เบิกบาน...ผ่านงานบุญ ท่องเที่ยวงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาทั่วไทย

ททท. เชิญชวนร่วมงานบุญ ผ่านกิจกรรมช่วงเข้าพรรษา พร้อมสืบทอด วัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ทุกพื้นที่ทั่วไทย

ในช่วงฤดูฝนของทุกปี จะมีวาระครบรอบวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ได้แก่

วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 และสำหรับปีนี้ตรงกับวันที่ 13 กรกฎาคม 2565 โดยเป็นวันที่พระพุทธเจ้าได้ประกาศพระพุทธศาสนาขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก เนื่องจากเป็นวันที่มีพระรัตนตรัยครบบริบูรณ์ คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ 

ส่วนวันที่สอง คือวันเข้าพรรษา ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ในปีนี้ตรงกับวันที่ 14 กรกฎาคม 2565 เป็นวันเริ่มต้นการจำพรรษาของพระสงฆ์ในบริเวณวัด และงดการเดินทางจาริกไปยังที่ต่างๆ เพื่อไม่ให้เหยียบย่ำพืชผลทางการเกษตรที่ชาวบ้านเพาะปลูกไว้ในช่วงฤดูฝน เป็นเวลา 3 เดือน 

ในช่วงเทศกาลวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา พุทธศาสนิกชนจะเข้าวัดตักบาตรทำบุญในตอนเช้า ส่วนตอนค่ำจะชวนกันไปเวียนเทียนเพื่อรำลึกคุณพระรัตนตรัย และวันที่พระพุทธศาสนาได้ถือกำเนิดขึ้นมา นอกจากนี้ ยังมีการสืบสานประเพณีร่วมกันหล่อเทียนเพื่อถวายให้พระสงฆ์ได้นำไปใช้ในการศึกษาธรรมะระหว่างเข้าพรรษา และด้วยแรงศรัทธาในพระพุทธศาสนา พุทธศาสนิกชนจะตกแต่งเทียนพรรษาอย่างวิจิตรงดงาม รวมทั้งมีการจัดงานแห่เทียนพรรษาอย่างยิ่งใหญ่ งานแห่เทียนพรรษาเป็นประเพณีที่ทำกันมาอย่างต่อเนื่อง และถูกกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการ เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสร่วมงานประเพณีสำคัญ และได้ใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวออกเดินทางเข้าร่วมงานประเพณีเข้าพรรษา เพื่ออนุรักษ์ สืบสานประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามให้ดำรงอยู่สืบไป ซึ่งมีพื้นที่การจัดงานที่น่าสนใจ ดังนี้

จังหวัดอุบลราชธานี ต้นตำรับการจัดงานแห่เทียนพรรษาที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ งานจัดขึ้นเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม ตั้งแต่วันที่ 1-31 กรกฎาคม 2565 โดยใช้ชื่องานว่า “121 ปี ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา” ถือเป็นการสืบสานประเพณีของชาวอีสานตามฮีต 12 คอง 14 หรือประเพณีบุญเดือน 8 ด้วย โดยขบวนแห่เทียนพรรษาจัดในวันที่ 14 กรกฎาคม 2565

ชุมชนคนทำเทียน จ.อุบลราชธานี

นอกจากขบวนแห่เทียน ยังมีกิจกรรมตลอดทั้งเดือนกรกฎาคม อาทิ พิธีรับเทียนพรรษาพระราชทาน, การประกวดต้นเทียนพรรษา, กิจกรรมเยือนชุมชน คนทำเทียน, การแห่ขบวนเทียนพรรษาภาคกลางคืน, กิจกรรมเทียนอุบล ยลได้ตลอดเดือน, กิจกรรมเช็กอินถิ่นเทียน และการจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน

สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ททท.สำนักงานอุบลราชธานี แนะนำกิจกรรมหลัก 2 กิจกรรม คือ 1.กิจกรรมเยือนชุมชนคนทำเทียน ระหว่างวันที่ 1-12 กรกฎาคม 2565 ณ ชุมชนวัดที่เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 7 วัด ได้แก่ วัดมหาวนาราม, วัดพระธาตุหนองบัว, วัดแจ้ง, วัดบูรพา, วัดพลแพน วัดศรีประดู่, วัดเลียบ และวัดผาสุการาม ที่อำเภอวารินชำราบ นักท่องเที่ยวจะได้ร่วมแกะสลักเทียนและเรียนรู้วิถีเทียนที่แต่ละคุ้มวัดและชุมชนได้ร่วมกันรังสรรค์ขึ้น

กิจกรรมที่ 2 เทียนอุบล ยลได้ตลอดเดือน ในพื้นที่ชุมชนวัดทั้ง 7 วัดที่เข้าร่วมกิจกรรมชุมชนคนทำเทียน

ช่วงระหว่างวันที่ 18-31 กรกฎาคม 2565 นักท่องเที่ยวจะได้ชมต้นเทียนของแต่ละคุ้มวัด ที่จะนำมาจัดแสดงหลังจากการแห่เทียนพรรษา และกิจกรรมร่วมแกะสลักเทียนในบางคุ้มวัด

ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  ททท.สำนักงานอุบลราชธานี โทร. 0-4524-3770  Facebook: ททท.สำนักงานอุบลราชธานี Tat Ubonratchathani และ Facebook :  เที่ยวอีสาน.com

จังหวัดสุรินทร์ ททท.สำนักงานสุรินทร์ขอเชิญร่วมงาน “มหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้างจังหวัดสุรินทร์ ประจำปี 2565” ในวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2565 บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ถือเป็นงานที่มีอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นของจังหวัดสุรินทร์ ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเลี้ยงช้าง โดยภายในงานมีกิจกรรมดังนี้ 

ประเพณีตักบาตรบนหลังช้าง จ.สุรินทร์

วันที่ 12 กรกฎาคม ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ชมขบวนแห่เทียนพรรษา จาก 12 คุ้มวัดชื่อดัง อาทิ วัดบูรพารามฯ วัดศาลาลอยฯ วัดกลางสุรินทร์ มีขบวนแห่ช้างที่ยิ่งใหญ่ 45 เชือก แบ่งเป็นชุดที่ 1 สถาบันชาติ, ชุดที่ 2 สถาบันศาสนา, ชุดที่ 3 สถาบันพระมหากษัตริย์ และชุดที่ 4 ขบวนช้างประดับตกแต่ง หลากหลายสีสัน    

พบกับไฮไลต์ของงานบุญใหญ่วันที่ 13 กรกฎาคม ตั้งแต่เวลา 06.30 น. ร่วมทำบุญตักบาตรบนหลังช้างหนึ่งเดียวในโลก โดยมีพระเถระชั้นผู้ใหญ่นั่งบนหลังช้างออกรับบิณฑบาตแก่นักท่องเที่ยวได้ร่วมใส่บาตรโดยพร้อมเพรียงกัน  

ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  ททท.สำนักงานสุรินทร์ โทร. 0-4451-4447 หรือติดตามผ่านช่องทาง Facebook : ททท.สำนักงานสุรินทร์

แห่เทียนพรรษา อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์

จังหวัดบุรีรัมย์ พื้นที่อำเภอประโคนชัย ททท.สำนักงานบุรีรัมย์ ขอเชิญ ร่วมงานประเพณีแห่เทียนพรรษาอำเภอประโคนชัย ประจำปี 2565 จัดระหว่างวันที่ 13-14 กรกฎาคม บริเวณเวทีกลาง หน้าสำนักงานเทศบาลตำบลประโคนชัย  โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น ขบวนเทียนพรรษา รูปสัตว์ประจำปี และขบวนแห่เทียนจาก 6 คุ้มวัดในอำเภอประโคนชัย  ได้แก่ วัดกลาง วัดชัยมงคล วัดจำปา วัดโคน วัดโพธิ์ และวัดแจ้ง งานนี้เชิญชวนให้แต่งกายด้วยผ้าบารายพันปีสีกลีบบัว อันเป็นผ้าอัตลักษณ์ของอำเภอประโคนชัย

ชมการแสดงสมโภชงานประเพณีแห่เทียนพรรษา จากวัฒนธรรมพื้นถิ่นของชาวประโคนชัย เริ่มตั้งแต่ 18.00 น.เป็นต้นไป ได้แก่ วงโปงลางเพชรพลาญชัย จากวิทยาลัยนาฏศิลป์ร้อยเอ็ด ที่โด่งดัง,การแสดงชุดเมืองต่ำ ระบำขอม และชุดการแสดง “ประโคนชัย น้อมศรัทธา พุทธบูชาเทียนศิลป์” ฯลฯ สอบถามและติดตามข้อมูลได้ที่ Facebook : ททท. สำนักงานบุรีรัมย์

 จังหวัดพะเยา ททท.สำนักงานเชียงราย (รับผิดชอบพื้นที่เชียงราย  พะเยา) เชิญร่วมกิจกรรม เวียนเทียนทางน้ำกลางกว๊านพะเยา หนึ่งเดียวในโลก ครั้งที่ 46 ในวันอาสาฬหบูชาที่ 13 กรกฎาคม เวลา 17.30 น. ณ ลานอเนกประสงค์เทศบาลเมืองพะเยา มีรอบเรือรองรับ 08.00-16.00 น. และ 18.30- 20.00 น. ส่วนวันที่ 14-15 กรกฎาคม มีเรือให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. ค่าบริการท่านละ 50 บาท

เวียนเทียนทางน้ำกว๊านพะเยา จ.พะเยา

ภายในงานมีกิจกรรม "ชม ชิม ช้อป"  อาทิ ชมดนตรีเพลงเพราะยามเย็น การแสดงศิลปวัฒนธรรมชาติพันธุ์ ชิมอาหารพื้นถิ่นของกินชาติพันธุ์ และช็อปปิ้ง ตลาดวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่นผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม ติดตามข้อมูลเรื่องรอบเรือได้ที่ Facebook : เวียนเทียนทางน้ำ กลางกว๊านพะเยา

จังหวัดสิงห์บุรี กิจกรรมสืบสานประเพณีแห่เทียนพรรษา ยายดอกไม้ (ตักบาตรดอกไม้) ประจำปี 2565  ระหว่างวันที่ 13-14 กรกฎาคม ที่วัดจินดามณี และ เจดีย์บ้านแป้ง วัดกลางธนรินทร์ อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี

ภายในงานวันที่ 13 กรกฎาคม มีกิจกรรมวันอาสาฬหบูชา ด้วยการทอดผ้าป่าดอกไม้, กิจกรรมคั่วข้าวตอก ถั่ว งา เครื่องปรุงกระยาสารท ทำกระทง ร้อยดอกไม้ของผู้สูงอายุ ส่วนภาคค่ำมีขบวนแห่เพื่อไปเวียนเทียน ที่พระบรมธาตุเจดีย์บ้านแป้ง ณ วัดกลางธนรินทร์

ประเพณีแห่เทียนพรรษา ยายดอกไม้ จ.สิงห์บุรี

ส่วนวันที่ 14 กรกฎาคม มีการทำบุญถวายเทียนพรรษา ที่วัดจินดามณี ภายในงานมีการแสดงและกิจกรรมทางภูมิปัญญาให้ชมมากมาย อาทิ ชมเครื่องมือประกอบอาชีพ ได้แก่ เครื่องมือทำทอง, เครื่องมือปั้นหม้อ, การทำน้ำปลาแท้, การกวนกระยาสารท, การทำบัวลอยญวน ขนมเบื้องงา, ข้าวเกรียบงา ฯลฯ

ผู้สนใจรายละเอียดกิจกรรม ติดตามได้ที่ Facebook : TAT Lopburi

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา งานประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำที่ลาดชะโด ครั้งที่ 11 จัดขึ้นในวันที่ 13 กรกฎาคม 2565 (เวลาประมาณ 09.00-13.00 น.) บริเวณคลองลาดชะโด อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ชมขบวนเรือแห่เทียนพรรษาทางน้ำที่ตกแต่งสร้างสรรค์อย่างสวยงาม การประกวดบ้านสวนริมคลอง การแข่งขันกีฬาพื้นบ้านลาดชะโด การจัดการแสดงภาพถ่ายวิถีชีวิตชาวลาดชะโด เส้นทางสายน้ำแห่งชีวิต การยกยอ ท้องทุ่งนาที่เขียวขจี พร้อมชิมอาหาร ช็อปปิ้งสินค้าพื้นถิ่น ณ ตลาดลาดชะโด

งานแห่เทียนพรรษาทางน้ำที่คลองลาดชะโด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา

ชาวลาดชะโดมีวิถีชีวิตที่ผูกพันอยู่กับสายน้ำ จึงนิยมปลูกบ้านเรือนอยู่ริมคลองลาดชะโด ในละแวกนี้จะมีเรืออยู่ใต้ถุนบ้าน จึงเป็นที่มาของการแห่เทียนพรรษาทางน้ำ เอกลักษณ์หนึ่งเดียวในประเทศไทยที่รักษาขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่นอันงดงามนี้ไว้

ผู้สนใจติดตามข้อมูลกิจกรรมผ่านทาง Facebook : Tat Ayutthaya

จังหวัดสระบุรี ประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา สระบุรี ระหว่าง 12-14 กรกฎาคม 2565 ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ซึ่งมีการค้นพบรอยพระพุทธบาทตั้งแต่รัชสมัยพระเจ้าทรงธรรม จากนั้นจึงมีการจัดงาน “ตักบาตรดอกเข้าพรรษา” เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ถือเป็นการสืบสานประเพณีหนึ่งเดียวในโลก

โดยวันที่ 12 กรกฎาคม 2565 ช่วงเช้าพิธีถวายเทียนพระราชทาน ณ พระอุโบสถ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ช่วงบ่าย เวลา 13.00 น. จัดขบวนแห่พยุหยาตรา ขบวนรถบุปผชาติ ขบวนวัฒนธรรม ขบวนอัตลักษณ์ประเพณี ขบวนชาติพันธุ์ การแสดงต่างๆ และพิธีเปิดงาน

ส่วนวันที่ 13-14 กรกฎาคม 2565 เวลา 13.30 น. มีพิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษา และล้างเท้าพระภิกษุสงฆ์ ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร

ภายในงานยังมีนิทรรศการดอกเข้าพรรษา การแสดงของดี ของเด่น แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสระบุรี ขบวนเทียนพรรษาพระราชทาน และขบวนการแสดงวัฒนธรรมพื้นถิ่น มีการจำหน่ายสินค้า OTOP และอื่นๆ อีกมากมาย

ผู้สนใจติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ www.เที่ยวภาคกลาง.com

สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าร่วมงานบุญในพื้นที่ต่างๆ อย่าลืมคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือ รวมทั้งร่วมเดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถเริ่มต้นง่ายๆ โดยการลดการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง เพียงพกกระบอกน้ำ หิ้วถุงผ้า ฯลฯ ก็เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้แล้ว.

สรณะ รายงาน