Music and Night at the Museum ครั้งที่ 2 ตามรอย..เสน่ห์สงขลาในมิติใหม่

ททท. สำนักงานหาดใหญ่ เชิญชวนนักท่องเที่ยวตามรอยเสน่ห์เมืองสงขลาช่วงกรีนซีซั่น พบกับความงดงามของการผสมผสานทางวัฒนธรรม ทั้งไทย จีน มุสลิม และตะวันตก จนกลายเป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น ผ่านร่องรอยสถาปัตยกรรม อาคารบ้านเรือน ตลอดจนอาหารการกิน พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ เรียนรู้ประวัติศาสตร์สงขลาในพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน ผ่านกิจกรรม Music and Night at the Museum ครั้งที่ 2

โปสเตอร์ประชาสัมพันธ์การจัดงาน

นางสาวมัณฑนา ภูธรารักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานหาดใหญ่ กล่าวว่า จังหวัดสงขลาเป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้าและเมืองท่าที่มีความสำคัญมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมของผู้อยู่อาศัย ทั้งชาวไทย ชาวจีน ชาวมุสลิม และชาวตะวันตก ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว จนได้ชื่อว่าเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม ซึ่งกลายเป็นเสน่ห์ของเมือง อันเป็นเอกลักษณ์ ประกอบกับการคมนาคมที่สะดวก  นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้ทั้งทางบก ได้แก่ รถไฟ รถยนต์ และทางอากาศโดยเครื่องบิน ซึ่งมีสนามบินนานาชาติหาดใหญ่รองรับ ทำให้สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

ในช่วงฤดูฝน หรือ กรีนซีซั่น (Green Season)  แบบนี้ นับเป็นอีกช่วงหนึ่งที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวแบบชิลๆ ด้วยอากาศเย็นสบาย ค่าใช้จ่ายไม่แพง  เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ทำให้ราคาที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร มีราคาถูกกว่าปกติ ขณะเดียวกันก็มีสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลาที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นใหม่ เตรียมพร้อมต้อนรับนักเดินทางให้ได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวในมุมมองที่แตกต่างจากเดิม ซึ่ง ททท. สำนักงานหาดใหญ่ ขอแนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่เดินทางได้สะดวก พร้อมกิจกรรมที่น่าสนใจ ดังนี้

อาคารบ้านเรือนย่านเมืองเก่าสงขลา

เดินชิลย่านเมืองเก่าสงขลา ย่านเมืองเก่าสงขลาเคยเป็นแหล่งธุรกิจการค้าที่สำคัญของจังหวัดสงขลา ตั้งอยู่บนถนน 3 สาย คือ ถนนนครนอก ถนนนครใน และถนนนางงาม เป็นย่านที่เดินแล้วเพลิดเพลิน เหมาะสำหรับคนที่ท่องเที่ยวแบบละเลียดทัวร์ ชอบเก็บภาพ เก็บมุมน่ารัก ไว้เป็นความทรงจำส่วนตัว

ตลอดสองข้างทางที่เดินผ่านนั้น เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนเก่าแก่อายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี มีรูปทรงสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย แบ่งได้เป็น 4 กลุ่มหลัก คือ แบบจีนดั้งเดิม จีนประยุกต์ จีนร่วมสมัย และชิโนโปรตุกีส ผสมผสานศิลปะแบบจีนและศิลปะแบบตะวันตกได้อย่างลงตัว เมื่ออาคารเหล่านี้ตั้งเรียงรายเคียงคู่ไปกับธุรกิจสมัยใหม่ ทำให้ย่านแห่งนี้ดูมีชีวิตชีวาไม่เงียบเหงา

สีสันย่านเมืองเก่าสงขลา

สำหรับถนนนครนอก เป็นถนนที่ติดกับฝั่งทะเลสาบ ในอดีตบริเวณนี้เป็นท่าเทียบเรือเพื่อการค้าขายและขนส่งสินค้าจากต่างประเทศ มีโรงสีข้าวขนาดใหญ่ชื่อ “หับ โห้ หิ้น” ที่ชาวสงขลาเรียกว่า “โรงสีแดง” ซึ่งภายหลังปิดกิจการ เพราะสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านวัฒนธรรมแห่งหนึ่งในจังหวัด ที่นี่มีอาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวรเรื่องราวและภาพถ่ายเมืองเก่าสงขลาให้ชมกัน

ถนนนครใน เป็นถนนเส้นในเมืองที่อยู่ตรงกลางระหว่างถนนนครนอกและถนนนางงาม มีสถานที่สำคัญ คือ บ้านนครใน เป็นบ้านไม้แบบจีนโบราณ และบ้านตึกสีขาว ภายในมีการจัดแสดงของเก่า ของอนุรักษ์ให้ได้ชมกัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

ส่วนถนนนางงาม เดิมชื่อถนนเก้าห้อง หรือย่านเก้าห้อง มีอาคารตึกแถวแบบจีนโบราณของชาวฮกเกี้ยนตั้งอยู่สองฟากฝั่ง มีสถานที่สำคัญ คือ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ศาลเจ้าพ่อกวนอู เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนนิยมมากราบไหว้บูชา และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่

จุดเช็กอินยอดนิยมย่านเมืองเก่าสงขลา

ในบริเวณย่านเมืองเก่า มีจุดเช็กอินที่เหมาะสำหรับสายถ่ายภาพมากๆ เพราะมีการเพิ่มภาพวาดสตรีทอาร์ต (Street Art) ซึ่งเป็นภาพวาดงานฝีมือของคนรุ่นใหม่ตามผนังอาคารบ้านเรือน มีทั้งหมด 15 จุด บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตของชาวสงขลารุ่นเก่าที่น่าประทับใจ เช่น ภาพวิถีชาวประมงหาปลา, ภาพคนขายกาแฟ, ภาพอาแปะเปิดประตูยื่นหมวกกันน็อก, ภาพเด็ก 3 เชื้อชาติ ไทย มุสลิม และจีน ซึ่งเป็นตัวแทนของคน 3 เชื้อชาติที่มาอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข,  ภาพเรือสำเภา, ภาพร้านบะหมี่, ภาพการทำข้าวเกรียบ, ภาพหมา แมว หนู, ภาพกำแพงศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ฯลฯ เห็นแล้วทำให้รู้สึกเหมือนเดินย้อนกลับไปในอดีตอีกครั้ง

เดินถ่ายรูปกันจนเหนื่อยแล้ว พลาดไม่ได้กับอาหารการกิน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณถนนนางงาม  ที่มีให้เลือกชิมครบครันทั้งอาหารคาว อาหารหวาน  และมีความหลากหลาย ทั้งอาหารไทย อาหารจีน ที่มีชื่อเสียง เช่น สุกียากี้นครใน ข้าวสตู เกียดฟั่ง ซึ่งเป็นสตูน้ำซุปกระดูกหมูและเครื่องเทศ ผสมหางกะทิ ใส่เครื่องที่มีให้เลือกได้ว่าจะเป็น เนื้อแดง หมูกรอบ เครื่องใน เวลาเสิร์ฟจะโรยด้วยต้นหอมซอย เป็นอาหารที่ผสมผสานวัฒนธรรมของอังกฤษ อินโดนีเซีย จีน และไทย ที่มีมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

นอกจากนี้ยังมี ก๋วยเตี๋ยวหางหมู ก๋วยเตี๋ยวใต้โรงจิ๋ว ก๋วยเตี๋ยวสงขลา โรตีนางงาม โจ๊กเกาะไทยเป็นโจ๊กเนื้อเนียนกินกับปาท่องโก๋กรอบๆ ไอติมโอ่ง ขนมไข่เตาถ่าน ร้านกาแฟ ร้านซาลาเปา ไก่ทอด ขนมค้างคาว ขนมสำปันนี ขนมทองเอก ข้าวมันแกงไก่ ฯลฯ บางชื่อเราอาจไม่คุ้นหู แต่นักชิมทั้งหลายล้วนแต่ยกนิ้วให้กับความอร่อยมาแล้วทั้งนั้น 

ภาพ Street Art เด็ก 3 เชื้อชาติ

การเดินชมย่านเมืองเก่า ทำได้ตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งร้านรวงอาจจะยังไม่เปิดให้บริการ แต่จะเห็นภาพวิถีชีวิตของชาวสงขลาตามร้านโจ๊ก ร้านกาแฟ และทำให้มีเวลาโพสท่าถ่ายรูปกับภาพวาดสตรีทอาร์ตได้แบบจุใจ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้ด้วยตนเอง หรือใช้บริการรถรางนำเที่ยว ซึ่งเปิดให้บริการวันจันทร์-วันเสาร์ วันละ 5 รอบ รอบเวลา 09.00 น.,  10.30 น., 12.00 น., 13.30 น., 15.00 น. ค่าบริการคนละ 30 บาท หรือถ้ามาเป็นหมู่คณะ คิดราคาเหมา   โดยจุดเริ่มต้นอยู่ที่เส้นทางสวนประวัติศาสตร์พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลนครสงขลา โทร. 09-1048-6673

เห็นเมืองเก่าที่มีสีสันเต็มไปด้วยเสน่ห์น่าค้นหาแบบนี้แล้ว แนะนำให้ไปกันต่อที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัดสงขลา เพื่อศึกษาถึงความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ของเมืองสงขลากัน

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จ.สงขลา

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัดสงขลา ตั้งอยู่ที่ถนนวิเชียรชม ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา มีอายุกว่า 140 ปี เดิมเป็นบ้านพักส่วนตัวของพระยาสุนทรารักษ์ (เนตร ณ สงขลา) ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลา ต่อมาใช้เป็นสถานที่ราชการของหน่วยงานต่างๆ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานจากกรมศิลปากรเมื่อปี พ.ศ.2516 และทำการปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ

ตัวเรือนของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เป็นอาคารหมู่ สถาปัตยกรรมแบบจีนผสมตะวันตก ลักษณะเป็นตึกสองชั้น โดดเด่นด้วยสีแดงและขาวที่ตัดกันแบบชัดเจน จัดแสดงโบราณวัตถุในศิลปะทวารวดี ศรีวิชัย  และรัตนโกสินทร์ ซึ่งแสดงบทบาทการเป็นเมืองท่าค้าขายที่สำคัญมาแต่โบราณของเมืองสงขลา รวมทั้งจัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุที่เกี่ยวกับตระกูล ณ สงขลา  เจ้าเมืองสงขลาในอดีตอีกด้วย

การจัดแสดงวัตถุโบราณในพิพิธภัณฑ์

อาคารจัดแสดงมี 2 ชั้น ชั้นล่าง แบ่งการจัดแสดงเป็น 8 ส่วน ได้แก่ วิถีชีวิตสงขลา, ภูมิลักษณ์คาบสมุทรสงขลา, สงขลาก่อนยุคประวัติศาสตร์, สงขลาสมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์, เมืองสงขลาหัวเขาแดง เมืองสงขลาแหลมสน, เมืองสงขลาบ่อยาง และเมืองสงขลาย้อนยุค

ชั้นที่ 2 มีห้องจัดแสดง 5 ห้อง ได้แก่ ความสัมพันธ์ทางการค้ากับต่างประเทศ, บันทึกสงขลา, ศิลปกรรมสงขลา, ประวัติศาสตร์โบราณคดีภาคใต้ตอนล่าง, สุนทรียภาพในวิถีชีวิตของชาวภาคใต้ตอนล่าง

ผู้สนใจเข้าชมได้ตามวันเวลาทำการ วันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. โทรศัพท์ 0-7431-1728 ค่าเข้าชมชาวไทย 30 บาท ชาวต่างประเทศ 150 บาท

บรรยากาศพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน

พิเศษสุดสำหรับคนที่ชื่นชอบการเดินชมพิพิธภัณฑ์ พลาดไม่ได้กับกิจกรรม Music and Night at the Museum หรือ งานพิพิธบรรเลงเพลงวัฒนธรรม ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม 2566 เวลา 16.30-21.00 น. โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสงขลา ร่วมกับ ททท.สำนักงานหาดใหญ่ และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เปิดให้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน ดื่มด่ำกับเสียงดนตรีไพเราะ พร้อมทั้งชมการแสดงและร่วมกิจกรรมภายในงานมากมาย ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ กิจกรรมภายในอาคารและกิจกรรมด้านนอกอาคาร

สำหรับกิจกรรมภายในอาคาร ได้แก่ Museum Tour พบกับประสบการณ์ใหม่ในการชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา ที่มาครบทั้ง “รูป รส กลิ่น เสียง” ด้วยการเล่าประวัติศาสตร์ผ่าน Site Specific Dance ซึ่งได้รับการออกแบบโดยคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ปลุกการแสดงจากข้อมูลในหน้าบันทึกประวัติศาสตร์และงานศิลปกรรมออกมาร่ายรำให้ชมกันแบบเต็มอิ่ม มี 4 ชุด คือ “โนราห์” สร้างสรรค์จากจิตรกรรมฝาผนังวัดมัชฌิมาวาสวรวิหาร ภาพถ่ายเก่า และมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม “นาฏกรรมสร้างสรรค์ชุด รุจิระสงขลาปุราณ”,นางละคร” สร้างสรรค์จากข้อมูลในบันทึกของรัชกาลที่ 4 เมื่อคราวเสด็จประพาสสงขลา และ “นาฏกรรมสร้างสรรค์ชุดซวงฝู” ว่าด้วยความเชื่อชาวไทยเชื้อสายจีนเกี่ยวกับ “ค้างคาว” ซึ่งมีหลักฐานปรากฏอยู่ในลักษณะลวดลายประดับสถาปัตยกรรม ประติมากรรม ตลอดจนโบราณวัตถุประเภทต่างๆ

กิจกรรม Museum Tour

พร้อมเสิร์ฟสำรับ “เสน่ห์สงขลา” ขนมและเครื่องดื่มที่บอกเล่าวิถีชีวิตชาวสงขลา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานหาดใหญ่

การแสดงมีให้ชมจำนวน 2 รอบ รอบละ 30 คน (มีค่าใช้จ่าย) รอบที่ 1 เวลา 17.00-18.00 น. รอบที่ 2 เวลา 18.00-19.00 น. สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งที่ โทร. 0-7431-1728 หรือทางกล่องข้อความ Facebook Fan page: Songkhla National Museum : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม Night at the Museum ชวนยลพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน พร้อมเพลิดเพลินไปกับมุมบรรเลงดนตรีไทยโดยโรงเรียนมหาวชิราวุธ และดนตรีสากล โดยนักศึกษาหลักสูตรดุริยางคศิลป์ตะวันตก มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ในกิจกรรมย่อย Music Corner รับชมฟรี ตั้งแต่เวลา 19.00-21.00 น.

กิจกรรมชวนหนุ่มสาวดูดาว

สำหรับคนที่ชื่นชอบความมหัศจรรย์บนฟากฟ้ายามค่ำคืน พบกับกิจกรรม NARIT Public Night ชวนหนุ่มสาวดูดาว เล่าเรื่องราวจากระเบียงพิพิธภัณฑ์ ส่องดวงจันทร์ขึ้น 4 ค่ำ และกลุ่มดาวสิงโตที่อวดโฉมบนฟากฟ้าทิศตะวันตก โดยหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา ตั้งแต่เวลา 19.00-21.00 น.

ส่วนพื้นที่บริเวณด้านนอกตัวอาคาร พบกับ กิจกรรม Music in Museum ณ บริเวณสนามหญ้าด้านหลังอาคาร ในเวลา 17.30-18.30 น. ชมการแสดงและบรรเลงดนตรี ขับเคลื่อนและสื่อสารด้วย Soft Power โดยกลุ่มเยาวชน Youth In Charge จากนั้นเวลา 18.30-19.30 น. ฟังการบรรเลงแซ็กโซโฟน โดยคณะศิลปกรรมศาสตร์ หลักสูตรดุริยางคศิลป์ตะวันตก มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา และในช่วงเวลา 19.45-20.30 น. รับชม Mini Concert โดย Tinn (ติณณ์ นภาลัย)

สำหรับคนที่ชอบสร้างสรรค์งานฝีมือ พบกับกิจกรรม Craft & Workshop ณ สนามหญ้าด้านหลังอาคาร มีการออกร้านสินค้าสร้างสรรค์ทางวัฒนธรรมที่รังสรรค์จากพลังสมองและสองมือ โดยคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ตลอดจนงานฝีมือ เครื่องดื่ม และกิจกรรม Workshop โดยเครือข่ายภาคประชาชน

นักท่องเที่ยวและผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม Music and Night at the Museum ได้ตามความสะดวก โดยสแกน QR Code บนโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์กิจกรรม  หรือลงทะเบียนได้ที่ Facebook Fan Page “Songkhla National Museum : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา” หรือลงทะเบียนหน้างาน หรือลงทะเบียนผ่าน https://docs.google.com/forms/d/1c54NiQcReGGXoObZTiHGvRFvMWDmtwAusx8-rlB4RWA/edit

หาดเก้าเส้ง

นอกจากนี้ หากใครยังพอมีเวลา และต้องการไปสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง แนะนำให้ไปที่ หาดเก้าเส้ง ที่มีคำนิยามจากนักท่องเที่ยวว่าเป็น “หาดลับ” เพราะซ่อนตัวท่ามกลางโขดหินที่สลับซับซ้อนบริเวณปลายสุดของแหลมที่ทอดยาวมาจากหาดชลาทัศน์ ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงาม และเป็นจุดถ่ายภาพที่มีทัศนียภาพสวยงามแตกต่างจากชายหาดอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งมีความเป็นมาที่น่าสนใจอีกด้วย

ส่วนคนที่ต้องการสถานที่เพื่อการพักผ่อนและหามุมถ่ายภาพสวยๆ นอกเมือง แนะนำ “ลิวงค์” ตั้งอยู่ที่บ้านลิวงค์ ตำบลท่าหมอไทร อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนของจังหวัดสงขลา ที่มีความสวยงามและมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์

ลิวงค์ แหล่งท่องเที่ยวที่ อ.จะนะ จ.สงขลา

ด้วยลักษณะของสถานที่เป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่ที่เคยเป็นเหมืองแร่เก่าแก่มาก่อน และปัจจุบันได้รับการฟื้นฟู มีการปลูกต้นสนโอบล้อมแอ่งน้ำ ซึ่งเป็นสีเขียวมรกตสวยงามสะท้อนภาพทิวทัศน์ของภูเขา  บวกกับบรรยากาศที่ค่อนข้างเงียบสงบ ร่มรื่น เหมาะกับการพักผ่อนอย่างยิ่ง มีกิจกรรมที่น่าสนใจให้ทำ เช่น กางเต็นท์แคมป์ปิ้ง ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกท่ามกลางธรรมชาติ เปิดให้เข้าชมเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์   และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 07.00-19.00 น. ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 09-5924-1492 หรือเข้าไปดูได้ที่ Facebook Fan Page ลิวง สวิตเซอร์แลนด์แดนจะนะ

ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานหาดใหญ่ กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับคนที่มีโอกาสได้มาท่องเที่ยวยังจังหวัดสงขลาในช่วงฤดูฝนนี้ เชื่อว่านักท่องเที่ยวจะได้รับความสุขและประทับใจกับเสน่ห์ของสงขลา เมืองเก่าแก่แต่ยังมีชีวิตชีวาหลากหลาย ผสมผสานและอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกิจกรรมงานดนตรี Music and Night at the Museum ที่เป็นการเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์แนวใหม่ ให้ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมของสงขลา ด้วยความตื่นตาตื่นใจ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ ททท. ที่ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้ตระหนักถึงการท่องเที่ยวเชิงคุณค่า เพื่อนำไปสู่การร่วมกันอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมให้ยั่งยืนตลอดไป”

ผู้สนใจติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fan Page : TAT Hatyai - ททท. สำนักงานหาดใหญ่  หรือ โทร. 0-7424-3747 หรือ โทร. 1672 Travel Buddy

สรณะ รายงาน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ททท. จัดประกวดกระทงสร้างสรรค์รักษ์โลก ในงาน 'สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2567'คลองผดุงกรุงเกษม

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานลอยกระทง “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2567” ระหว่างวันที่ 13-16 พฤศจิกายน 2567 โดยไฮไลท์วันสุดท้าย มีการประกวดกระทงสร้างสรรค์รักษ์โลก

รัฐบาลชวนร่วมงาน 'วิจิตรเจ้าพระยา' 16 พ.ย.-15 ธ.ค.

รัฐบาลเชิญชวน ปชช. ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน “VIJIT CHAO PHRAYA 2024” ชมแสง สี เสียง การแสดงพลุ สุดอลังการ ร่วมชม 14 จุดการแสดงทั่ว กทม.ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ 16 พ.ย. - 15 ธ.ค. นี้

MUST SEEK! เปิดประตูสู่สวรรค์ สุขท้าลอง @จันทบุรี

บรรยากาศในช่วงปลายฝนต้นหนาวเป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่เราจะออกเดินทางเที่ยวชมบรรยากาศของความสดชื่นของผืนป่า ใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศแห่งขุนเขาแบบไม่ต้องดั้นด้นเดินทางไกลมาก แนะนำว่าให้มาเที่ยวจันทบุรี

ททท. เปิดแคมเปญ WOW! ไทยแลนด์ มอบของที่ระลึกเสน่ห์ไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยว

น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า โครงการ Amazing Thailand Passport Privileges เป็นความร่วมมือระหว่าง ททท. และพันธมิตร ในการจัดทำกิจกรรมเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

ททท. จับมือ TikTok ปั้นบุคลากรสู่อินฟลูเอนเซอร์ท่องเที่ยว

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ TikTok Thailand จัดกิจกรรมอบรม TikTok Content Creator ในหัวข้อ "วิธีการสร้างสรรค์เนื้อหาและแนวทางในการพัฒนาเนื้อหา Content" เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาความรู้ ความสามารถ ในเรื่องการพัฒนา Smart People และ Smart Economy ของบุคลากรในองศ์กร ททท.

แต่งตั้ง 'คิปโชเก้' นักวิ่งระดับโลก เป็นทูตท่องเที่ยว ประเดิมงานวิ่งมาราธอนแบงค็อก 2024

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เร่งดันไทยให้เป็น Top of Mind ในสนามมาราธอนโลก ประเดิมด้วยงาน Amazing Thailand Marathon Bangkok 2024