สวธ.จัดโครงการเชิดชูเกียรติ’ศิลปาจารย์’ มุ่งยกย่องผู้อนุรักษ์ สืบสาน ต่อยอดมรดกภูมิปัญญา คัดเลือก’จ่าทวี บูรณเขตต์’ ครูช่างผู้สร้างสรรค์พระพุทธชินราชจำลอง-ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี รับรางวัลคนแรก
1 มิ.ย.2565 – นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กระทรวงวัฒนธรรม ตระหนักถึงความสำคัญของศิลปินที่เป็นต้นแบบอันดีงาม เป็นครูผู้เปี่ยมล้นด้วยองค์ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม และยึดมั่นแนวทางปฏิบัติภารกิจในการธำรงรักษา อนุรักษ์ สืบสาน ถ่ายทอด และสร้างสรรค์พัฒนางานศิลปะและวัฒนธรรมไทย เพื่อมิให้มรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติสูญหาย จึงได้กำหนดให้มีการยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปาจารย์ เพื่อเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ครูศิลป์ ที่มุ่งมั่นอุทิศตนถ่ายทอดองค์ความรู้มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมให้เป็นสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่อง โดยศิลปาจารย์ที่ได้รับการประกาศยกย่องนี้
จะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท และจะได้เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานเข็มพร้อมโล่เชิดชูเกียรติ ในโอกาสต่อไป
นายชาย กล่าวต่อว่า โครงการยกย่องเชิดชูเกียรติ ศิลปาจารย์ นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลผู้อนุรักษ์และสืบสาน ต่อยอดมรดกภูมิปัญญา เป็นครูผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้อันเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ หมายรวมถึง ครูศิลป์ ครูช่าง ครูภูมิปัญญาศิลป์ ปราชญ์ท้องถิ่น ซึ่งเป็นผู้มีเชี่ยวชาญในการถ่ายทอด และมีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ ทั้งยังเป็นผู้ที่มีคุณธรรมจริยธรรม มุ่งมั่นถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมไทยให้กับนักเรียน นักศึกษา เยาวชน ชุมชนและประชาชนคนไทย ยึดมั่นในขนบธรรมเนียมและแบบแผนประเพณีไทย อันเป็นเอกลักษณ์ในศาสตร์และศิลป์ของภูมิปัญญาแขนงนั้น ๆ ก่อให้เกิดการอนุรักษ์คุณค่ามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมให้ต่อยอดถึงรุ่นหลังอย่างยั่งยืนสืบไป
สำหรับรางวัล “ศิลปาจารย์” พุทธศักราช 2565 ได้แก่ จ่าสิบเอกทวี บูรณเขตต์ ผู้ก่อตั้งโรงหล่อบูรณะไทย และ “พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี” ครูช่างผู้มุ่งมั่นสร้างสรรค์ประติมากรรม “พระพุทธชินราช” จำลองที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามเหมือนองค์จริงมากที่สุด จนได้รับการยกย่องให้เป็น “เพชรน้ำเอกแห่งวงการช่างศิลป์” โดยได้รับการยกย่องให้เป็นผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม สาขาช่างฝีมือ แขนงช่างหล่อ จากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ เมื่อปี 2562 และยังได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณยกย่อง เป็นครูศิลป์ของแผ่นดิน ประจำปี 2560 ได้รับรางวัลเพชรสยามเมื่อปี 2564 สาขาช่างฝีมือ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ได้รับรางวัลข้าของแผ่นดินด้านการส่งเสริมศาสนาและวัฒนธรรมเมื่อปี 2564 จากสำนักงานเอกลักษณ์ของชาติสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นต้น
ประวัติชีวิตและผลงาน จ่าสิบเอกทวี บูรณเขตต์ เกิดเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2475 เป็นชาวจังหวัดพิษณุโลก ในวัยเด็กได้รับการถ่ายทอดวิชาการปั้นจากบิดา ซึ่งเป็นช่างปั้นของวัด เมื่อเติบโตขึ้น ท่านเข้ารับราชการทหารในตำแหน่งช่างเขียน ฝ่ายยุทธโยธา กองทัพภาคที่ 3 จังหวัดพิษณุโลก ระหว่างนั้น มีโอกาสฝึกงานการหล่อโลหะที่กองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร และได้รับการถ่ายทอดวิชาประติมากรรมจากศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี อาจารย์เขียน ยิ้มศิริ อาจารย์สนั่น ศิลากร ซึ่งเป็นประติมากรชั้นครู ต่อมาใน พ.ศ. 2521 ท่านลาออกจากราชการมาประกอบอาชีพช่างหล่อพระพุทธรูป และได้เริ่มบุกเบิกการปั้นหล่อองค์พระพุทธชินราชจำลอง จากความทรงจำที่ได้ไปสักการะอยู่เป็นนิจ ทำให้มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากและได้ก่อตั้งโรงหล่อบูรณะไทย นอกจากนี้ ยังมีผลงานที่สร้างชื่อเสียง ได้แก่ พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช รูปปั้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หลักศิลาจารึกพระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9
โรงหล่อบูรณะไทย นอกจากจะเป็นสถานที่ประกอบสัมมาชีพของท่านแล้ว ยังเป็นโรงเรียนที่ถ่ายทอดวิชาการปั้นหล่อให้กับชาวบ้านและผู้สนใจเป็นจำนวนมาก จนลูกศิษย์หลายต่อหลายรุ่นได้นำไปประกอบอาชีพหล่อเลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยรายได้จากโรงหล่อบูรณะไทยยังเป็นน้ำที่หล่อเลี้ยง “พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี” ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอย่างมากเมื่อเทียบกับค่าเข้าชมเพียงหลักสิบบาทต่อคน เพื่อการสร้างประโยชน์ในการเรียนรู้อย่างยั่งยืน ท่านได้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2526 ด้วยเจตจำนงในการอนุรักษ์มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมพื้นบ้าน ให้เป็นแหล่งรวบรวมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของพิษณุโลก และภาคเหนือตอนล่าง บรรยายให้ความรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และจัดกิจกรรมเสริมความรู้นอกห้องเรียนให้แก่เด็ก นักเรียน เยาวชน ผู้สนใจทั่วไปอย่างสม่ำเสมอ
ด้วยจิตวิญญาณแห่งการเป็นครูผู้ให้ ยังขยายไปสู่การจัดตั้ง มูลนิธิจ่าสิบเอกทวี – พิมพ์ บูรณเขตต์ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่เด็กยากไร้และขาดโอกาสทางการศึกษา โดยได้มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษามาอย่างต่อเนื่องทุกปี ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมูลนิธิเมื่อปี พ.ศ.2525 ท่านได้ดำรงตนอยู่ได้ด้วยสัมมาชีพทางพุทธศิลป์ และนำความเชี่ยวชาญนั้นมาเป็นจุดตั้งต้นแห่งการเป็นครูและการเป็นผู้ให้กับสังคมมาตลอดระยะเวลาอันยาวนานจวบจนปัจจุบัน จ่าสิบเอกทวี บูรณเขตต์ จึงได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปาจารย์ พุทธศักราช 2565
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หมูเด้ง' ซุปตาร์ดันวัฒนธรรมไทยสู่ระดับโลก
“หมูเด้ง”ซุปเปอร์สตาร์ฮิปโปแคระที่โด่งดังเป็นไวรัลทั่วโลกจากความน่ารักขี้เล่น สื่อต่างประเทศนำไปลงข่าว นิตยสาร TIME พาดหัวข่าวเป็นไอคอนไลฟ์สไตล์ที่กิน นอน และแอคชั่นดราม่า สร้างปรากฎการณ์หมูเด้ง ช่วยให้ยอดนักท่องเที่ยวเข้าชมสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี เพิ่มทวีคูณ
ประเพณีถือศีลกินผักภูเก็ต อัตลักษณ์แห่งศรัทธาสืบทอดมา 199 ปี
จังหวัดภูเก็ต พร้อมหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน คณะกรรมการอ๊าม (ศาลเจ้า) และองค์กรต่าง ๆ พร้อมใจกันจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2567 โดยมี นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล
ประกาศเกณฑ์รับเงินอุดหนุนงานวัฒนธรรมปี68
28 ก.ย. 2567 - นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 นี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดทำโครงการงบประมาณ หมวดเงินอุดหนุนทั่วไป เงินอุดหนุนส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาการดำเนินงานของเครือข่ายทางวัฒนธรรม
เปิดงาน'ไทยฟรุ้ง ปรุงไทย' ดึงชุมชนร่วมรักษามรดกภูมิปัญญา
ยิ่งใหญ่กับการเปิดงาน“ไทยฟุ้ง ปรุงไทย” (Thai Taste Thai Fest 2024) โดย นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน พร้อมด้วย นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรม
'ประเพณี12เดือน' ภาพถ่ายทันสมัย เปิดมุมมองใหม่
มุมมองใหม่ๆ ที่เปิดเผยความงดงามของประเพณีไทยและบอกเล่าวิถีชีวิตผ่านเลนส์กว่า 200 ภาพ ในนิทรรศการภาพถ่าย“ประเพณี 12 เดือน ร้อยมุมมองวิถีไทย” ไม่เพียงสะท้อนถึงความเป็นไทยที่น่าภาคภูมิใจเท่านั้น แต่ยังพัฒนาวงการถ่ายภาพของประเทศไทย เห็นได้จากที่มี
เปิดบ้าน'เกริก ยุ้นพันธ์'ศิลปินแห่งชาติ ผู้สร้างพิพิธภัณฑ์เด็กเมืองอยุธยา
ถนนอู่ทอง ใน ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นถนนที่เชื่อมแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นพระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์ วัดพนมยงค์ วัดศาลาปูนวรวิหาร วัดตึก วัดเชิงท่า ภายในถนนเส้นนี้มีบ้านที่จัดสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์