ททท.ภูมิภาคภาคเหนือ ชวนนักท่องเที่ยวที่ชอบความตื่นเต้น ร่วมกิจกรรมท้าทายช่วงกรีนซีซั่น กับกิจกรรมล่องแก่งลำน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก ล่องแก่งลำน้ำว้า จังหวัดน่าน และล่องแก่งเรือยางลำน้ำแม่ละเมา จังหวัดตาก สัมผัสกับความสนุกสนานและชมความสวยงามของธรรมชาติสองฟากฝั่ง ร่วมทำกิจกรรมสร้างสรรค์พายเรือเก็บขยะ และเดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ
Green Season หรรษา ล่องแก่งลำน้ำเข็ก จ.พิษณุโลก
นางสาวสรัสวดี อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคเหนือ กล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงฤดูฝน ทำให้พื้นที่ในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติทั่วประเทศ รวมทั้งในภาคเหนือ มีความสดชื่น สวยงาม โดยเฉพาะหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ธรรมชาติได้พักและฟื้นตัวใหม่ บรรยากาศรอบตัวจึงเหมาะกับการเดินทางไปสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ ความเขียวขจีของต้นไม้ใบหญ้า สายหมอกและดอกไม้ เป็นการเติมพลังความมีชีวิตชีวาให้กับผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี
ผู้อำนวยการ ททท.ภูมิภาคภาคเหนือกล่าวต่อว่า ในช่วงฤดูฝนแบบนี้ มีปริมาณน้ำมาก จึงมีการจัดกิจกรรมผจญภัยพิชิตสายน้ำ พร้อมชมทัศนียภาพสวยงามสองฟากฝั่ง ใน 3 พื้นที่ ได้แก่ กิจกรรมล่องแก่งลำน้ำเข็ก อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก, กิจกรรมล่องแก่งลำน้ำว้า จังหวัดน่าน และล่องแก่งเรือยางลำน้ำแม่ละเมา จังหวัดตาก
สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบกิจกรรมการล่องแก่ง ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยววัยทำงาน ที่ชอบความตื่นเต้น ท้าทาย สนุกสนาน เน้นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ มีการจับจ่ายใช้สอยที่สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และมีการทำกิจกรรมสร้างสรรค์ที่บางพื้นที่จัดขึ้น เช่น การปลูกต้นไม้ การเก็บขยะ หรือบริจาคสิ่งของที่จำเป็น เช่น ยารักษาโรค จึงเป็นการท่องเที่ยวที่ชุมชนได้รับประโยชน์ ส่วนนักท่องเที่ยวเองก็ได้รับความสุขและประสบการณ์ที่น่าประทับใจกลับไป
ผู้อำนวยการ ททท.ภูมิภาคภาคเหนือบอกด้วยว่า ททท.มุ่งเน้นรูปแบบของกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อัตลักษณ์ของท้องถิ่น รักษาความสวยงาม ความเป็นธรรมชาติให้คงอยู่ และทำให้เกิดการท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบ อันเป็นแนวทางของการพัฒนาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนต่อไป
"การท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบ เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวทุกคนทำได้หลากหลายรูปแบบ เช่น จัดกระเป๋าให้มีน้ำหนักเบาที่สุด การพกถุงผ้า การใช้กระบอกน้ำส่วนตัว ลดการใช้ผลิตภัณฑ์จากพลาสติก รับประทานอาหารให้หมด ไม่เหลือทิ้ง ไม่รบกวนหรือทำร้ายสัตว์ป่า เลือกพักในโรงแรมหรือรีสอร์ตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันก็ยังเน้นให้นักท่องเที่ยวดูแลเรื่องสุขอนามัย ด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ และเว้นระยะห่างตลอดการเดินทางอีกด้วย"
สำหรับรายละเอียดของกิจกรรมล่องแก่งในแต่ละพื้นที่ มีดังนี้
ผจญภัย สนุกสนาน ล่องแก่งลำน้ำเข็ก พิษณุโลก
1.กิจกรรมล่องแก่งลำน้ำเข็ก อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศกึ่งผจญภัย ทำได้ในช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม ที่มีความสนุกสนาน ท้าทาย ทั้งยังได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย มีความท้าทายตั้งแต่ระดับ 1 ถึงระดับ 5 ล่องผ่านแก่งต่างๆ ทั้งหมด 17 แก่ง ระยะทางประมาณ 7-8 กิโลเมตร เป็นกิจกรรมที่มีความปลอดภัยสูง นักท่องเที่ยวยังสามารถร่วมทำกิจกรรม “ล่องแก่งเก็บขยะ” ได้อีกด้วย
ททท.สำนักงานพิษณุโลก ยังร่วมกับร้านคาเฟ่ บนเส้นทาง Route 12 (พิษณุโลก-เขาค้อ) ที่เหมาะกับการขับรถท่องเที่ยว กว่า 10 คาเฟ่ จัดกิจกรรม “Cafe Feel Good on Route 12” ส่งเสริมการขายในรูปแบบโปรโมชั่น Buy 1 Get 1
กิจกรรม “Cafe Feel Good on Route 12” ซื้อ 1 แถม 1
นักท่องเที่ยวซื้อเครื่องดื่มใดก็ได้ของทางร้านที่ร่วมโครงการฯ ในราคามากกว่า 50 บาท รับคูปองส่วนลดมูลค่า 50 บาททันที!!! สำหรับซื้อเครื่องดื่มแก้วที่ 2 สามารถใช้สิทธิ์ได้ ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน-31 สิงหาคม 2565 หรือจนกว่าคูปองส่วนลดจะหมด
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานพิษณุโลก หมายเลขโทรศัพท์ 0-5525-2742-3 และ Facebook : ททท.สำนักงานพิษณุโลก หรือ Line OA : @tatphitlok
ล่องแก่งน้ำว้า จ.น่าน อีกหนึ่งความท้าทายที่ต้องลอง
2.“ล่องแก่งน้ำว้า” จ.น่าน แก่งที่โหดและยาวที่สุดในประเทศไทย เป็นกิจกรรมยอดนิยมสำหรับผู้ที่รักการผจญภัย ต้นน้ำมาจากทิวเขาหลวงพระบาง ไหลคดเคี้ยวไปตามหุบเขาที่สองฟากฝั่งร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ สำหรับฤดูที่เหมาะสมในการล่องแก่งเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ถึงต้นเดือนมกราคม โดยลำน้ำว้ามีความยาวประมาณ 125 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ น้ำว้าตอนบน, น้ำว้าตอนกลาง และน้ำว้าตอนล่าง
ไฮไลต์ของกิจกรรมล่องแก่งลำน้ำว้าแบ่งเป็น 3 ตอน ตามสภาพพื้นที่ คือ
ล่องแก่งน้ำว้า จ.น่าน ชมธรรมชาติ
1.ล่องแก่งลำน้ำว้าตอนบน เป็นเส้นทางล่องแก่งเฉพาะผู้เชี่ยวชาญ สายน้ำมีความเชี่ยวกรากและโหดมาก ระยะทางค่อนข้างสั้น ประมาณ 35 กม. เริ่มต้นที่บ้านสะปันอำเภอบ่อเกลือ ในอุทยานแห่งชาติขุนน่าน ส่วนนี้จะเปิดให้ท่องเที่ยวได้เฉพาะเดือนสิงหาคม-กันยายนเท่านั้น
ทัศนียภาพสองฟากฝั่งลำน้ำว้า
2.ล่องแก่งลำน้ำว้าตอนกลาง เป็นไฮไลต์ของผู้รักการผจญภัยและหลงใหลธรรมชาติ มือใหม่ก็ล่องได้คือ เป็นทริปล่องแก่งแบบ 2 วัน 1 คืน เริ่มต้นที่บ้านสบมาง อ.บ่อเกลือ ไปสิ้นสุดที่แก่งวังลูน บ้านแคว้ง อ.แม่จริม รวมระยะทางประมาณ 80 กม. ลำน้ำไหลผ่านอำเภอที่สำคัญ เช่น อำเภอบ่อเกลือ, อำเภอสันติสุข และอำเภอแม่จริม และในเส้นทางมีความยากมีตั้งแต่ระดับ 1-6
แก่งน้ำว้า เส้นทางที่นักผจญภัยชื่นขอบ
3.ล่องแก่งลำน้ำว้าตอนล่าง ระยะทาง 16 กิโลเมตร แต่สามารถทำกิจกรรมได้ทั้งปี โดยอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่จริม มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวในเขตอำเภอแม่จริมได้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานน่าน โทร. 0-5471-1217-8 และ Facebook : ททท.สำนักงานน่าน หรือสอบถามทริปล่องแก่งได้ที่ อุทยานเเห่งชาติดอยภูคา โทร. 08-2194-1349, อุทยานแห่งชาติแม่จริม โทร. 08-0679-9070, สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวน่านตะวันออก โทร. 09-6690-2229, ริเวอร์ราฟท์ น่าน โทร. 08-9638-5858, ล่องแก่งน้ำว้า บ่อเกลือทัวร์ โทร. 09-2847-9592, น่านน้ำว้าทัวร์ โทร. 09-5487-2667, บ้านริมว้าภูฟ้าทัวร์ โทร. 08-5715-7498, แจงแอนเจทัวร์ โทร. 08-1765-4194
ล่องแก่งเรือยางลำน้ำแม่ละเมา จ.ตาก
3.ล่องแก่งเรือยางลำน้ำแม่ละเมา
ลำน้ำแม่ละเมา มีต้นกำเนิดจากทิวเขาในอำเภอพบพระและอำเภออุ้มผาง กระแสน้ำไหลขึ้นไปทางทิศเหนือผ่านตำบลแม่ละเมา อำเภอแม่สอด ไปบรรจบกับแม่น้ำเมยที่บ้านวังผา อำเภอแม่ระมาด การล่องแก่งลำน้ำสายนี้แบ่งเป็น 3 จุด ดังนี้
จุดที่ 1 เป็นการล่องแก่งตอนบน เริ่มต้นที่บ้านม้งธงชัย เป็นการล่องแก่งระดับ 1-2 ผ่านเกาะแก่งต่างๆ เช่น แก่งผาโก๊ะ แก่งห้วยละพริ้ง แก่งห้วยพาคือ แก่งท้องคด มีกระแสน้ำเชี่ยวแรงมาก ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ถึงจุดพักค้างแรมกลางป่า 2 คืน รุ่งขึ้นสนุกตื่นเต้นกับเกาะแก่งต่างๆ ตลอดเส้นทางจะได้ชมธรรมชาติของผืนป่าทั้งพันธุ์ไม้และนกนานาชนิด ท่ามกลางป่าที่อุดมสมบูรณ์ ใช้เวลาล่องแก่ง 3 ชั่วโมง ถึงบ้านแม่ละเมา
จุดที่ 2 อยู่ริมทางหลวงหมายเลข A12 (ตาก-แม่สอด) บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 41 จุดล่องแก่งเป็นการเดินลัดเลาะ ผ่านหมู่บ้านและทุ่งนา ระยะทาง 1 กิโลเมตร ถึงลำห้วยแม่ละเมา เป็นจุดล่องแก่งช่วงที่ 2 ตามลำน้ำแม่ละเมา สนุกตื่นเต้นกับเกาะแก่งต่างๆ ตลาดเส้นทางธรรมชาติป่าเขาอุดมสมบูรณ์และมีทิวทัศน์ที่สวยงาม ระยะทาง 12 กิโลเมตร ใช้เวลา 4 ชั่วโมง โดยเรือยาง
สัมผัสวิถีถิ่น ที่ลำน้ำแม่ละเมา
จุดที่ 3 อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 105 (ตาก-แม่สอด) ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 50 เป็นการล่องแก่งแม่ละเมาตอนล่าง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที ผ่านผืนป่าท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิดและพันธุ์ไม้น้ำ อีกทั้งมีนกนานาชนิดให้ศึกษา
ลักษณะของการล่องแก่งแม่ละเมาเป็นการล่องแก่งเชิงนิเวศและเชิงสร้างสรรค์ นำเสนอวิถีชีวิตการพึ่งพาอาศัยของ คน น้ำ ป่า ของคนในบ้านแม่ละเมา โดยกิจกรรมการล่องแก่งนั้นจะมีการเก็บผักกูดข้างริมน้ำเพื่อมาทำอาหารกลางวัน การหาปลาด้วยการลงข่ายที่ชาวบ้านเรียกว่า การลากแน่ง การหุงข้าวในกระบอกไม้ไผ่ และการย่างหมูแบบนายพรานโบราณ การดริปกาแฟจากกระบอกไม้ไผ่ ทุกกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวร่วมทำได้
ธรรมชาตืสวยงาม ที่ลำน้ำแม่ละเมา จ.ตาก
การล่องแก่งแม่ละเมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่ดีที่สุดจะเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว หรือระหว่างเดือนตุลาคม-เดือนกุมภาพันธ์ เหมาะกับทุกเพศทุกวัย รวมถึงผู้สูงอายุและเด็ก
ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ เพจ Facebook : แม่ละเมาอีโคทัวร์ และโทร : 08-9267-2002 และ 09-6667-1002
สรณะ รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ททท. จัดประกวดกระทงสร้างสรรค์รักษ์โลก ในงาน 'สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2567'คลองผดุงกรุงเกษม
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานลอยกระทง “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2567” ระหว่างวันที่ 13-16 พฤศจิกายน 2567 โดยไฮไลท์วันสุดท้าย มีการประกวดกระทงสร้างสรรค์รักษ์โลก
แม่ค้าไส้กรอก ต่อยอดเงินหมื่น ลงทุนซื้อรถพ่วงข้าง ออกขายได้ไกล รายได้มากขึ้น
นางสมคิด จันทร์ศรี อายุ 66ปี ชาวบ้านอ.ด่านซ้าย จ.เลยมาประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปและขายไส้กรอกในจ.พิษณุโลกได้หลายปีแล้ว แต่ปัจจุบันได้ยึดอาชีพ ขายไส้กรอกย่าง ออกแต่เวรขาย