ททท. สำนักงานสุพรรณบุรี ชวนคนที่ชื่นชอบเดินสายทำบุญไหว้พระ พลาดไม่ได้กับงาน “ร่มโพธิ์ทอง ห่มผ้าพระนอน เกษตรและของดีเมืองอ่างทอง” งานบุญใหญ่ที่ชาวอ่างทองเชื่อว่าจะนำความสงบสุขร่มเย็นมาให้ชีวิต จากนั้นไปทัวร์วัดเก่าแก่ พร้อมชม ชิม ช้อป ของดีวิถีเกษตรปลอดภัย ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบายช่วงกรีนซีซั่น
เชิญชวนร่วมงานห่มผ้าพระนอน
นายอภิวัฒน์ ทับทิมโต ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุพรรณบุรี รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม-6 สิงหาคม 2566 จังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วย ททท. และเครือข่ายพันธมิตร กำหนดจัดงาน “ร่มโพธิ์ทอง ห่มผ้าพระนอน เกษตรและของดีเมืองอ่างทอง” ณ วัดขุนอินทประมูล อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมสำคัญทางศาสนา สินค้าเกษตรกรรม และผลิตภัณฑ์ชุมชนของจังหวัดอ่างทองให้เป็นที่รู้จัก สร้างภาพลักษณ์ที่ดีในการเป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัย และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและชุมชน
พระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอน วัดขุนอินทประมูล อำเภอโพธิ์ทอง
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย พิธีห่มผ้าพระนอน, การออกร้านจำหน่ายสินค้าเกษตร สินค้า OTOP, การแสดงศิลปวัฒนธรรม เช่น การแสดงโขน จากวิทยาลัยนาฏศิลป์ อ่างทอง, พบกับแปลงฝึกอบรม
(การทำนา), การแข่งขันจับปลาไหล, การแข่งขันหุงข้าวหม้อดิน, แข่งขันทำสำรับกับข้าว, การประกวดไก่พื้นเมือง และพิธีทำขวัญข้าว
ในส่วนของกิจกรรมห่มผ้าพระนอน กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 1 สิงหาคม 2566 ซึ่งตรงกับวันอาสาฬหบูชา โดยพิธีจะเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้า มีการตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง และช่วงเย็นมีพิธีแสดงธรรมเทศนา ก่อนเริ่มการแห่ผ้าห่มและห่มผ้าองค์พระพุทธไสยาสน์ พร้อมเวียนเทียนรอบองค์พระนอน พิธีนี้ถือเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาช้านาน โดยจัดปีละ 4 ครั้ง ในวันสำคัญทางศาสนา ได้แก่ วันวิสาขบูชา, วันมาฆบูชา, วันอาสาฬหบูชา และวันที่ 30 ธันวาคม ของทุกปี โดยเชื่อกันว่าการห่มผ้าพระนอนนี้จะส่งผลบุญให้เกิดความสงบสุขร่มเย็นแก่ตนเองและครอบครัว
บรรยากาศงานห่มผ้าพระนอน
สำหรับผู้สนใจไปร่วมพิธีนี้ได้ที่ วัดขุนอินทประมูล ตำบลอินทประมูล อำเภอโพธิ์ทอง ซึ่งเป็นวัดที่ประดิษฐานพระนอน หรือพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ และยาวที่สุดองค์หนึ่งของประเทศไทย มีความยาว 50 เมตร หรือ 25 วา มีอายุเก่าแก่ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย เดิมประดิษฐานอยู่ในวิหาร แต่วิหารถูกไฟไหม้เหลือแต่องค์พระอยู่กลางแจ้ง องค์พระมีพุทธลักษณะที่งดงาม พระพักตร์ยิ้มละไม สงบเยือกเย็น น่าเลื่อมใสศรัทธายิ่งนัก
ภายในบริเวณวัดขุนอินทประมูลยังมีซากโบราณสถาน คือ วิหารหลวงพ่อขาว ซึ่งเหลือเพียงฐานผนังบางส่วนและองค์พระพุทธรูป และในศาลาอเนกประสงค์มีศาลรูปปั้นขุนอินทประมูลผู้มีส่วนสำคัญกับสร้างวัดและบูรณะพระนอน ปัจจุบันมีโบสถ์ไฮเทค ซึ่งเป็นพระอุโบสถที่มีบันไดเลื่อนและลิฟต์ สำหรับอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้สูงอายุที่เดินทางมาทำบุญด้วย
นอกจากนี้ จังหวัดอ่างทอง ยังมีศาสนสถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงอีกหลายแห่ง โดยเฉพาะองค์พระนอน และพระใหญ่ ททท. สำนักงานสุพรรณบุรี จึงขอแนะนำเส้นทางไหว้พระขอพรเพิ่มเติม ดังนี้
วัดม่วง ตั้งอยู่ที่ตำบลหัวตะพาน อำเภอวิเศษชัยชาญ เป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อใหญ่” หรือ “พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย องค์ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2550 เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ลักษณะการก่อสร้างเป็นคานคอนกรีตเสริมเหล็กเป็นชั้นๆ แบบเดียวกับโครงสร้างตึกสูง 32 ชั้น ก่ออิฐถือปูนฉาบทาสีทองตลอดทั้งองค์ ใช้เวลาก่อสร้าง 16 ปี ขนาดหน้าตักกว้าง 63 เมตร สูง 95 เมตร นักท่องเที่ยวนิยมมาสักการะโดยให้ศีรษะได้สัมผัสที่ปลายพระหัตถ์ของหลวงพ่อใหญ่ เพื่อขอพรให้เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน
ภายในวัดยังมีพระอุโบสถ ล้อมรอบด้วยกลีบบัวสีชมพูขนาดใหญ่ที่สุดในโลก วิหารแก้ว เป็นพิพิธภัณฑ์วัตถุมงคลและวัตถุโบราณ รวมทั้งรูปปั้นเกจิอาจารย์ดังจากทั่วประเทศ และพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เนื้อเงินแท้องค์แรกองค์เดียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ฯลฯ
วัดป่าโมกวรวิหาร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตเทศบาลตำบลป่าโมก อำเภอป่าโมก เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ มีความยาวประมาณ 22.58 เมตร เป็นพระพุทธไสยาสน์ที่เลื่องลือกันว่ามีความงดงามมากที่สุดองค์หนึ่งของเมืองไทย นอกจากนี้ยังมี “วิหารเขียน” ผนังวิหารด้านที่หันหน้าออกสู่แม่น้ำมีแท่นสูง สันนิษฐานว่าเป็นที่ประทับของพระเจ้าท้ายสระแห่งกรุงศรีอยุธยาในคราวเสด็จชะลอองค์พระพุทธไสยาสน์ให้พ้นจากกระแสน้ำที่เซาะตลิ่งพัง และตามพระราชพงศาวดาร กล่าวว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชก่อนจะยกทัพไปรบกับพระมหาอุปราชได้เสด็จฯ มาชุมนุมและถวายสักการบูชาพระพุทธไสยาสน์องค์นี้
สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่ พระวิหารพระพุทธไสยาสน์ พระอุโบสถ และมณฑปที่ประดิษฐานพระพุทธบาทสี่รอยสลักด้วยหิน เป็นลักษณะของสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาที่มีความงดงามมาก
สมเด็จพระพุทธนวโลกุตร วัดต้นสน
วัดต้นสน ตั้งอยู่ที่ถนนเทศบาล 10 อำเภอเมืองอ่างทอง เป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนปลาย และเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางสะดุ้งมารที่มีขนาดองค์ใหญ่ พระนามว่า “สมเด็จพระพุทธนวโลกุตรธัมมบดีศรีเมืองทอง” หรือ "สมเด็จพระศรีเมืองทอง” ซึ่งเริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ.2516 และสำเร็จเมื่อปี พ.ศ.2528 เป็นพระพุทธรูปที่หล่อด้วยทองเหลืององค์ใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง 6 วา 3 ศอก 9 นิ้ว มีความสูง 9 วา 2 ศอก 19 นิ้ว เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจังหวัดอ่างทองและใกล้เคียงเคารพนับถือเป็นอย่างมาก
ภายในวัดยังมี พระบรมสารีริกธาตุ “พระอรหันตธาตุ” ประดิษฐานในบุษบกที่สวยงาม มีหลวงพ่อดำ ประดิษฐานบนฐานชุกชี พุทธลักษณะคล้ายกับสมเด็จพระศรีเมืองทอง พร้อมกับพระอัครสาวกซ้ายและขวา ขนาบข้างด้วยฉัตรทอง ภายในมีภาพจิตรกรรมที่สวยงามรอบด้าน มีศาลซำปอกง พระพุทธชินราช เจ้าแม่กวนอิม และพระพุทธโสธร ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทองสร้อยสุวรรณ์ อายุกว่าพันปี หลวงปู่ทวด ศาลพระอินทร์พระเกตุแก้วจุฬามณีเจดีย์ และวังมัจฉา ที่ทางวัดได้เลี้ยงปลาไว้ที่ริมเขื่อนน้ำเจ้าพระยาเป็นจำนวนมาก
หลวงพ่อโต วัดไชโยวรวิหาร อำเภอไชโย
วัดไชโยวรวิหาร หรือ วัดเกษไชโย ตั้งอยู่ตำบลไชโย อำเภอไชโย เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธปางสมาธิองค์ใหญ่ ซึ่งเดิมสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) มาสร้างไว้กลางแจ้ง ไม่มีวิหารครอบ ชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงพ่อโต” ต่อมารัชกาลที่ 5 ทรงให้มีการบูรณะวัดเกษไชโยเสียใหม่ ซึ่งในการก่อสร้างวิหาร มีการกระทุ้งราก เกิดความสะเทือนทำให้หลวงพ่อโตองค์เดิมพังทลายลงมา รัชกาลที่ 5 จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างหลวงพ่อโตขึ้นใหม่ตามแบบหลวงพ่อโตของวัดกัลยาณมิตร ขนาดหน้าตักกว้าง กว้าง 8 วา 6 นิ้ว สูง 11 วา 1 ศอก 7 นิ้ว และพระราชทานนามว่า “พระมหาพุทธพิมพ์” หรือ “หลวงพ่อโต”
ภายในวัดยังมีวิหารที่ประดิษฐานรูปหล่อของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และภายในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพุทธประวัติ ฝีมือช่างในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่สวยงาม สถานที่ตั้งวัดอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศเงียบสงบ และเนื่องจากประวัติของวัดเกี่ยวข้องกับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ชาวบ้านจึงมีความศรัทธาและนิยมไปกราบไหว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล
รูปปั้นขุนรองปลัดชู ผู้นำการรบกับพม่าที่วัดสี่ร้อย
วัดสี่ร้อย ตั้งอยู่ที่ตำบลสี่ร้อย อำเภอวิเศษชัยชาญ เป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อโต” หรือหลวงพ่อร้องไห้ ขนาดหน้าตักกว้าง 6 เมตรกว่า สูง 21 เมตร เป็นพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ สันนิษฐานว่า ชื่อวัดนี้ตั้งขึ้นเป็นอนุสรณ์ให้แก่ขุนรองปลัดชู และชาวบ้านวิเศษชัยชาญ 400 คน ที่เสียชีวิตจากการสู้รบกับพม่าที่เมืองกุย (อยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์) ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ วัดนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้นเมื่อมีการสร้างภาพยนตร์เรื่อง “ขุนรองปลัดชู วีรชนคนถูกลืม” ออกฉายในปี พ.ศ.2554 เนื้อหาว่าด้วยความกล้าหาญของขุนรองปลัดชูและชาววิเศษชัยชาญ
รากต้นโพธิ์โอบผนังโบสถ์ วัดสังกระต่าย
วัดสังกระต่าย ตั้งอยู่ตำบลศาลาแดง อำเภอเมืองอ่างทอง เดิมชื่อวัดสามกระต่าย เป็นวัดร้าง ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ปัจจุบันมีเพียงโบสถ์เก่าที่เหลือแค่ส่วนผนังของโบสถ์ ที่มีต้นโพธิ์ 4 ต้น ขึ้นปกคลุมแล้วยึดผนังโบสถ์เอาไว้ในลักษณะ 4 มุมพอดี โบสถ์มี 3 ห้อง มีห้องกลางเป็นห้องที่ประดิษฐานพระประธาน และพระพุทธรูปองค์เล็กอีก 2 องค์ มุม Unseen ของวัดนี้ คือ ช่องหน้าต่างที่มองเข้าไปตรงกับองค์พระพอดี กับผนังที่ถูกอุ้มไว้ด้วยรากของต้นโพธิ์
โบสถ์เก่าวัดสังกระต่าย อ.เมืองอ่างทอง
วัดท่าอิฐ ตั้งอยู่ที่บ้านท่าอิฐ ตำบลบางพลับ อำเภอโพธิ์ทอง ภายในวัดมีพระประธานในพระอุโบสถซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “หลวงพ่อเพ็ชร” และพระประธานในวิหารชาวบ้านเรียกว่า “หลวงพ่อขาว” เป็นพระพุทธรูปที่สร้างในสมัยอยุธยา ประมาณกว่า 200 ปีมาแล้ว ความโดดเด่นของวัดอยู่ที่ “พระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง” เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม รูปแบบศิลปะลังกา-อยุธยา มองเห็นสีทองอร่ามงดงามมาก ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ให้ประชาชนได้มาสักการบูชา
วัดจันทรังษี ตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองอ่างทอง เป็นสถานที่ตั้งของรูปหล่อโลหะของ “หลวงพ่อสด” องค์ใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง 6 เมตร 9 นิ้ว สูง 9.9 เมตร มีสีเหลืองอร่าม งดงามมาก นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกองค์หนึ่ง เป็นพระพุทธรูปโยกได้ที่มีอายุกว่า 300 ปี เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นศิลปะแบบอยุธยาที่ชาวบ้านเรียกว่า “หลวงพ่อโยก” มาจากความเชื่อว่า หลวงพ่อ จะนั่งโยกตัวเอง โดยโยกซ้ายที โยกขวาที ให้ชาวบ้านเห็น ตามตำนานเล่าต่อๆ กันว่า หลวงพ่อโยก นั้นเป็นพระพุทธรูปทองคำ ที่ชาวบ้านโบกปูนทับเพื่อพรางสายตาทหารพม่าในสมัยอยุธยา เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียง ผู้ที่ได้มากราบไหว้ขอพรสิ่งใดไว้ มักสมหวังตามความปรารถนา
รูปหล่อโลหะหลวงพ่อสด วัดจันทรังษี
ด้านหลังมีวิหารทรงจีนเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมพันมือ นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีเจ้าแม่ตะเคียน เรือโบราณ ให้ได้ขอโชคขอลาภกันอีกด้วย
ผู้ที่สนใจท่องเที่ยววิถีชุมชน สามารถแวะไปที่ ตลาดศาลเจ้าโรงทอง หรือตลาดวิเศษชัยชาญ อำเภอวิเศษชัยชาญ เป็นตลาดเล็กๆ ที่มีความเก่าแก่ของชาวจีน ด้วยอายุกว่า 100 ปี
ศาลเจ้าโรงทอง
มีชื่อเสียงในเรื่องของการทำขนมโบราณที่หารับประทานได้ยาก เช่น ขนมเกสรลำเจียก ขนมลูกเต๋า ขนมบ้าบิ่น ขนมไข่ปลา ข้าวต้มมัด เป็นต้น บรรยากาศภายในตลาดจะรายล้อมด้วยอาคารบ้านเรือน ที่ได้รับวัฒนธรรมแบบจีน มีศาลเจ้าให้ประชาชนทั่วไปได้เคารพสักการะ ซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวชุมชน
ขนมไทยโบราณในตลาดศาลเจ้าโรงทอง
ยิ่งไปกว่านั้น จังหวัดอ่างทองยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองเกษตรและเป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัย โดยมีต้นแบบในพื้นที่โครงการพระราชดำริฯ ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่น่าสนใจ ได้แก่
โครงการพระราชดำริฯ และฟาร์มตัวอย่างหนองระหารจีน ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าอิฐ อำเภอเมืองอ่างทอง เป็นสถานที่ดำเนินการจัดทำการเกษตรแบบผสมผสาน โดยน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้เป็นต้นแบบในการดำเนินงาน เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ปลอดภัยจากสารพิษ โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ถึงกระบวนการด้านการทำเกษตรต่างๆ เช่น การปลูกผักสลัด การเพาะถั่วงอกแบบคอนโด การเพาะเห็ดชนิดต่างๆ การเลี้ยงแพะ การปศุสัตว์ และการทำประมง ฯลฯ รวมทั้งมีการจำหน่ายพืชผักไร้สารพิษที่มีความสดใหม่อีกด้วย ที่นี่เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะ สามารถโทร.ประสานงานจองล่วงหน้าได้ที่หมายเลข โทร. 08-0111-1389, 06-5292-4564
โครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ บ้านยางกลาง ตำบลสีบัวทอง หรือศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทอง ตั้งอยู่ที่อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 1,000 ไร่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและหัตถกรรมตามแนวพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ภายในศูนย์ฯ มีรถรางนำชมในจุดต่างๆ พร้อมวิทยากรบรรยาย มีกิจกรรมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ กิจกรรมเรียนรู้การปลูกผักปลอดสารพิษ การเก็บผักในแปลงดินซึ่งเป็นผักตามฤดูกาล การระบายสีจากวัสดุธรรมชาติ การทำไอศกรีมจากน้ำสมุนไพร การเพาะเห็ดและเก็บเห็ด การทำนาโยน การชมโรงผลิตกระดาษข่อยและหัวโขนและโรงทอผ้ายก การปักผ้า การชมวิธีการปั้นและเพนต์เซรามิก
นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์งานฝีมือหัตถกรรมในโครงการพระราชดำริฯ อีกหลายอย่างให้เลือกซื้อเลือกชมให้เป็นของขวัญของฝาก อาทิ ผ้าทอ กระเป๋าผ้า ชุดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร และดอกไม้ประดิษฐ์ ซึ่งมีจำหน่ายในตัวอาคารขายสินค้าที่ระลึก ฯลฯ
ศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทอง เปิดให้เข้าชมทุกวัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 08-1748-3163, 08-6146-5002
ศูนย์ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ อ.ป่าโมก
ศูนย์ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ
ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดท่าสุทธาวาส ตำบลบ้านบางเสด็จ อำเภอป่าโมก เป็นโครงการที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2519 เพื่อส่งเสริมอาชีพแก่ราษฎรให้มีรายได้เสริม และมีการสืบทอดสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน และยังเป็นงานศิลปหัตถกรรมที่ส่งออกขายไปต่างประเทศ
กิจกรรมภายในศูนย์ฯ มีการสาธิตปั้นตุ๊กตาชาววัง รวมทั้งการจัดแสดงผลงาน และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตุ๊กตาชาววัง ซึ่งเป็นการกระจายรายได้ให้แก่ชุมชน และเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่นักท่องเที่ยว
ผลงานตุ๊กตาชาววังปั้น บ้านบางเสด็จ
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมการสาธิตปั้นตุ๊กตาชาววัง และเรียนรู้การปั้นตุ๊กตาด้วยดินเหนียว ที่แสดงให้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน และประเพณีวัฒนธรรมไทยต่างๆ อาทิ การละเล่นของเด็กไทย วงมโหรีปี่พาทย์ สุภาษิตคำพังเพยไทย และผลไม้ไทยอีกหลากหลายชนิด ซึ่งมีความสวยงามน่ารักในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ โทร. 06-1494-0538
ผัดไทยท้องคุ้ง เมนูเจ้าเก่าขึ้นชื่อ
เมื่อเดินทางมาถึงจังหวัดอ่างทองแล้ว ที่นี่มีอาหารพื้นบ้านในกลุ่มเมนูปลา และยังมีอาหารการกินแบบไทยโบราณหลายชนิดให้เลือกชิม เช่น ในเขตอำเภอเมืองอ่างทองมี ร้านผัดไทยท้องคุ้ง ถือเป็นร้านผัดไทยเจ้าเก่าของเมืองอ่างทอง ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ตามสูตรเด็ดของร้าน ร้านเล็กบ้านรอ เป็นร้านอาหารไทยสไตล์บ้านสวน มีเมนูเด็ดที่ควรลิ้มลอง เช่น แกงคั่วหอยขม ผัดเผ็ดกระดูกอ่อน เป็นต้น ร้านบอกต่อ เป็นร้านอาหารไทย เมนูแนะนำ เช่น ไก่ห่อใบเตย กุ้งกระเบื้อง ปลาทับทิมนึ่งมะนาว เป็นต้น ร้านนี้มีความพิเศษที่ภาชนะที่ใช้ในการเสิร์ฟของร้านทำจากผลิตภัณฑ์พื้นบ้านเพิ่มความเก๋ไก๋ น่ารับประทาน
ถ้าไปที่อำเภอป่าโมก แนะนำ ร้านอาหารปิ่นโต เป็นร้านอาหารไทยตกแต่งด้วยสไตล์บาหลี อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีเถาปิ่นโตตกแต่งภายในร้าน เมนูเด่นแนะนำ เช่น ขาหมูปิ่นโต ปลาค้าวทอดราดน้ำปลา ปลาม้าผัดยอดชะอม ปลาช่อนทรงเครื่อง ฯลฯ
ส่วนที่อำเภอวิเศษชัยชาญ ใกล้ตลาดศาลเจ้าโรงทอง แนะนำ ร้านอาหารนิรมิต อยู่ริมแม่น้ำน้อย บรรยากาศร่มรื่น เมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ ไก่ทอดกรอบ คะน้าปลาเค็ม ต้มยำปลาคังมีเนื้อปลาสด และห่อหมกลูกชิ้นปลากราย ฯลฯ อีกทั้งมีขนมไทยให้ลูกค้าได้เลือกซื้อไปเป็นของฝากกลับบ้านอีกด้วย
บ้านหุ่นเหล็กที่เด็กๆ ชื่นชอบ
สำหรับสายคาเฟ่ พลาดไม่ได้กับหลากร้าน หลากสไตล์ที่มีทั้งเครื่องดื่ม อาหารและบรรยากาศให้นั่งพักผ่อนได้หลายร้านตามความชอบ เช่น ในตัวเมืองอ่างทอง มีร้านเก๋ไก๋อย่าง สภากาแฟ @ บ้านหุ่นเหล็ก เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ และสมาชิกในครอบครัวมาก เพราะที่นี่มีหุ่นเหล็กสารพัดรูปแบบ มีช็อกโกแลตทำเป็นเครื่องมือช่าง เมนูแนะนำ คือ ชากุหลาบฝรั่งเศส และไอศกรีมแบบต่างๆ ที่จะทำให้ทุกคนเห็นแล้วร้องว้าว
ร้านกาแฟบรรยากาศร่มรื่น Poom Cafe อำเภอโพธิ์ทอง
ส่วนที่อำเภอโพธิ์ทอง แนะนำไปนั่งชิลที่ร้าน Poom Cafe อยู่ตรงข้ามหน้าที่ว่าการอำเภอโพธิ์ทอง เน้นบรรยากาศแบบธรรมชาติเป็นบ้านไม้ ร่มรื่น จุดเด่นของร้านนี้ คือความพิถีพิถันในการทำกาแฟที่คั่วใหม่ทุกวัน
ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานสุพรรณบุรี กล่าวต่อว่า ช่วงกรีนซีซั่นแบบนี้ ช่วยให้การเดินทางมาไหว้พระขอพร เที่ยววัด มีความรื่นรมย์มากขึ้น ด้วยอากาศเย็นสบาย มองเห็นบรรยากาศรอบตัวเป็นสีเขียว เหมาะสำหรับเพื่อนฝูงและครอบครัว ในการไปใช้เวลาทำกิจกรรมดีๆ ร่วมกัน เพราะจังหวัดอ่างทอง สามารถเดินทางได้สะดวกและเที่ยวได้ทุกวันตลอดปี สำหรับคนที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถเดินทางไปกลับแบบ One day trip อีกทั้งมีอาหารอร่อยให้ชิม มีผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรปลอดภัยให้ได้ซื้อกลับบ้าน อันเป็นการช่วยกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอีกด้วย
ผู้สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมทาง Facebook Fanpage ททท.สำนักงานสุพรรณบุรี : TAT Suphanburi Office หรือ โทร. 0-3552-5867 หรือ โทร. 1672 Travel Buddy
สรณะ รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ททท. จัดประกวดกระทงสร้างสรรค์รักษ์โลก ในงาน 'สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2567'คลองผดุงกรุงเกษม
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานลอยกระทง “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2567” ระหว่างวันที่ 13-16 พฤศจิกายน 2567 โดยไฮไลท์วันสุดท้าย มีการประกวดกระทงสร้างสรรค์รักษ์โลก
รัฐบาลชวนร่วมงาน 'วิจิตรเจ้าพระยา' 16 พ.ย.-15 ธ.ค.
รัฐบาลเชิญชวน ปชช. ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน “VIJIT CHAO PHRAYA 2024” ชมแสง สี เสียง การแสดงพลุ สุดอลังการ ร่วมชม 14 จุดการแสดงทั่ว กทม.ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ 16 พ.ย. - 15 ธ.ค. นี้
MUST SEEK! เปิดประตูสู่สวรรค์ สุขท้าลอง @จันทบุรี
บรรยากาศในช่วงปลายฝนต้นหนาวเป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่เราจะออกเดินทางเที่ยวชมบรรยากาศของความสดชื่นของผืนป่า ใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศแห่งขุนเขาแบบไม่ต้องดั้นด้นเดินทางไกลมาก แนะนำว่าให้มาเที่ยวจันทบุรี
ททท. เปิดแคมเปญ WOW! ไทยแลนด์ มอบของที่ระลึกเสน่ห์ไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยว
น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า โครงการ Amazing Thailand Passport Privileges เป็นความร่วมมือระหว่าง ททท. และพันธมิตร ในการจัดทำกิจกรรมเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
ททท. จับมือ TikTok ปั้นบุคลากรสู่อินฟลูเอนเซอร์ท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ TikTok Thailand จัดกิจกรรมอบรม TikTok Content Creator ในหัวข้อ "วิธีการสร้างสรรค์เนื้อหาและแนวทางในการพัฒนาเนื้อหา Content" เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาความรู้ ความสามารถ ในเรื่องการพัฒนา Smart People และ Smart Economy ของบุคลากรในองศ์กร ททท.
แต่งตั้ง 'คิปโชเก้' นักวิ่งระดับโลก เป็นทูตท่องเที่ยว ประเดิมงานวิ่งมาราธอนแบงค็อก 2024
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เร่งดันไทยให้เป็น Top of Mind ในสนามมาราธอนโลก ประเดิมด้วยงาน Amazing Thailand Marathon Bangkok 2024