ททท.สุราษฎร์ธานี ชวนเปลี่ยนบรรยากาศหลบร้อนไปสัมผัสความร่มรื่นของธรรมชาติ ทะเล และป่าเขา แบบครบวงจร ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
นางสาวนันทวัน ศิริโภคพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ถือเป็นจังหวัดใหญ่ของภาคใต้ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวครบวงจร ทั้งวัดวาอารามเก่าแก่ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่มีความร่มรื่น ทั้งท้องทะเลและป่าเขา แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่มีความมหัศจรรย์ตามธรรมชาติ ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ที่มีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายน่าสัมผัส
การเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี สามารถมาได้ทุกฤดูกาล ด้วยมีความสะดวกสบายด้านการคมนาคม ที่มีทั้งรถยนต์ รถไฟ เครื่องบิน และรถโดยสารประจำทาง และสำหรับในฤดูร้อนแบบนี้ แหล่งท่องเที่ยวที่ถือเป็นไฮไลต์ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ทุกคนมาแล้วพลาดไม่ได้ ได้แก่
บรรยากาศล่องเรือชมเขื่อนเชี่ยวหลาน
ทะเลสาบเชี่ยวหลาน หรือเขื่อนรัชชประภา ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก อำเภอบ้านตาขุน ตำบลเขาพัง เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่ 2 ของภาคใต้ ที่ใช้สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าและพักผ่อนหย่อนใจ นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือชมทัศนียภาพทะเลสาบเหนือเขื่อน ซึ่งมีบรรยากาศเงียบสงบ รายล้อมด้วยภูเขาหินปูนที่สูงชัน รูปร่างแปลกตาสวยงาม จนได้รับฉายาว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย”
ภายในเขื่อนเชี่ยวหลานมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่
-เขาสามเกลอ เป็นเขาหินปูนสามหน่อที่ตั้งเรียงกันอยู่กลางน้ำ ถือเป็นสัญลักษณ์ของเขื่อนเชี่ยวหลาน บรรยากาศแวดล้อมไปด้วยภูเขาหินปูนสูงชันสลับซับซ้อน ที่ปกคลุมด้วยแมกไม้สีเขียวชอุ่มบนพื้นที่ทิวเขา ท่ามกลางผืนน้ำสีเขียวมรกต ถือเป็นทัศนียภาพที่สวยงามมาก
-ถ้ำปะการัง ตั้งอยู่บริเวณทะเลใน 500 ไร่ ของเขื่อนเชี่ยวหลาน อยู่ในการดูแลของหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยถ้ำจันทร์ อุทยานแห่งชาติเขาสก ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยแตกหน่อเล็กๆ คล้ายปะการังใต้ทะเล สวยงามเสมือนท่องอยู่บนโลกใต้ทะเล นอกจากนี้ยังมีการพบฟอสซิลสัตว์ทะเลเซลล์เดียว อายุประมาณ 250-400 ล้านปี ในหินปูนที่อยู่ภายในถ้ำ ซึ่งคาดว่าพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นทะเลดึกดำบรรพ์ของโลกมาก่อน
เรือนแพที่พักกลางทะเลสาบเหนือเขื่อนเชี่ยวหลาน
เขื่อนเชี่ยวหลานมีที่พักหลากหลายให้บริการ รวมถึงเรือนำเที่ยวชมบรรยากาศของทะเลสาบเหนือเขื่อน สามารถลงเรือได้ที่ ท่าเรือเทศบาลเขื่อนเชี่ยวหลาน โทร. 0-7791-8036, 08-3300-1730 หากได้จองที่พักกับแพเอกชนในเขื่อนไว้แล้ว ที่พักส่วนใหญ่จะมีบริการเรือรับ-ส่งจากท่าเรือไปยังที่พักอีกด้วย
นอกจากนี้ ที่เขื่อนเชี่ยวหลานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ได้แก่ ล่องเรือชมธรรมชาติเหนือเขื่อน ชมเขาสามเกลอ พายเรือคายัคหรือแคนู ซึ่งที่พักบางแห่งจะมีไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว และหากใครยังมีแรงเหลือ สามารถเดินเท้าไปตามเส้นทาง 6 กิโลเมตร เพื่อเที่ยวชม “ถ้ำน้ำทะลุ” ซึ่งเป็นถ้ำใหญ่ที่มีธารน้ำไหลและหินงอกหินย้อยที่งดงาม และเพื่อความปลอดภัย แนะนำให้ประสานเจ้าหน้าที่อุทยาน เพื่อนำทางเข้าเยี่ยมชมภายในถ้ำ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ :
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ที่ทำการ อ.พนม โทร. 0-7739-5139
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวท่าเรือ อ.บ้านตาขุน โทร. 0-7795-5104
ติดต่อบ้านพักที่ทำการ/แพ/ลานกางเต็นท์ โทร. 09-6329-6583
ติดต่อสอบถามเรื่องนำเที่ยวโดยไกด์ชุมชน โทร. 09-6682-4533
การล่องเรือชมอุโมงค์จาก ที่ตลาดน้ำประชารัฐบางใบไม้
ตลาดน้ำประชารัฐบางใบไม้ ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอเมือง เปิดเฉพาะวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยว ชม ชิม ช็อป สินค้าและอาหารคาวหวานที่ชาวบ้านในชุมชนนำมาจำหน่ายอย่างจุใจ เช่น ข้าวยำสมุนไพร หมูสะเต๊ะ เมี่ยงคำเสียบไม้ ขนมจาก ขนมตาล น้ำมะพร้าว ขนมโคโบราณ เป็นต้น
อาหารจากฝีมือชาวชุมชนที่ตลาดน้ำประชารัฐบางใบไม้
จากนั้นไปสักการะหลวงพ่อข้าวสุก พระพุทธรูปปางสมาธิ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่ชุมชนบางใบไม้ สร้างขึ้นในราวปี พ.ศ.2433-2446 จากสิ่งมงคล 9 อย่าง รวมถึงข้าวสุกก้นบาตรด้วย โดยทำพิธีปลุกเสกในวัดบางใบไม้เป็นเวลา 9 วัน 9 คืน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวบ้านไม่ให้กลัวภูตผีปีศาจ ที่เชื่อกันว่าเป็นสาเหตุทำให้คนตายเป็นจำนวนมากในสมัยนั้น
และกิจกรรมที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก คือ การล่องเรือชมอุโมงค์ต้นจาก โดยจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ระยะทางประมาณ 450 เมตร ค่าบริการล่องเรือคนละ 20 บาท ถ้าซื้อตั๋วแบบเหมา ราคาลำละ 100 บาท จุดซื้อตั๋วจะอยู่ที่ท่าเรือใกล้กับทางเข้าตลาด เรือที่นั่งเป็นแบบเรือแจว มีชูชีพและหมวกสานที่ทำจากใบจากให้ใส่ถ่ายรูปสวยๆ อีกด้วย
ล่องเรือชมอุโมงค์จาก ตลาดน้ำประชารัฐบางใบไม้
อุโมงค์ต้นจากนี้ เป็นความสวยงามที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยขณะที่เรือแจวค่อยๆ ล่องผ่านอุโมงค์อย่างช้าๆ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันร่มรื่นสองข้างทาง พร้อมชมภาพความงามแปลกตาที่เกิดจากแสงสว่างที่ส่องลอดผ่านต้นจากลงมาเป็นระยะ นอกจากนี้ บรรยากาศยังเต็มไปด้วยรอยยิ้มจากคำทักทายระหว่างนักท่องเที่ยวที่นั่งเรือสวนกัน หรือกับคนแจวเรือในชุมชนที่แจวผ่านไปมา ทำให้ถึงแม้จะเป็นระยะทางเพียงสั้นๆ แต่สร้างความประทับใจให้ผู้ที่มีโอกาสได้มาสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : 0-7729-2903, 08-1607-4935
วิถีชีวิตชาวประมงที่ชุมชนลีเล็ด
ชุมชนลีเล็ด เป็นชุมชนขนาดเล็ก ตั้งอยู่ในอำเภอพุนพิน บริเวณเลียบชายทะเลฝั่งอ่าวไทย อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและป่าชายเลนผืนใหญ่ จนถูกขนานนามว่าเป็น “ป่าแอมะซอนแห่งเมืองไทย” เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยววิถีชุมชน
ป่าโกงกางที่อุดมสมบูรณ์ ชุมชนลีเล็ด
นักท่องเที่ยวที่มาเยือนชุมชนแห่งนี้ สามารถทำกิจกรรมได้หลายอย่าง เช่น สำรวจป่าแอมะซอนแห่งเมืองไทย สัมผัสบรรยากาศวิถีชีวิตชาวประมงดั้งเดิม นั่งเรือชมหิ่งห้อย ช็อปปิ้งสินค้าพื้นบ้านขายดี อาทิ กะปิลีเล็ด ที่มีกลิ่นหอมจากเคยหัวมันตัวโต ที่จับด้วยช้อนตักเคยแบบพิเศษ ใช้ตำน้ำพริกกะปิอร่อยมาก ร่วมปลูกต้นโกงกางเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูผืนป่านั่งเรือชมความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าชายเลนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นทุกปี จนถูกเรียกขานกันว่า “ป่ารุกทะเล” และดื่มด่ำบรรยากาศยามเย็น ชมพระอาทิตย์ตก ดูนกหลากหลายสายพันธุ์บินรอบป่าชายเลน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : กลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนลีเล็ด 08-0499-0742
คลองน้ำใส หรือคลองหลอกตา
คลองน้ำใส หรือคลองหลอกตา ตั้งอยู่ที่อำเภอคีรีรัฐนิคม เป็นลำธาร หรือลำคลองเล็กๆ กว้างประมาณ 5-6 เมตร ยาวประมาณ 3 กิโลเมตร ลึกประมาณ 2.5 เมตร ปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์และต้นไม้น้อยใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านเกาะเกี่ยวกัน ให้ความร่มรื่นตลอดลำคลอง นักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำได้ตลอดทั้งวัน โดยน้ำในลำคลองเป็นน้ำที่ผุดขึ้นมาจากตาน้ำใต้ดิน มีลักษณะใสมากจนสามารถมองเห็นส่วนของร่างกายที่แช่อยู่ในน้ำได้อย่างชัดเจน ขณะที่ห่างไปประมาณ 2 กิโลเมตร จะมีบ่อน้ำแร่ที่มีอุณหภูมิประมาณ 38-40 องศา สามารถลงแช่เพื่อผ่อนคลายความเครียด เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายรักสุขภาพ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : 0-7740-6195
ความงามธรรมชาติของป่าพรุ อ่างน้ำผุด
อ่างน้ำผุด ตั้งอยู่ที่อำเภอพระแสง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่มีความมหัศจรรย์มาก ลักษณะเป็นอ่างน้ำธรรมชาติที่มีตาน้ำผุดขึ้นมาจากชั้นใต้ดิน มีทรายขาวละเอียดพุ่งขึ้นจากผิวดินใต้ท้องน้ำ เหมือนกับน้ำที่กำลังเดือด แต่ยังคงความใสสะอาด ตั้งอยู่ในเนื้อที่กว่า 179 ไร่ เป็นสถานที่ที่ชาวบ้านนิยมมาเล่นน้ำคลายร้อน ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่น มองเห็นปลาที่แหวกว่ายในป่าสาหร่ายใต้น้ำใส มองทะลุลงไปจนถึงพื้นดิน
ป่าสาหร่ายใต้น้ำใส ที่อ่างน้ำผุด
นักท่องเที่ยวนิยมพายเรือคายัคไปดูจุดต้นน้ำภายในป่าพรุ ที่มีลักษณะเหมือนทรายเดือด พร้อมชมธรรมชาติของป่า โดยมีไกด์ท้องถิ่นร่วมนำทางและอำนวยความสะดวกตลอดทาง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : 06-1202-7996
อุทยานแห่งชาติคลองพนม ตั้งอยู่ที่อำเภอพนม เป็นพื้นที่ป่าไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ทัศนียภาพโดยรอบมีภูเขาหินปูนที่สวยงามแปลกตา ภายในอุทยานแห่งชาติคลองพนมมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะลำน้ำคลองศก นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือแคนูหรือแพ ไปตามลำคลองระยะทางประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อชมความสวยงามของธรรมชาติสองฝั่งคลอง ภูเขาหินปูนสูงชัน สลับกับหน้าผาที่สวยงาม และนกมากมายหลายพันธุ์ และเมื่อไปถึงวังมัจฉา ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติคลองพนมประมาณ 1 กิโลเมตร จะได้พบกับฝูงปลามากมายหลายชนิด เช่น ปลาตะเพียนหางแดง ปลาแรด ปลากดหิน ฯลฯ แนะนำช่วงเวลาที่เหมาะกับการล่องแพคือ ช่วงเดือนมิถุนายน-มกราคม เนื่องจากมีปริมาณน้ำมาก ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คลองศก แบมบูราฟ โทรศัพท์ 08-3388-4081
นักท่องเที่ยวล่องเรือลำน้ำคลองศก
ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า มั่นใจว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะได้รับความประทับใจจากการเดินทางมาชมแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ให้ทั้งความร่มรื่นและสวยงาม ตลอดจนมีกิจกรรมหลากหลายรูปแบบไว้รองรับตามความสนใจ อีกทั้ง ททท. มุ่งเน้นให้นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ด้วยการไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมในแหล่งท่องเที่ยว ช่วยกันรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งขยะ ลดการใช้ถุงพลาสติก หันมาใช้ถุงผ้า เพื่อช่วยกันรักษาแหล่งท่องเที่ยวให้คงความสวยงามอย่างยั่งยืน
สอบถามข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fanpage ททท.สำนักงานสุราษฎร์ธานี : TAT SuratThani Office โทรศัพท์ 0-7728-8 817-9 หรือ โทร. 1672 Travel Buddy
สรณะ รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ททท. จัดประกวดกระทงสร้างสรรค์รักษ์โลก ในงาน 'สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2567'คลองผดุงกรุงเกษม
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานลอยกระทง “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2567” ระหว่างวันที่ 13-16 พฤศจิกายน 2567 โดยไฮไลท์วันสุดท้าย มีการประกวดกระทงสร้างสรรค์รักษ์โลก
รัฐบาลชวนร่วมงาน 'วิจิตรเจ้าพระยา' 16 พ.ย.-15 ธ.ค.
รัฐบาลเชิญชวน ปชช. ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน “VIJIT CHAO PHRAYA 2024” ชมแสง สี เสียง การแสดงพลุ สุดอลังการ ร่วมชม 14 จุดการแสดงทั่ว กทม.ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ 16 พ.ย. - 15 ธ.ค. นี้
MUST SEEK! เปิดประตูสู่สวรรค์ สุขท้าลอง @จันทบุรี
บรรยากาศในช่วงปลายฝนต้นหนาวเป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่เราจะออกเดินทางเที่ยวชมบรรยากาศของความสดชื่นของผืนป่า ใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศแห่งขุนเขาแบบไม่ต้องดั้นด้นเดินทางไกลมาก แนะนำว่าให้มาเที่ยวจันทบุรี
ททท. เปิดแคมเปญ WOW! ไทยแลนด์ มอบของที่ระลึกเสน่ห์ไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยว
น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า โครงการ Amazing Thailand Passport Privileges เป็นความร่วมมือระหว่าง ททท. และพันธมิตร ในการจัดทำกิจกรรมเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
สุราษฎร์ธานี จัดงานวันที่อยู่อาศัยโลกปี67 ย้ำชุมชนต้องเป็นแกนหลักในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยคนจน
UN – HABITAT หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’ กำหนดให้วันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมทุกปีเป็น ‘วันที่อยู่อาศัยโลก’ หรือ ‘World Habitat Day’
ททท. จับมือ TikTok ปั้นบุคลากรสู่อินฟลูเอนเซอร์ท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ TikTok Thailand จัดกิจกรรมอบรม TikTok Content Creator ในหัวข้อ "วิธีการสร้างสรรค์เนื้อหาและแนวทางในการพัฒนาเนื้อหา Content" เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาความรู้ ความสามารถ ในเรื่องการพัฒนา Smart People และ Smart Economy ของบุคลากรในองศ์กร ททท.