มนตร์เสน่ห์ 'กรุงปราก'

ปราสาทปราก (Prague Castle) มองจากฝั่ง Old Town เห็นพระราชวัง มหวิหารเซนต์วิตุส เด่นสง่า

Ahoj!…อาโห้ย

ไม่ใช่เสียงอีกาแห่งหมู่บ้านเพนกวิน ที่ร้อง “อาห้อย อาห้อย อาห้อย” ในการ์ตูน “ดร.สลัมป์ กับหนูน้อยอาราเล่” ยุค 80-90

แต่เป็นคำกล่าวสวัสดีในภาษาเช็กเกีย หรือสาธารณรัฐเช็ก

สัปดาห์นี้ไปเที่ยวที่เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งก็คือกรุงปรากนั่นเอง

praha เสียงประกาศตามสถานีรถไฟ สนามบิน คอซีรีส์ย้อนยุคเกาหลีฟังผ่านๆ อย่าไปเข้าใจผิดคิดว่าใครมาส่งเสียงร้องเรียก เพฮา ที่แปลว่า จักรพรรดิ หรือฝ่าบาท ใช้เรียกตั้งแต่ยุคโคกูรยอเด็ดขาดเชียว

ชาวเช็กเรียก ปราก ว่า ปราฮา (praha) ขณะที่ชาวโลกเรียก ปราก (Prague)

พูดถึงยุโรป นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่จะปักหมุดกันแถวๆ ยุโรปตะวันตก เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศสเสียมากกว่า

ยุโรปตอนกลางอย่างออสเตรีย เช็กเกีย รองลงมา

ช่วงหลังๆ เริ่มมีนักท่องเที่ยวไทยไปโซนยุโรปตะวันออก เช่น จอร์เจีย กันเยอะ ก็แล้วแต่เป้าหมายว่าอยากไปดูอะไร

ธรรมชาติก็ที่หนึ่ง ดูตึกรามบ้านช่อง สถาปัตยกรรมยุคกอธิคก็ต้องไปอีกโซน แล้วแต่ความชอบและรสนิยมของแต่ละคน

สำหรับกรุงปราก ไฮไลต์คือ Old Town โดยเฉพาะย่านจัตุรัสเมืองเก่า หรือสคาโรเมสเก นาเมสตี (Staromestske namesti) ที่เป็นศูนย์กลางของประวัติศาสตร์ ไม่เฉพาะเช็กเกียเท่านั้น แต่เคยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางประวัติศาสตร์ยุโรป

ก่อนจะเจาะลงไปในใจกลางกรุงปรากมารู้จักประวัติศาสตร์คร่าวๆ ของเช็กเกียเสียก่อน ในอดีตมีชื่อว่า โบฮีเมีย (Bohemia) เป็นประเทศอยู่ใจกลางของยุโรป ไม่มีทางออกสู่ทะเล จึงไม่ต้องซื้อเรือรบ เรือดำน้ำ ให้วุ่นวาย

โบฮีเมียถูกก่อตั้งขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 9 ภายใต้ดินแดนของมอเรเวียใหญ่ ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการว่าเป็นรัฐของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ใน ค.ศ.1002 และได้กลายเป็นราชอาณาจักรใน ค.ศ.1198 เทียบกับไทย ก็ก่อนพ่อขุนศรีอินทราทิตย์เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วงในยุคสุโขทัยได้ไม่นาน

ภายในบางส่วนของปราสาทปราก เป็นลานกว้าง คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว

ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ค.ศ.1918 ดินแดนส่วนใหญ่ของเช็กเกียก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐเชโกสโลวักที่หนึ่ง ภายหลังการล่มสลายของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี

หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เชโกสโลวาเกีย เป็นประเทศเดียวในยุโรปกลางและตะวันออกที่ใช้การปกครองแบบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ภายหลังความตกลงมิวนิกใน ค.ศ.1938 นาซีเยอรมนีก็เข้าไปควบคุมดินแดนเช็กเกียทั้งหมด

ต่อมาปี ค.ศ.1945 เชโกสโลวาเกียได้รับการฟื้นฟูและกลายเป็นรัฐคอมมิวนิสต์ในกลุ่มตะวันออก นำโดยสหภาพโซเวียต ในช่วงปรากสปริงใน ค.ศ.1968 ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1989 การปฏิวัติกำมะหยี่ได้ยุติการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ภายในประเทศเชโกสโลวาเกีย

และในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ.1993 เชโกสโลวาเกียถูกยุบเลิก โดยรัฐองค์ประกอบของเชโกสโลวาเกียได้กลายเป็นรัฐเอกราชเช็กเกียและสโลวาเกีย

ที่ต้องรู้ประวัติศาสตร์ก็เพราะการเที่ยวในเช็กเกีย โดยเฉพาะกรุงปราก ไม่ต่างจากการเที่ยวพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งขนาดใหญ่

เขตเมืองเก่าใจกลางกรุงปรากทุกที่คือพิพิธภัณฑ์

มุมมองจากสะพานชาร์ลส์ เห็นอาคารเก่าแก่เรียงรายริมฝั่งแม่น้ำวัลตาวาในทุกทิศทาง

กรุงปรากมีส่วนคล้ายกรุงเทพมหานครตรงที่มีแม่น้ำไหลผ่ากลางเมือง คือแม่น้ำวัลตาวา สายเดียวกันที่ผ่ากลางเมืองเชสกี ครุมลอฟ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเช็กเกีย แต่ช่วงที่ผ่านกรุงปรากมีขนาดกว้างกว่ามาก และจบด้วยการรวมกันที่แม่น้ำเอ็ลเบอ ผ่านเมืองเดชินทางตอนเหนือของเช็กเกีย เดรสเดิน ฮัมบูร์ก ในเยอรมนี ไปออกทะเลสวีเดน

ใช่แล้ว แม่น้ำสายนี้ไหลจากทิศใต้ขึ้นเหนือคล้ายแม่น้ำไนล์ในอียิปต์

ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำวัลตานาเป็นที่ตั้งของปราสาทปราก (Prague Castle) เป็นปราสาทเก่าแก่สถาปัตยกรรมแบบกอธิค ที่ได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊กว่าเป็นปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อสร้างขึ้นในช่วง ค.ศ.880 โดย Prince Bor ivoj แห่งราชวงศ์ Premyslid เป็นปราสาทคอมเพล็กซ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่ประมาณ 437.5 ไร่ เล็กกว่าวัดพระแก้วที่มีพื้นที่ 592 ไร่อยู่เล็กน้อย

ภายในปราสาทประกอบไปด้วยตัวพระราชวัง มหาวิหารเซนต์วิตุส ตัวอาคารเป็นสไตล์โรมันตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 ในลานที่สองของปราสาทปรากมีการจัดแสดงผลงานชิ้นเอก สะสมมาจากศตวรรษที่ 11

ฝั่งตะวันออกคือเขตเมืองเก่า ซึ่งคั่นกลางด้วยสะพานชาร์ลส์ จุดเช็กอินของนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางมายังกรุงปราก

ใครไม่มาถือว่ายังไม่ถึงปราก

สะพานชาร์ลส์ เป็นสะพานเก่าแก่สไตล์โกธิกที่ทอดข้ามแม่น้ำวัลตาวาที่เชื่อมระหว่าง Old Town และ Little Town

ตัวสะพานประดับด้วยรูปปั้นทอดยาวเหนือแม่น้ำวัลตาวา เป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เป็นเส้นทางสัญจรที่พลุกพล่านมาตั้งแต่สมัยที่สร้างเสร็จใหม่ๆ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 รัฐบาลอนุญาตให้ขับรถขึ้นมาบนสะพานได้ แต่ต่อมาก็ได้ยกเลิกนโยบายนี้ไป ปัจจุบันเป็นสะพานสำหรับคนเดินที่ได้รับความนิยม เพราะสามารถมองเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำและใจกลางเมืองเก่าได้ชัดเจน

นอกจากสองฝั่งของสะพานจะมีรูปปั้นกว่า 30 ตัวแล้ว วิวจากบนสะพานก็น่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อย รูปปั้นส่วนใหญ่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 และ 16 แต่โดยมากเป็นรูปจำลอง เนื่องจากรูปปั้นของจริงได้รับการเก็บรักษาไว้ อาจจะเห็นนักท่องเที่ยวบางคนเอามือไปลูบรูปปั้นเหล่านี้เพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย

มีศิลปินรับวาดภาพเป็นระยะ ใครสนใจอยากมีภาพวาดตัวเองกับทิวทัศน์อันสวยงามและโรแมนติกรอบๆ สะพานชาร์ลส์ลองต่อราคาดู

เดินลัดเลาะจากสะพานชาร์ลส์ผ่านถนนเล็กๆ ฝั่งเมืองเก่าที่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว เพียงอึดใจเดียวก็ถึง จัตุรัสเมืองเก่า (Prague Old Town) ที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะหอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Prague Astronomical Clock Tower) ที่สร้างตั้งแต่ปี 1410 สามารถแสดงความสัมพันธ์การโคจรของดวงดาว ราศี อีกทั้งยังบอกเวลา วันที่ เดือน และเมื่อครบเวลาแต่ละชั่วโมงรูปสลักประกอบนาฬิกาจะสามารถขยับได้ จะเห็นนักท่องเที่ยวเบียดเสียดกันถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกสำหรับประสบการณ์ที่ล้ำค่า

จัตุรัสเมืองเก่า (Prague Old Town) เป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวแวะถ่ายรูปมากที่สุดจุดหนึ่งในกรุงปราก

ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นาฬิกาดาราศาสตร์ได้รับความเสียหายอย่างหนัก จนไม่สามารถทำงานต่อไปได้ แต่ด้วยความพยายามอย่างยิ่งยวดของ Vojtěch Sucharda เป็นช่างแกะสลักนักบูรณะผู้โด่งดัง ในที่สุดนาฬิกาก็กลับมาใช้ได้อีกครั้งนับแต่ปี 1948 เป็นต้นมา

ถัดไปคือลานกว้าง สคาโรเมสเก นาเมสตี (Staromestske namesti) จัตุรัสเมืองเก่า ซึ่งเป็นศูนย์กลางของประวัติศาสตร์ เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองเก่า (Old Town Hall Tower) สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1338 เป็นสถานที่ของส่วนการปกครองของเมืองในอดีต

หอคอยคู่สไตล์กอธิค (Gothic) ด้านในตกแต่งสไตล์บาร็อก (Baroque) ซึ่งทั้งสองหอจะไม่เท่ากัน ด้านที่เล็ก เป็นสัญลักษณ์ของผู้หญิง และอีกด้านที่ใหญ่ เป็นสัญลักษณ์ของผู้ชาย โบสถ์แห่งนี้สร้างในปี ค.ศ.1385

ในศตวรรษที่ 15 เป็นช่วงที่มีสงคราม โบสถ์จึงตกอยู่ภายใต้การควบคุมของชาวอุสไซส์ (Hussites) แต่หลังจากนั้นผู้นำของนิกายโรมันคาทอลิกก็ได้ฆ่าชาวอุสไซส์ (Hussites ) และยึดโบสถ์คืนมา

บริเวณใจกลางของจัตุรัสคือรูปปั้นของยาน ฮุส (Jan Hus) เป็นนักปฏิรูปคริสตจักรของเช็กซึ่งฝักใฝ่นิกายโปรเตสแตนต์ แต่ในตอนท้ายเขาถูกกล่าวหาว่าเป็นคนนอกรีตจากนิกายโรมันคาทอลิก โดยในปี ค.ศ.1415 คำสอนที่ลึกซึ้งของเขามีอิทธิพลต่อคนเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีส่วนร่วมในการพัฒนาภาษาและวรรณกรรมของเช็ก

หอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Prague Astronomical Clock Tower)

ฐานของอนุสรณ์สถานเขียนว่า “Milujte se, pravdy kazdemuprejte” หมายถึง “รักซึ่งกันและกันปรารถนาความจริงแด่ทุกคน”

นี่เป็นข้อความจากจดหมายในขณะที่เขาอยู่ในเรือนจำ สุดท้ายเขาก็ถูกประหารโดยการเผาทั้งเป็น ในวันที่ 6 กรกฎาคม ประเทศเช็กจึงกำหนดให้วันนี้ของทุกๆ ปีเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์เพื่อรำลึกถึงยาน ฮุส

ด้านข้างรูปปั้นยาน ฮุส คือ พระราชวังคินสกี (Kinskych Palace) เป็นอาคารสีส้ม หนึ่งในอาคารที่ใหญ่ที่สุดในจัตุรัสเมืองเก่า ถูกสร้างขึ้นในสไตล์โรโคโค (Rococo) ในช่วงกลางศตวรรษที่ 18 โดยท่านเคานต์ โกลทซ์ (Goltz) วังอยู่ในความครอบครองของตระกูลขุนนางผู้สูงศักดิ์มาระยะหนึ่ง กระทั่งคอมมิวนิสต์เข้ามายึดครองเช็ก

หลังรัสเซียล่มสลาย ระเบียงของวังแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่ประกาศการสิ้นสุดอำนาจของพวกคอมมิวนิสต์ในเช็ก ปัจจุบันที่นี่เป็นหอศิลป์แห่งชาติ เป็นที่รวบรวมหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของในยุโรปกลางที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว

การเดินทางในกรุงปรากมีความสะดวกสบายอย่างมาก มีให้เลือกตั้งรถไฟใต้ดิน รถแทรม ที่ครอบคลุมทั้งเมือง

ในภาพรวม การเที่ยวเขตเมืองเก่าสามารถใช้วิธีเดินชมสถานที่ต่างๆ ได้ครบภายในวันเดียว หรือจะเดินทางเชื่อมเขตเมืองใหม่ก็มีทั้งรถไฟใต้ดิน รถแทรม

สำหรับอาหารการกิน ไม่ยุ่งยาก มีร้านอาหารเอเชียอยู่มากมาย รสชาติไม่ต่างจากอาหารไทยสักเท่าไหร่ ที่ปรากมีชาวเช็กเชื้อสายเวียดนามอาศัยอยู่จำนวนมาก และส่วนมากประกอบการร้านอาหารเอเชีย

การอพยพของชาวเวียดนามเป็นผลจากระบอบการปกครองในอดีต ในเช็กเกียมีชาวเช็กเชื้อสายเวียดนามกว่าแสนคน ภาษาเวียดนามจึงได้รับการรองรับให้เป็นภาษาชนกลุ่มน้อยในเช็กเกีย

กรุงปรากมีมนตร์เสน่ห์ เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันหลากหลายที่เก่าแก่และงดงาม ไม่ว่าจะเป็นปราสาท อาคารบ้านเรือน สะพาน หรือโบสถ์ จึงเป็นอีกเมืองที่อยากกลับไปอีกครั้ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลชวนปักหมุดเที่ยวอุทยานฯ สัมผัสอากาศหนาว-เดินเส้นทางธรรมชาติ

รัฐบาลเชิญชวนนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวเส้นทางศึกษาธรรมชาติทั่วประเทศในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศเย็นสบาย

'I LAN YOR - เกาะยอทอวิถี' คว้ารางวัลชนะเลิศ นวัตกรรมท่องเที่ยว อพท. ปี 2024

อพท. จัดการแข่งขันนวัตกรรมระดับชาติ Sustainable Tourism Innovation 2024 เสริมสร้างศักยภาพคนรุ่นใหม่ 2 ทีมสุดครีเอต 'I LAN YOR' - 'เกาะยอทอวิถี' คว้ารางวัลชนะเลิศ