โรคภัยไข้เจ็บไม่ได้เกิดขึ้นในยุคปัจจุบันเท่านั้น แต่ได้ทิ้งร่องรอยให้เราเห็นตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ อย่างโรคระบาดก็เกิดขึ้นเมื่อมนุษย์รวมตัวกันอยู่เป็นสังคมทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ มีการตั้งถิ่นฐาน เพาะปลูกทำนา เลี้ยงสัตว์ ล่าสัตว์ จนนำไปสู่การเกิดโรค โรคระบาดเป็นปัจจัยหนึ่งทำให้เกิดการอพยพเคลื่อนย้ายถิ่นฐาน
เมื่อโรคเพิ่มขึ้นมนุษย์เริ่มแสวงหาหนทางพ้นจากโรค ไม่ว่าจะด้วยสัญชาติญาณ การสังเกตจากธรรมชาติและสัตว์ การลองผิดลองถูก สั่งสมเป็นภูมิปัญญาของมนุษย์ในการรักษาโรค มีทั้งการรักษาเยียวยาทางกาย และจิตใจ การป้องกันไม่ให้เกิดโรค และยังคงต้องคิดหาหนทางใหม่ๆ ที่จะต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บอยู่เสมอ
ส่วนระบบสาธารณสุขปัจจุบันมีการพัฒนาสามารถควบคุมและจัดการโรคได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ผู้คนห่างไกลโรคระบาด จนกระทั่งเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( Covid-19) ผู้คนล้มตายจำนวนมาก สร้างวิกฤติให้กับประชากรโลกตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เกิดการเรียนรู้สู้โรคขนานใหญ่ องค์ความรู้ด้านการรักษาโรคในอดีตถูกพลิกฟื้น ควบคู่ไปกับการค้นคว้าทดลองทางวิทยาศาสตร์เพื่อผลิตยารักษา และวัคซีนป้องกันโรค มุ่งหมายเพื่อหาแนวทางการบำบัดแก้ไขโรคร้ายลดตัวเลขคนป่วยและตายให้น้อยที่สุด
คัมภีร์พระตำรับแผนฝีดาษ
เพื่อการเรียนรู้และเข้าใจโรคระบาดที่คนทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ กรมศิลปากรพาข้ามเวลาเข้าสู่อดีตเพื่อพบหลักฐานการเกิดโรคผ่านนิทรรศการพิเศษเนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช 2565 เรื่อง “อาโรคยปณิธาน” ซึ่งหมายถึง ความปรารถนาที่จะให้ปวงมนุษยชาติพ้นจากโรค ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เปิดนิทรรศการพิเศษเนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย ดังกล่าว ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เมื่อวันก่อน
ในนิทรรศการเริ่มที่หัวข้อ มนุษย์กับโรคภัย นำเสนอเรื่องความเจ็บไข้ได้ป่วยของมนุษย์ โรคภัยของมนุษย์จากหลักฐานทางโบราณคดี นำเสนอโรคต่างๆ ที่พบบนผืนแผ่นดินไทยตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน โดยอ้างอิงจากหลักฐานต่างๆ ทั้งทางด้านโบราณคดี ภาพจิตรกรรมฝาผนัง จารึก และบันทึกต่าง ๆ
หนึ่งในหลักฐานสำคัญนำมาจัดแสดง เป็นคัมภีร์พระตำรับแผนฝีดาษ รัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ 25 พระเจ้าราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นอักษรสาสนโสภนและหลวงสารประเสริฐทรงชำระและชำระเมื่อ พ.ศ.2414 ได้มาจากห้องสมุดกรมศึกษาธิการ สำนักหอสมุดแห่งชาติ แล้วยังมีสมุดไทยดำ อักษรขอมปนไทย เส้นชุบทอง ประกอบด้วยแผนภาพฝีดาษประจำ 12 เดือน วิธีรักษาพร้อมทั้งตำรับยารักษาอาการระดับต่างๆ รวมถึงอธิบายลักษณะของฝีขึ้นวันกำเนิดเป็นฝีร้ายและลักษณะฝีที่ขึ้น
แท่นหินบดยา มีจารึกเยธมฺมาฯ เก่าแก่สมัยทวารวดี
ถัดมาแท่นหินบดยา มีจารึกเยธมฺมาฯ เก่าแก่สมัยทวารวดี พุทธศตวรรษที่ 11-12 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล พบที่จังหวัดนครปฐม พ.ศ. 2507 การนำคาถาเย ธมฺมา ซึ่งเป็นหัวใจพระพุทธศาสนามาจารึกบนแท่นหินบดยาจะทำให้ตัวยาศักดิ์สิทธิ์ด้วยพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ผู้ป่วยที่ได้รับยานี้จะพ้นจากโรค พ้นจากทุกข์ โบราณวัตถุชิ้นสำคัญทำให้เรารู้ถึงความเชื่อและศรัทธาของผู้คนสมัยทวารวดีที่มีต่อพระพุทธศาสนาและปรุงยารักษาโรคแล้วยังมีประติมากรรมฤาษีดัดตน เป็นท่าดัดตนของโยคีอินเดียเป็นการออกกำลังกายที่ใช้ศิลปะเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง และแก้ปวดเมื่อย
ประติมากรรมฤาษีดัดตน
ในส่วนศาสตร์แห่งการรักษา นำเสนอแนวทางการรักษาโรคที่มีวิธีอธิบายสมุฏฐานและวิธีบำบัดโรคมากกว่าหนึ่งวิธี ได้แก่ ศาสตร์ด้านความเชื่อ ศาสตร์ด้านการแพทย์แผนไทย และศาสตร์ด้านการแพทย์แผนตะวันตก มาชมหน้ากากชิมเมลบุช ประดิษฐ์ขึ้น พ.ศ. 2433 โดย นพ.เคอร์ท ชิมเมลบุช ศัลยกรรมชาวเยอรมัน ลักษณะเป็นตะแกรงหน้ากากโปร่ง หุ้มด้วยผ้าสำสีสำหรับหยดยาสลบ แล้วนำไปครอบจมูกและปากให้ผู้ป่วยสูดดม เป็นเครื่องมือแพทย์ยุคเริ่มแรกสำหรับผ่าตัดภายในโรงพยาบาลศิริราช ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ศัลยแพทย์ผ่าตัดด้วยความเรียบร้อย และลดอาการเจ็บปวดผู้ป่วยได้
หน้ากากให้ยาสลบชิมเมลบุช
นอกจากนี้ มีหัวข้อ สังคมระดมปัญญา สู่ชีวิตวิถีใหม่ นำเสนอการจัดการวิกฤติโรคระบาดจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในสังคมไทยให้ผ่านพ้นด้วยพลังของทุกภาคส่วนในสังคม เดินชมนิทรรศการจนทั่วจะเห็นได้ว่า โรคร้ายมีมาแต่อดีตมีการรักษาไม่ให้แพร่กระจาย ส่วนในไทยวันนี้ประชาชนต้องดูแลป้องกันตัวเอง อยู่ร่วมกับโควิด เพราะไม่ช้าจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น สนใจชมนิทรรศการพิเศษ เรื่อง “อาโรคยปณิธาน” ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เปิดให้เข้าชมระหว่างวันที่ 15 พ.ค. – 7 ส.ค. 2565 เวลา 09.00-16.00 น. (ปิดวันจันทร์และอังคาร)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงาน'ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร นครนายก'
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ไปยังเขื่อนขุนด่านปราการชล อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ทรงเปิด “ศูนย์ฝึกอบรมสุดาเดือนเพ็ญและที่พักของมูลนิธิชัยพัฒนา” และงาน “ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร จังหวั
กรมสมเด็จพระเทพฯ ทอดพระเนตรงานกุหลาบรวมน้ำใจ เทิดไท้องค์ราชัน
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ เพื่อทอดพระเนตรการจัดแสดงกุหลาบเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในงานกุหลาบรวมน้ำใจ
กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงานกาชาดปี 2567
11 ธ.ค. 2567 เวลา 17.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงานกาชาดประจำปี 2567 ภายใต้
กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์'ได้ออกนอกบ้าน!'
10 ธ.ค. 2567 - เวลา 8.51 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงานนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ในหัวข้อ “ได้ออกนอกบ้าน! : Free at Last!” โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
สคส.กรมสมเด็จพระเทพฯ
กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานพรปีใหม่ 2568 ปีมะเส็งงูเล็กแก่พสกนิกรไทย เพื่อความเป็นสิริมงคล ชีวิตก้าวหน้า
กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงาน'สานสายใยเพื่อผลิตภัณฑ์สายใจไทย'
29 ต.ค.2567 - เวลา 09.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ประธานมูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เสด็จฯ ไปทรงเป็นประธานเปิดงาน“สานสายใยเพื่อผลิตภัณฑ์สายใจไทย ครั้งที่ 26 ” ณ ลิฟวิ่ง ฮอลล์ ชั้น 3 สยามพารากอน