SACITชวนสัมผัสอัตลักษณ์สยาม-แบรนด์คราฟต์ทั่วไทย

สินค้าศิลปหัตถกรรมไทยจากภูมิปัญญาที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ปัจจุบันมีการต่อยอดและปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ผู้คนในปัจจุบัน เพื่อสืบสานและส่งเสริมงานหัตถศิลป์ไทยทั้งแบบดั้งเดิมและร่วมสมัย สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) (สศท.) หรือ SACIT เตรียมจัดงานยิ่งใหญ่แห่งปี 2 งานไว้ในที่เดียว ได้แก่ งานอัตลักษณ์แห่งสยามครั้งที่ 12 และงาน Crafts Bangkok 2021 ภายใต้แนวคิด “ความงามอันทรงคุณค่าและการพัฒนาที่ไม่สิ้นสุด “

ภายในงานจัดแสดงสุดยอดสินค้าหัตถกรรม อาทิ งานเครื่องถม จากครูแดง-อุทัย เจียรศิริ ครูศิลป์ของแผ่นดิน ปี 2562, ภาพวาดสีน้ำมันจากปลายพู่กันของอาจารย์สมาน คลังจัตุรัส, แหวนลายผ้าซิ่นครามสกลจากแบรนด์ PORANA , กำไล เข็มกลัด ดีไซน์เก๋ด้วยเทคนิคโมกุเม่ กาเน่ สำหรับทำดาบซามูไรของชาวญี่ปุ่นผสานกับงานช่างฝีมือไทย จาก PONK SMITHI, กระเป๋าหนังที่ตกแต่งด้วยผ้าไหมจาก แบรนด์ PATTRASARNN  ฯลฯ  นอกจากนี้ ขนทัพสินค้าศิลปหัตถกรรมไทยและงานคราฟต์มาจำหน่ายบนพื้นที่จัดงาน  6,000 ตารางเมตร ณ ฮอลล์ 98-100 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 9-12 ธ.ค. 2564

พรพล เอกอรรถพร รักษาการผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) กล่าวว่าการจัดงานหัตถศิลป์ 2 งานพร้อมกันผู้เข้าร่วมงานจะได้สัมผัสงานศิลปะไทยถึง 2 มิติ มิติแรก  งานอัตลักษณ์แห่งสยามที่คงภูมิปัญญางานหัตถกรรมดั้งเดิม  มิติที่สอง มีความทันสมัยผ่านงาน Crafts Bangkok 2021  เหมาะกับทุกเพศทุกวัย  ภายในงานยังมีสินค้าอีกมากมายที่มาจากทั้งครูช่างศิลป์ ทายาทช่างศิลป์ หรือสินค้างานคราฟท์ที่ทันสมัยจากฝีมือนักศึกษา เพื่อยกระดับให้เป็นงานศิลปหัตถกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ ส่งเสริมรายได้และอนุรักษ์งานหัตถกรรมไทย ทั้งนี้ การจัดงานอยู่ภายใต้มาตรการกระทรวงสาธารณสุข แม้จะอยู่ในช่วงวิกฤติโควิด-19 แต่งานศิลปหัตถกรรมไทยได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง หวังว่า ประชาชนจะมาจับจ่ายเพื่อช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจฐากราก อีกทั้งสนับสนุนงานแฮนด์เมดของชุมชน สืบสานและต่อยอดงานศิลปหัตถกรรมชั้นสูง  คาดว่าจะสามารถสร้างเม็ดเงินกว่า 150  ล้านบาท 

ครูอุทัย เจียรศิริ นายกสมาคมครูช่างศิลปหัตถกรรมไทยและครูศิลป์ของแผ่นดินปี 2562 กล่าวว่า กิจกรรมที่จะเกิดขึ้นถือว่าได้เปิดประสบการณ์สัมผัสงานศิลปหัตถกรรมผลงานครูช่างในหลากหลายแขนงถึง 2 งาน เพื่อจุดประกายให้คนรุ่นใหม่นำไปต่อยอด อย่างเครื่องถมเป็นงานหัตถศิลป์โบราณ  ตนปรับเปลี่ยนการออกแบบและการใช้งานให้เหมาะกับยุคสมัย จากที่เคยใช้เฉพาะบุคคลชั้นสูงนำมาดีไซน์ให้ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยยังคงเอกลักษณ์การเขียนสดด้วยมือไว้  เช่น กระเป๋าเครื่องถมทรง 8 เหลี่ยมลายประจำยาม เป็นลายพราหมณ์จากอินเดีย หรือขันเครื่องถมลายเล่าเรื่องชาดก ตอนนี้กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ คือ คนที่มีกำลังซื้อ เพราะเครื่องถมราคาสูง  ปัจจุบันยังพัฒนางานตัวเองเพื่อให้เข้าถึงฐานลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าเก่าไว้ 

หัสยา ปรีชารัตน์ ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม เจ้าของแบรนด์ไทยเบญจรงค์ กล่าวว่า เกิดในครอบครัวที่ทำงานเบญจรงค์ ได้เห็นคุณพ่อทำงานเบญจรงค์ด้วยความรักมาตลอด เริ่มฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก ทำงานนี้เพื่อสืบสานและต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ เสน่ห์ของการทำเครื่องเบญจรงค์จะเปลี่ยนสีเมื่อเข้าเตาอบ จากสีที่วาดไว้จะกลายเป็นสีทองเงางาม รวมถึงลวดลายงดงาม นอกจากนี้ ได้ออกแบบเตาอโรม่าและทำเครื่องประดับเบญจรงค์ที่มีความแข็งแรงตกไม่แตกเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ช่วงโควิดพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนแปลงไป เราเน้นจำหน่ายช่องทางออนไลน์ คนสนใจมากขึ้น รวมถึงเจาะตลาดต่างประเทศด้วย 

สำหรับงานอัตลักษณ์แห่งสยามครั้งที่ 12 ทั้ง 7 โซน ประกอบด้วย  1.โซนศิลปาชีพรวมไทย จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในพระบรมราชชนนีพันปีหลวงฯ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง และร้านภัทรพัฒน์ 2.โซนครูศิลป์ของแผ่นดิน 2564 นิทรรศการและจัดแสดงผลิตภัณฑ์ครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ประจำปี 2564  3.โซนสืบสานภูมิปัญญา สาธิตกระบวนการสร้างผลงานศิลปหัตถกรรมไทยอันมีรูปแบบเฉพาะตัวของเหล่าครูศิลป์แผ่นดิน

4.โซนมรดกล้ำค่าของแผ่นดิน นิทรรศการผลงานครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และทายาทช่างศิลปหัตถกรรม 5.โซนเสน่ห์เส้นสายลายศิลป์ จัดแสดงนิทรรศการภาพวาดสีน้ำมันจากปลายพู่กันของอ.สมาน คลังจัตุรัส พร้อมศิลปินวาดภาพสีน้ำและสีน้ำมันมีชื่อระดับประเทศและสากล พร้อมเปิดตัวภาพวาดพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี ในปี พ.ศ.2549 ”  ครั้งแรก  6.โซนร่วมรังสรรค์งานศิลป์ จัดเวิร์คช็อปถ่ายทอดองค์ความรู้จากครูศิลป์แผ่นดิน และ 7.โซนหัตถศิลป์ทั่วถิ่นไทยพบการออกร้านผลิตภัณฑ์จากฝีมือครูชั้นนำกว่า 200 ร้านค้าจากทั่วทุกภาค อาทิ งานหัวโขน, หนังใหญ่, งานหัตถกรรมผ้าไทย, เครื่องเงิน-เครื่องทอง เป็นต้น

ส่วนงาน Crafts Bangkok 2021 จัดใหญ่กว่าทุกปี รวมงานแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยร่วมสมัยหลากหลายดีไซน์ 350 บูธ  จัดแสดงผลิตภัณฑ์จากแบรนด์คราฟต์  การเจรจาธุรกิจ การสาธิตและทดลองทำงานคราฟต์,  นิทรรศการแสดงผลงานการประกวดผ้าไทยใส่ได้ทุก Gen และโครงการ SACIT WAR CRAFT สงครามทำมือ รวมถึงมินิคอนเสิร์ตจากนักร้องชื่อดังอีกด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สศท. จัดใหญ่ “อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 15” มุ่งสืบสานต่อยอดภูมิปัญญางานหัตถศิลป์ไทยชั้นบรมครูในเวทีระดับสากล

รมช.พาณิชย์ เปิดงาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 15” ประกาศเดินหน้าสืบสานภูมิปัญญา รักษา และต่อยอดหัตถศิลป์ไทย ดันเป็นจุดแข็งบนเวทีระดับสากล โชว์ไฮไลท์ “หัตถศิลป์ที่คิดถึง” จัดแสดง 50 ผลงาน ล้ำค่าของครูศิลป์ฯ ครูช่างฯ

สศท.8 เผย ปีนี้ไม้ผลภาคใต้ 4 ชนิด คาดผลผลิตรวม 6.9 แสนตันออกสู่ตลาดแล้วร้อยละ77

นายนิกร แสงเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 สุราษฎร์ธานี (สศท.8) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงผลสรุปข้อมูลเอกภาพไม้ผลภาคใต้ ปี 2567

สศท. จัดงาน SACIT Craft Power 2025 : Symposium วิเคราะห์แนวโน้มหัตถกรรมปี 68 ผลักดันหัตถกรรมไทยสู่ตลาดโลก

สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ สศท. จัดกิจกรรม SACIT Craft Power 2025 : Symposium โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ

สศท.ชวนชื่นชมเสน่ห์งานหัตถศิลป์จากช่างฝีมือในชุมชนหัตถกรรม

สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ สศท. อวดโฉมชุมชนเรียนรู้หัตถกรรมเชื่อมโยงการท่องเที่ยว (Craft Communities) ยกงานหัตถกรรมจากกลุ่มเครื่อง สังคโลกและเครื่องปั้นดินเผา จ.สุโขทัย และวิสาหกิจชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี ที่โดดเด่นเรื่องการทอผ้าเอกลักษณ์ของตำบลนาหมื่นศรี จ.ตรัง รวบรวมไว้ในงาน Crafts Bangkok 2024 ระหว่างวันที่ 24 - 28 สิงหาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น. ณ ฮอลล์ 98 - 99 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค

วิรัช ทะไกรเนตร ครูศิลป์ของแผ่นดิน ปี 2567 ผู้สร้างสรรค์ “จิตรกรรมเบญจรงค์ร่วมสมัย” หัตถศิลป์ที่ผสานองค์ความรู้อันทรงคุณค่า

จุดเริ่มต้นเกิดจากความรักในงานศิลปหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผา และความสุขของการได้ทำงานจิตรกรรม จึงได้รวบรวมองค์ความรู้ของงานทั้ง 2 ประเภท