เที่ยวอุทัยธานี เมืองพระชนกจักรี สัมผัสวิถีงามลุ่มแม่น้ำสะแกกรัง

ททท.สำนักงานอุทัยธานี เชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมงานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 1-9 เมษายนนี้ พร้อมออกเดินทางต่อเนื่องสัมผัสเสน่ห์เมือง “รอง” ที่ต้อง “ลอง” มาด้วยตัวเองสักครั้ง  “อุทัยธานี” เมืองพระชนกจักรี ดินแดน 3 ธรรม เยือนแหล่งธรรมะ สัมผัสธรรมชาติ เรียนรู้วัฒนธรรม  เที่ยวยลชมวิถีชุมชนคนลุ่มแม่น้ำสะแกกรัง ที่ยังคงความเรียบง่ายสงบงาม เที่ยวตามได้ตลอดทั้งปี

วิถีชีวิตชาวแพลุ่มแม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี

นายสัมพันธ์ สุภาภักดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานอุทัยธานี กล่าวว่า จังหวัดอุทัยธานี เป็นจังหวัดที่สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก พระชนกาธิบดีในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้มีพระประสูติกาลที่บ้านสะแกกรัง ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองอุทัยธานีในปัจจุบัน ชาวจังหวัดอุทัยธานีจึงพร้อมใจกันสร้างพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก ประดิษฐาน ณ ยอดเขาสะแกกรัง และมีการจัดงานเทิดพระเกียรติขึ้นในทุกปี  ซึ่งงานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก ประจำปี 2566 ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-9 เมษายน 2566  โดยความร่วมมือของ จังหวัดอุทัยธานี และ ททท.สำนักงานอุทัยธานี พร้อมด้วยเครือข่ายพันธมิตรในพื้นที่ ณ บริเวณสวนน้ำเฉลิมพระเกียรติ (บึงพระชนกฯ ) อำเภอเมืองอุทัยธานี  เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน

ภายในงานมีการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเพื่อสร้างงานและสร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งมีกิจกรรมอื่นๆ มากมาย อาทิ การแสดงแสง สี เสียง ยิ่งใหญ่ตระการตาในวันที่ 1,5,6,7,8 และ 9 เมษายน 2566 การแสดงเดินแบบผ้าไทย การเสวนาผ้าไทย การประกวดร้องเพลง การแสดงศิลปวัฒนธรรม  มหกรรมอาหาร สินค้าโอทอป และคอนเสิร์ตจากเหล่าศิลปินชื่อดัง

ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานอุทัยธานี กล่าวต่อว่า นอกจากมาชมงานที่จัดขึ้นแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางไปชมแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในตัวเมืองอุทัยธานี หรือในพื้นที่อำเภอใกล้เคียงที่มีความน่าสนใจได้อย่างสะดวก โดย “อุทัยธานี” นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์เมื่อได้มาสัมผัสแล้วจะหลงรัก เพราะมีส่วนผสมของ 3 ธรรม คือ ธรรมะ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม บางคนบอกเวลาจะหยุดเดิน เมื่อเราได้สัมผัสกับความสงบงดงามของวิถีชีวิต และความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายของชาวชุมชนที่หาได้ยากในปัจจุบัน

นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเยือนอุทัยธานีได้อย่างสะดวก ด้วยระยะห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 222  กิโลเมตร ทำให้ใช้เวลาเดินทางไม่นานสามารถเดินทางมาได้ทุกวันตลอดทั้งปีเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบสโลไลฟ์ (Slowlife) ต้องการสัมผัสธรรมชาติ วิถีชีวิตของผู้คน วัฒนธรรมและอาหารการกิน

กิจกรรมตักบาตรยามเช้าริมแม่น้ำสะแกกรัง

จังหวัดอุทัยธานี มีสถานที่พัก โรงแรม รีสอร์ท ให้เลือกสรรจำนวนมาก  อีกทั้งมีแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจหลากหลาย เช่น การล่องเรือชมวิถีชาวแพสะแกกรังที่มีชาวแพอาศัยอยู่จริง  สืบทอดมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นักท่องเที่ยวจะได้เห็นชีวิตของผู้คนทั้งเรื่องการทำมาหากิน ประกอบอาชีพ และการดำรงชีวิตอยู่บนเรือนแพ  

การตักบาตรเช้าริมแม่น้ำสะแกกรัง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด โดยพระสงฆ์จากวัดอุโบสถารามจะพายเรือข้ามมารับบาตร ในเวลา 07.00 น. ของทุกวัน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาเลือกซื้ออาหารทั้งคาวหวาน ดอกไม้ใส่บาตรได้จากบริเวณตลาดเช้าริมแม่น้ำสะแกกรัง

ความงดงามของวิหารแก้ว วัดท่าซุง

ส่วนคนที่ชื่นชอบการไหว้พระขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล ต้องไปที่วัดท่าซุง วัดที่มีชื่อเสียงในจังหวัดอุทัยธานี  ไฮไลต์สำคัญของวัดนี้ คือ  วิหารแก้ว และปราสาททองคำ  ด้านในของวิหารแก้วประดับตกแต่งด้วยโมเสกสีขาว และกระจกสะท้อนกันไปมา ดูวิบวับทั่วไปทั้งวิหาร เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธชินราชจำลอง และที่นี่ยังเป็นที่ตั้งสังขารไม่เน่าเปื่อยในโลงแก้วของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในส่วนปราสาททองคำ มี 3 ชั้นประดับลวดลายไทย ปิดทองคำเปลว ทั้งด้านในและรอบนอกปราสาทประดิษฐานพระพุทธรูปที่ญาติโยมนำมาถวาย และข้าวของเครื่องใช้ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำให้ชม ถือเป็นสถานที่ยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวสายศรัทธาหลั่งไหลมากราบไหว้ขอพรกันจำนวนมาก

ปราสาททองคำ วัดท่าซุง

อีกสถานที่หนึ่งที่ถือเป็นไฮไลต์ของจังหวัดอุทัยธานี คือ วัดสังกัสรัตนคีรี วัดเก่าแก่ประดิษฐานพระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ พระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุทัยธานี พื้นที่ของวัดจะมีทั้งที่เป็นพื้นที่ราบ และพื้นที่ที่อยู่บนยอดเขาสะแกกรัง มีประเพณีสำคัญทางศาสนาที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ คือ ประเพณีตักบาตรเทโว นอกจากจะเป็นจุดชมเมืองอุทัยธานีมุมสูงแล้ว  ยังมีจุดที่น่าสนใจให้เที่ยวชมอีกหลายจุด ทั้งพระพุทธบาทจำลอง วิหารเจ้าแม่กวนอิม พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก เป็นต้น

วัดสังกัสรัตนคีรี

ส่วนคนที่ต้องการเดินเล่นพักผ่อนซึบซับวัฒนธรรมกันแบบชิล ๆ   ทุกวันเสาร์-อาทิตย์จะมีถนนคนเดินตรอกโรงยา ซึ่งในอดีตเป็นที่อยู่ของชุมชนชาวจีน และเคยเป็นแหล่งสูบฝิ่นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่เมื่อรัฐบาลประกาศให้ฝิ่นเป็นสิ่งเสพติดผิดกฎหมาย ตรอกโรงยาจึงซบเซาลงไป และถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้งในรูปแบบของถนนคนเดินกลางเมืองอุทัยธานี แม้จะเป็นถนนที่มีระยะสั้น แต่มีตำนานที่ยาวนาน ปัจจุบันบ้านเรือนไม้เก่าแก่ได้ถูกปรับปรุงกลายเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ รวมถึงร้านขายของที่ระลึก ตั้งเรียงรายอยู่ตลอดสองฟากถนน

ถนนคนเดินตรอกโรงยา

นอกจากภายในตัวเมืองแล้ว จังหวัดอุทัยธานียังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม เช่น หุบป่าตาด แหล่งท่องเที่ยว UNSEEN ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอลานสักเป็นป่าในหุบลึกกลางภูเขามีความชุ่มชื้นตลอดทั้งปี ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของป่าแห่งนี้ ทำให้ภายในมีไม้หายากจำนวนมาก และทำให้พืชบางชนิด เช่น ต้นตาดเติบโตได้ดี มีลักษณะงดงาม เป็นร่มเงาแปลกตา   และมีสัตว์หลากหลายชนิดอาศัยอยู่ โดยเฉพาะ “กิ้งกือมังกรสีชมพู”

หุบป่าตาด แหล่งท่องเที่ยวUNSEEN

ห่างไปจากหุบป่าตาดประมาณ 2 กิโลเมตร มี จุดชมวิวบ้านชายเขา ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอลานสัก เช่นกัน ด้วยความเก่าแก่ของภูเขาหินปูน ที่เรียงรายกันอย่างสวยงามตัดสลับกับไร่ข้าวโพด สวนผลไม้ของชาวบ้าน ทำให้พื้นที่แห่งนี้ ดูสวยแปลกตา จึงกลายเป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินของนักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนจังหวัดอุทัยธานี

กิ้งกือมังกรสีชมพู

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ในอำเภอลานสัก ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก องค์การยูเนสโก (UNESCO) เป็นผืนป่าที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติและท่องเที่ยวตามความสนใจ

ตลาดซาวไฮ่ แหล่งจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นเมืองอุทัยธานี

นอกจากนี้ ในพื้นที่อำเภอบ้านไร่ ก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีอัตลักษณ์เฉพาะตัว เช่น ตลาดซาวไฮ่ ซึ่งจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์งานฝีมือของกลุ่มชาติพันธุ์ ในราคาไม่แพง ,มีต้นไม้ยักษ์ อายุนับร้อยปี ที่เป็นสัญลักษณ์ของการดูแลรักษาป่าของชุมชน รวมทั้งมีวัดถ้ำเขาวง เป็นวัดที่มีเรือนไทยประยุกต์อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบ สวยงาม

ทุเรียน ผลไม้ดีเมืองอุทัยอร่อยไม่แพ้ใคร

จังหวัดอุทัยธานี นอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวเอาใจนักเดินทางกลุ่มต่าง ๆ แล้ว ยังมี
ความอุดมสมบูรณ์และได้ชื่อว่าเป็นเมืองเกษตรปลอดภัย มีพืชผักอาหารการกินมากมาย  ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน  จะมีมะม่วงหลากชนิด และมะยงชิดหวานอร่อยที่เป็นของดีอำเภอลานสัก และหากเดินทางมาในช่วงเดือนมิถุนายน - สิงหาคม ของทุกปีจะมีผลผลิตทุเรียนจากอำเภอลานสัก และอำเภอบ้านไร่ ที่มีรสชาติอร่อยไม่แพ้พื้นที่ใดให้ชิมกัน

สวนทุเรียนในพื้นที่อำเภอลานสักและอำเภอบ้านไร่

ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานอุทัยธานี กล่าวปิดท้ายว่า ททท. ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ด้วยการเชิญชวนให้ทั้งนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการใส่ใจเรื่องของสิ่งแวดล้อม  รักษาความสะอาด ไม่ทิ้งขยะในแหล่งท่องเที่ยว รณรงค์การใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ใบตอง เป็นภาชนะบรรจุอาหารทดแทนการใช้พลาสติกหรือกล่องโฟม รวมทั้งการจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกทางด้านสุขอนามัยเพื่อคำนึงถึงความปลอดภัยของนักเดินทาง เช่น การตั้งเจลแอลกอฮอล์ไว้บริการ ในสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน โดย ททท.สำนักงานอุทัยธานี เชื่อว่า “นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนจังหวัดอุทัยธานีแล้ว จะได้รับประสบการณ์ที่ประทับใจกลับไป ทั้งในเรื่องของแหล่งท่องเที่ยว อาหารการกิน ของฝาก การได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของผู้คนที่มีความเรียบง่าย หลากหลายและงดงาม ที่หาได้ยากในปัจจุบัน”

จุดชมวิวบ้านชายเขา

สอบถามข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุทัยธานี  โทร. 0-5651-4651 หรือ Facebook Fanpage :  ททท.สำนักงานอุทัยธานี หรือ โทร. 1672 Travel Buddy 

สรณะ รายงาน