ย้อนอดีตโทรทัศน์ไทยที่ 'MCOT MUSEUM'

ในอดีตผู้คนรับข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงผ่านการอ่านหนังสือพิมพ์ และการฟังวิทยุ    จนเมื่อเทคโนโลยีด้านการสื่อสารถูกพัฒนา โทรทัศน์จึงถือกำเนิดขึ้น และกลายเป็นสื่อที่ผู้คนต่างให้ความนิยมจนทุกวันนี้ เพราะสามารถรับชมได้ทั้งภาพและเสียงพร้อมกัน   

ทำไมต้องมี “โทรทัศน์”หลายคนสงสัย หลังผ่านช่วงเวลาแห่งความทุกข์จากสงครามโลก ครั้งที่ 2 ผู้คนแสวงหาความบันเทิง นักธุรกิจและนักประดิษฐ์เกิดแนวคิดที่จะนำโทรทัศน์กลับมาพัฒนาให้เป็นเทคโนโลยีใหม่ในการสื่อสารที่สามารถรับชมได้ทั้งภาพและเสียง จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในช่วงเวลานั้น เล็งเห็นความสำคัญของการมีโทรทัศน์ มีคำสั่งให้ จัดตั้ง บริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด ขึ้น เมื่อวันที่ 10 พ.ย. พ.ศ. 2495 เพื่อสร้างความบันเทิงให้แก่ประชาชน ทั้งยังช่วยเผยแพร่ข่าวสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ในช่วงแรกดำเนินกิจการสถานีวิทยุ ท.ท.ท. เพื่อเตรียมพร้อมก่อนเปิดสถานีโทรทัศน์ 

หลังจากนั้นไม่นาน สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 4 เปิดทำการขึ้น เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.พ.ศ. 2498 ตั้งอยู่ที่วังบางขุนพรหม บริเวณเดียวกับที่ตั้งของธนาคารแห่งประเทศไทยในปัจจุบัน จึงเรียกว่า “ช่อง 4 บางขุนพรหม” เป็นสถานีโทรทัศน์แห่งแรกในอาเซียน โดยมีคุณจำนง รังสิกุล หรือ “หัวหน้าจำนง” ที่ชาวช่อง 4 ให้ความเคารพเป็นกำลังสำคัญพัฒนารูปแบบรายการและก่อตั้งสถานีโทรทัศน์

ช่วงแรกเริ่มเผยแพร่ภาพขาว – ดำ ระบบ 525 เส้น 30 ภาพต่อวินาที  และถ่ายทำด้วยการออกอากาศสด เพราะยังไม่มีเทคโนโลยีการบันทึกเทป ออกอากาศสัปดาห์ละ 4 วัน คือ อังคาร, พฤหัสบดี, เสาร์ และอาทิตย์  ตั้งแต่เวลา 18.00 – 23.00 น. ต่อมาจึงเพิ่มวันและเวลาออกอากาศจนครบทุกวัน 

ตำนานโทรทัศน์ไทยมีคุณค่า นำมาสู่การเปิด MCOT MUSEUM  แหล่งรวบรวมประวัติศาสตร์วงการโทรทัศน์ไทยและสื่อสารมวลชน  ในโอกาสที่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ครบรอบ 70 ปี เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เป็นมิวเซียมใหม่ใจกลางเมือง

การเยี่ยมชม MCOT MUSEUM  เหมือนได้ย้อนวันวานไปยังจุดเริ่มต้นของ “ตำนานโทรทัศน์ไทย” นับตั้งแต่ยุคบริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด หลักหมุดแรกของโทรทัศน์ไทยสู่องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ อ.ส.ม.ท. จนเป็น บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ที่อยู่คู่สังคมไทยมากว่า 70 ปี  ซึ่งยังคงมุ่งมั่นนำเสนอสาระประโยชน์สร้างสรรค์สังคมทำหน้าที่ดั่งดวงตาที่สะท้อนปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมตามแนวคิดของมิวเซียมแห่งนี้  “Journey through the eye” 

MCOT MUSEUM ตั้งอยู่ที่อาคารปฏิบัติการวิทยุโทรทัศน์ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน ) ถนนพระราม 9  เมื่อเดินเข้าไปใน MCOT MUSEUM เริ่มต้นด้วยการเล่าเรื่อง“ชีวิตก่อนมีโทรทัศน์”  ที่ผู้คนต่างติดตามข่าวสารจากสื่อหลักอย่างหนังสือพิมพ์และวิทยุ จนมีวิวัฒนาการช่องทางรับข่าวสารผ่านโทรทัศน์ อย่างในปัจจุบัน   

ก่อนนำสู่การจัดแสดง 3 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 “The Foresight  มองไกลให้ก้าวไกล” บอกเล่าความเป็นมาวิวัฒนาการสื่อสารมวลชนใน 3 ยุค คือ บริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด, องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย, บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)  

โซนที่ 2 “The Visionary  มองต่างให้เติบโต”  จัดแสดงภาพถ่ายและแนวคิดของปูชนียบุคคล  ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงให้วงการโทรทัศน์ไทย

โซนที่ 3 “The Reflection  มุมมองภาพสะท้อนบทบาท อสมท ที่อยู่คู่สังคมไทย สะท้อนให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือในฐานะองค์กรสื่อที่มีบทบาทคู่สังคม 

สนใจเยี่ยมชม MCOT MUSEUM  เปิดให้เข้าชมเป็นหมู่คณะ และจำกัดการเข้าชม ครั้งละไม่เกิน 15 คนภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด – 19  ในวันและเวลาทำการ ลงทะเบียนล่วงหน้า ติดต่อฝ่ายสื่อสารภาพลักษณ์องค์กร บมจ.อสมท โทรศัพท์ 02 201 6392 – 3

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภูพระบาท'คุณค่าโดดเด่น ไทยลุ้นมรดกโลก

เวลานี้คนไทยร่วมส่งแรงใจสนับสนุนการขึ้นบัญชีอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เป็นแหล่งมรดกโลกแห่งใหม่ล่าสุดของประเทศไทยต่อจากอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ วาระการพิจารณาภูพระบาทคาดว่าจะเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่  46

ศน.จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ 3 ภาษา ถวายพระราชกุศล

26 ก.ค.2567 - เวลา 10.00 น. ที่มหาวชิราลงกรณบาลีเถรวาทราชวิทยาลัย จ.นครปฐม พระธรรมวชิราจารย์ เจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม มอบหมายให้นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร

ส่งมอบพวงมาลัยคล้องคอเรือพระที่นั่ง เตรียมพร้อมแสดงกาพย์เห่เรือเฉลิมพระเกียรติ

25 ก.ค.2567 - พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีส่งมอบพวงมาลัยคล้องคอเรือพระที่นั่ง ระหว่างโรงเรียนสตรีวัดระฆัง ส่งมอบโดย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นำโดย ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้

แรงบันดาลใจจาก'รวงผึ้ง' ต้นไม้ประจำรัชกาล

ต้นรวงผึ้ง พรรณไม้ไทยทรงคุณค่า เป็นต้นไม้ประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 มีดอกสีเหลืองอร่ามโดดเด่นเหมือนดวงดาวประกายแสงเหลืองทองบนท้องฟ้า สมกับที่เรียกว่า “Yellow Star”  มักจะผลิชูช่อเต็มต้นในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมของทุกปี

ลุ้น'ภูพระบาท'เป็นมรดกโลกแห่งใหม่

24 ก.ค.2567 - นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ได้มอบกรมศิลปากร ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 46 ซึ่ง

Soft Power ไทยสู่สากลผ่านคอสเพลย์

ถือเป็นสนามทดสอบไอเดียสร้างสรรค์ของเหล่าเลเยอร์ ผู้เล่นคอสเพลย์ (cosplay)  ที่หลงไหลตัวละครที่ชื่นชอบจากเกม ภาพยนตร์  อนิเมะ  การ์ตูนมังงะ  และใช้เป็นแรงบันดาลใจในการแต่งตัว แต่งหน้า ทำผมเลียนแบบ  ไม่ใช่แค่เหมือน ดูดี แต่ต้องผสมผสานวัฒนธรรมไทยได้อย่างลงตัวผ่านการประกวดคอสเพลย์