานที่ที่ขุดพบซากฟอสซิลกระดูกไดโนเสาร์ ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ถูกค้นพบในปี พ.ศ.2535 และหลังจากการสำรวจโดยผู้เชี่ยวชาญ มีการค้นพบซากกระดูกไดโนเสาร์ทั้งหมดจำนวน 171 ชิ้น ขณะนี้เก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์สิรินธร

ภายในพิพิธภัณฑ์ มีการจัดแสดงนิทรรศการแบ่งออกเป็น 5 โซน ได้แก่ 1.โซนฉากภาพยนตร์แนะนำสถานที่ 2.โซนระบบสุริยะ-โลก-ดวงจันทร์ 3.โซนแหล่งกำเนิดการค้นพบไดโนเสาร์บ้านนาไคร้ 4.ห้องประวัติการขุดพบซากฟอสซิลกระดูกไดโนเสาร์ที่บ้านนาไคร้ และเปรียบเทียบการวิ่งแข่งกับไดโนเสาร์สายพันธุ์ต่างๆ และ 5.ห้องจัดแสดงไดโนเสาร์จำลองสายพันธุ์ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน เคลื่อนไหวได้ และนิทรรศการไดโนเสาร์ จำลองกระดูกไดโนเสาร์

พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์บ้านนาไคร้ เปิดบริการทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. อัตราค่าเข้าชมสำหรับคนไทยผู้ใหญ่ 50 บาท, เด็กสูง 80 เซนติเมตรขึ้นไป 20 บาท, คณะนักเรียน 30 คนขึ้นไป 10 บาท, คณะผู้ใหญ่ 30 คนขึ้นไป 20 บาท, เด็กทารก/ผู้พิการ/พระ ฟรี ชาวต่างชาติ 50 บาท

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลนาไคร้ โทร. 08-2840- 9960 หรือ Facebook Fan page :   พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ บ้านนาไคร้  

มาถึงอำเภอกุฉินารายณ์แล้ว นอกจากเรื่องของไดโนเสาร์ ยังมีฟอสซิลปลาโบราณกว่า 100 ซาก ให้ชมกันที่ พิพิธภัณฑ์ซากปลาโบราณ ภูน้ำจั้น ตั้งอยู่ที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าภูโหล่ย บ้านดงเหนือ ตำบลเหล่าใหญ่ อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ถือเป็นการค้นพบฟอสซิลปลาโบราณครั้งแรกของประเทศไทย ปลาที่พบเป็นปลาเลปิโตเทสิ ปลาน้ำจืดมีความยาวประมาณ 30-60 เซนติเมตร ซึ่งมีชีวิตอยู่เมื่อ 65 ล้านปีที่แล้ว และสูญพันธุ์ไปพร้อมไดโนเสาร์ โดยซากฟอสซิลปลาโบราณส่วนใหญ่อยู่ในสภาพสมบูรณ์

ในปี พ.ศ.2557 ภูน้ำจั้นได้รับการประกาศและคุ้มครองเป็นแหล่งซากดึกดำบรรพ์ที่ขึ้นทะเบียนตาม พ.ร.บ.คุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ.2551 ปัจจุบันกำลังพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยว  มีอาคารจัดแสดงนิทรรศการต่างๆ รวมทั้งจัดแสดงตัวอย่างที่พบในแหล่งอีกด้วย

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ กองการศึกษา สำนักงานเทศบาลตำบลเหล่าใหญ่ โทร. 0-4360-2125-6 Facebook Fan page : แหล่งซากดึกดำบรรพ์ปลาโบราณภูน้ำจั้น

หากอยากย้อนเวลาไปสัมผัสป่าดึกดำบรรพ์ หรือป่ายุคจูราสสิก (Jurassic forest) ดูบ้าง แนะนำให้ไปที่ ภูปอ บ้านนาอุดม ตำบลนาบอน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ มีไฮไลต์คือ ไม้กลายเป็นหิน ที่มีอายุเก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในไทย

ภูปอ เป็นส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขาภูพาน ปกคลุมด้วยป่าผสมผลัดใบที่มีพืชเด่น ได้แก่ไผ่และหญ้า มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นประปรายไม่หนาแน่น และยังเป็นจุดพบไม้กลายเป็นหิน ทั้งส่วนโคนต้น ลำต้น และกิ่ง กระจัดกระจายไปทั่วตามพื้นดิน และเป็นจุดที่พบซากไม้กลายเป็นหินอายุกว่า 150 ล้านปี

จากการสำรวจของนักธรณีวิทยา พบว่า ไม้กลายเป็นหิน สามารถพบเห็นได้เกือบทั่วบริเวณภูปอ และจากการตรวจสอบเอกสารและงานวิจัย พบว่าไม้กลายเป็นหินนี้เป็นพืชที่อยู่ในตระกูลกลุ่มสน ปรง และแปะก๊วย ซึ่งพืชทั้งหมดเป็นอาหารที่สำคัญของเหล่าสัตว์กินพืช รวมถึงไดโนเสาร์ ถูกพบอยู่ในสภาพที่เก่าแก่และค่อนข้างสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย จังหวัดกาฬสินธุ์จึงได้อนุรักษ์ให้พื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่สำคัญ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลนาบอน โทร. 0-4384-0531

สำหรับอำเภอคำม่วง ยังถือเป็นประตูสู่โลกดึกดำบรรพ์ เพราะที่นี่เป็นสถานที่ที่มีการขุดค้นพบซากดึกดำบรรพ์ตั้งแต่ฟันขนาดเล็กเพียงไม่กี่มิลลิเมตร ไปจนถึงกระดูกใหญ่เกือบเท่าตัวคน และมีความหลากหลายทางสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น จระเข้ ฉลามน้ำจืด เต่า ปลา สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก จึงนับว่าเป็นแหล่งค้นพบซากไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ และมีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก ได้รับฉายาว่าเป็น จูราสสิกพาร์คเมืองไทย (Jurassic Park)

มินิโมเคอร์เซอร์ ภูน้อยเอนซิส ไดโนเสาร์ที่เพิ่งขุดพบ

ล่าสุดในปี พ.ศ.2566 ได้มีการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของไดโนเสาร์ชนิดใหม่ ที่แหล่งซากดึกดำบรรพ์ภูน้อย เป็นไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ตัวที่ 13 ที่พบในไทย โดยได้มีการตั้งชื่อว่า “มินิโมเคอร์เซอร์ ภูน้อยเอนซิส” (Minimocursor phunoiensis gen. et sp. nov.) นับเป็นซากไดโนเสาร์ที่มีความสมบูรณ์ค่อนข้างมาก จนได้รับฉายาว่า “นักวิ่งตัวจิ๋วจากแหล่งภูน้อย” เป็นไดโนเสาร์กินพืชตัวเล็ก ที่มีความคล่องแคล่ว รูปลักษณ์ส่วนศีรษะเป็นสีชมพู นัยน์ตากลมโต ปากเป็นจะงอยสั้นคล้ายนก มีขนฟูทั่วตัว  สามารถวิ่งหนีไดโนเสาร์กินเนื้อที่ดุร้ายได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว

นักวิ่งตัวจิ๋วจากแหล่งภูน้อย

แหล่งขุดค้นคว้าไดโนเสาร์ภูน้อย

แหล่งซากดึกดำบรรพ์ภูน้อยเป็นพื้นที่เล็กๆ ประมาณ 1,200 ตารางเมตร ขนาดเท่าสนามบาสเกตบอล 3 สนาม บนภูเขาหินตะกอนลูกเล็กที่อยู่ตามแนวเทือกเขาภูพาน อยู่ที่ตำบลดินจี่ อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้สนใจอยากรู้จักแหล่งซากดึกดำบรรพ์ภูน้อยเพิ่มเติม สามารถหาอ่านได้จาก หนังสือ คู่มือนักเล่าเรื่อง ภูน้อย หุบเขาไดโนเสาร์ไทย

การทำงานภาคสนามในแหล่งขุดภูน้อย

ปิดท้ายเรื่องราวยุคดึกดำบรรพ์ ด้วยการไปชมรอยเท้าไดโนเสาร์กันที่ วนอุทยานภูแฝก (แหล่งรอยเท้าไดโนเสาร์) ตั้งอยู่หมู่ 6 บ้านน้ำคำ ตำบลภูแล่นช้าง อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์

วนอุทยานภูแฝก แหล่งรอยเท้าไดโนเสาร์

วนอุทยานภูแฝก หรือแหล่งรอยเท้าไดโนเสาร์ภูแฝก เป็นแหล่งรอยเท้าไดโนเสาร์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย การพบรอยเท้าไดโนเสาร์ทำให้ทราบว่าชั้นหินทรายในบริเวณนี้ ในอดีตมีสภาพเป็นหาดทรายริมน้ำที่ไดโนเสาร์เดินผ่าน หรือเที่ยวหากิน เจ้าหน้าที่นักธรณีวิทยาพร้อมด้วยส่วนราชการและเอกชนในจังหวัดกาฬสินธุ์เดินทางไปสำรวจ จึงพบว่าเป็นรอยเท้าไดโนเสาร์ประเภทเทอร์โรพอด 7 รอย จัดอยู่ในกลุ่มคาร์โนซอร์ชนิดกินเนื้อ อายุประมาณ 140 ล้านปี ปัจจุบันสามารถเห็นรอยชัดเจนเพียง 3 รอยเท่านั้น

รอยทางเดินไดโนเสาร์ที่ภูแฝก

ทั้งนี้ เพื่ออนุรักษ์ซากร่องรอยดึกดำบรรพ์ดังกล่าว วันที่ 27 มกราคม พ.ศ.2540 กรมป่าไม้จึงได้ประกาศจัดตั้งพื้นที่โดยรอบประมาณ 4,062 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติดงห้วยฝา ในท้องที่บ้านน้ำคำ ตำบลภูแล่นช้าง อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ ขึ้นเป็น “วนอุทยานภูแฝก” และได้ร่วมกับกรมชลประทานก่อสร้างฝายน้ำล้นบริเวณต้นน้ำ เพื่อชะลอความรุนแรงของกระแสน้ำในฤดูฝนไม่ให้พัดพาก้อนหินมาครูดถูกับรอยเท้าไดโนเสาร์จนลบเลือนไป

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 08-1862-4446

ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานขอนแก่น กล่าวในตอนท้ายว่า "การท่องเที่ยวตามรอยไดโนเสาร์และสิ่งมีชีวิตในยุคโบราณแบบนี้ เป็นการท่องเที่ยวที่ผู้มาเยือนจะได้รับทั้งความสนุกและความรู้กลับไป เชื่อว่าเด็กๆ และเยาวชนส่วนใหญ่ที่เคยดูภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับไดโนเสาร์มาก่อนน่าจะมีความตื่นเต้น และต้องการได้มาสัมผัสกับสถานที่จริงที่มีร่องรอยของไดโนเสาร์กันสักครั้ง ประกอบกับในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ยังมีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของวัฒนธรรมอีสาน อาหารการกิน การคมนาคมที่สะดวก โรงแรม  รีสอร์ตที่พักที่มีมาตรฐานและมีให้เลือกมากมาย การเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ ในช่วงปิดเทอม หรือวันหยุด และวันนักขัตฤกษ์ จึงเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและสามารถตอบโจทย์ความต้องการสำหรับสมาชิกในกลุ่มครอบครัวและผู้สนใจ เช่น กลุ่มน้องๆ ในสถาบันการศึกษาต่างๆ ได้เป็นอย่างดี”

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมทาง  Facebook Fanpage : ททท.สำนักงานขอนแก่น TAT Khonkaen Fanpage หรือ  โทรศัพท์. 0-4322-7714  หรือ โทร. 1672  Travel Buddy

สรณะ รายงาน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ททท. จัดประกวดกระทงสร้างสรรค์รักษ์โลก ในงาน 'สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2567'คลองผดุงกรุงเกษม

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานลอยกระทง “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2567” ระหว่างวันที่ 13-16 พฤศจิกายน 2567 โดยไฮไลท์วันสุดท้าย มีการประกวดกระทงสร้างสรรค์รักษ์โลก

MUST SEEK! เปิดประตูสู่สวรรค์ สุขท้าลอง @จันทบุรี

บรรยากาศในช่วงปลายฝนต้นหนาวเป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่เราจะออกเดินทางเที่ยวชมบรรยากาศของความสดชื่นของผืนป่า ใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศแห่งขุนเขาแบบไม่ต้องดั้นด้นเดินทางไกลมาก แนะนำว่าให้มาเที่ยวจันทบุรี

ททท. เปิดแคมเปญ WOW! ไทยแลนด์ มอบของที่ระลึกเสน่ห์ไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยว

น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า โครงการ Amazing Thailand Passport Privileges เป็นความร่วมมือระหว่าง ททท. และพันธมิตร ในการจัดทำกิจกรรมเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

ททท. จับมือ TikTok ปั้นบุคลากรสู่อินฟลูเอนเซอร์ท่องเที่ยว

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ TikTok Thailand จัดกิจกรรมอบรม TikTok Content Creator ในหัวข้อ "วิธีการสร้างสรรค์เนื้อหาและแนวทางในการพัฒนาเนื้อหา Content" เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาความรู้ ความสามารถ ในเรื่องการพัฒนา Smart People และ Smart Economy ของบุคลากรในองศ์กร ททท.

ททท. ดึง 'กองทัพ พีค - ต้าห์อู๋ - วันเดอร์เฟรม - PROXIE' ฉลองสัมพันธ์การทูต ไทย-จีน

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรม “Sound of Friendship Concert” ณ SCBX NEXT TECH ชั้น 4 สยามพารากอน ร่วมเปิดงาน โดย จิระวดี คุณทรัพย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. และ ภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้