งาน’ใต้ร่มพระบารมี 240 กรุงรัตนโกสินทร์’ คนแห่ชมคึกคัก แจกพิกัดชุมชนอาเซียนน่าเที่ยว ยกย่านเขมร-ญวณ-พม่า-มอญ-ลาว-มุสลิม มาไว้ที่เดียว ไม่ต้องเดินทางไกล
24 เม.ย.2565 – นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า งาน“ใต้ร่มพระบารมี 240 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” ซึ่งจัดขึ้นวันที่ 20-24 เมษายน 2565 ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โรงละครแห่งชาติ และบริเวณพื้นที่รอบเกาะรัตนโกสินทร์ กรุงเทพฯใน 9 พื้นที่หลักและแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม 20 แห่ง ประชาชนให้ความสนใจจำนวนมาก ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายของงาน กิจกรรมส่วนหนึ่งเป็นการเผยแพร่ความรู้ชุมชนในไทยและชุมชนต่างชาติในกรุงรัตนโกสินทร์ทั้งในกรุงเทพฯและภูมิภาคต่างๆ นับตั้งแต่สมัยอยุธยาสืบเนื่องมาถึงสมัยรัตนโกสินทร์โดยเมื่อปี พ.ศ.2325 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นเป็นราชธานี มีชาวต่างชาติทั้งที่อพยพย้ายถิ่นมาตั้งแต่สมัยอยุธยาและอพยพมาใหม่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ทรงใช้ทศพิธราชธรรมปกครองพสกนิกรชาวไทย และทรงแผ่พระบารมีไปยังชาวต่างชาติโดยพระราชทานสิทธิเสรีภาพในการดำเนินชีวิต ประกอบอาชีพ การปฏิบัติประเพณีและนับถือศาสนา อีกทั้งพระราชทานที่ดินให้อยู่อาศัยแยกตามเชื้อชาติและศาสนา ก่อเกิดเป็นชุมชนและย่านตามรูปแบบทางวัฒนธรรมและศาสนาที่คล้ายคลึงกัน
นายอิทธิพล กล่าวด้วยว่า วธ.จัดนิทรรศการเกี่ยวกับชุมชนในไทยและชุมชนต่างชาติใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารใน 2 พื้นที่ ได้แก่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จัดนิทรรศการ“ชุมชนใต้ร่มพระบารมี” ถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมาและอัตลักษณ์ชุมชน เช่น สถาปัตยกรรม งานหัตถกรรมและช่างฝีมือ อาหาร การแต่งกายของชุมชนในกรุงเทพฯ ภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก และศูนย์อาเซียน ชั้น 3 หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน จัดนิทรรศการ “ชุมชนอาเซียนใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร” วันที่ 20 – 24 เมษายน 2565 เวลา 10.00-19.00 น. เผยแพร่องค์ความรู้การตั้งถิ่นฐานของชุมชนอาเซียนดั้งเดิมในกรุงเทพฯ 6 กลุ่ม ได้แก่ เขมร ญวน พม่า มอญ ลาว และมุสลิม พร้อมนำเสนออัตลักษณ์ ขนบประเพณีของชุมชนอาเซียนที่อยู่อาศัยภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารอย่างร่มเย็นเป็นสุขตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน และวันที่ 23-24 เมษายน 2565 มีกิจกรรมบรรยายและเสวนา“ชุมชนอาเซียนใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร” การสาธิตด้านอาชีพและอาหารโดยผู้แทนชุมชนอาเซียน ได้แก่ ย่านเขมร ชุมชนบ้านบาตรสาธิตการทำบาตร ย่านพม่า ชุมชนตลาดพระโขนงออกร้านขายเครื่องอุปโภคบริโภค ย่านมอญ จัดแสดงข้าวแช่จากบางลำพู ย่านลาว ชุมชนบางไส้ไก่สาธิตการทำขลุ่ย และย่านมุสลิมจัดแสดงแกงมัสมั่นจากชุมชนมัสยิดจักรพงษ์
สำหรับบรรยากาศนิทรรศการและเสวนา “ชุมชนอาเซียนใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร” ในงาน “ใต้ร่มพระบารมี 240 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” ณ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน เป็นไปอย่างคึกคัก ตลอดทั้งวันมีประชาชนทุกเพศทุกวัยทยอยเดินทางมาเยี่ยมชมและรับฟังเรื่องราวอาชีพและอาหารสุดคลาสสิก 6 ชุมชนอาเซียน ภายในนิทรรศการที่มีชีวิตชีวา และมีผู้นำชุมชนมาบอกเล่าเรื่องราวด้วยตัวเอง นำพาผู้ชมไปท่องย่านเขมร ชุมชนบ้านบาตร บาตรนี้มีเรื่องราวเล่าขาน
ถัดมาเป็นย่านลาว ชุมชนบางไส้ไก่ ฟังเสียงขลุ่ยคลอเคล้าเล่าเทคนิคสร้างให้ไพเราะ ต่อด้วยมาช้อปย่านพม่า ชุมชนตลาดพระโขนง ออกร้านขายสินค้าสารพัด ก่อนจะแวะชิมอาหารย่านญวน เปาะเปี๊ยะแสนอร่อยซอยสามเสน 13 ตามด้วยย่านมุสลิมที่อยู่คู่พระนคร ลิ้มรสมัสมั่นจากชุมชนมัสยิดจักรพงษ์ ท้ายสุดมารู้จักย่านมอญ ชิมข้าวแช่รสเลิศบางลำพู
Ms. Suzilah Mohd Sidek ผู้แทนสถานเอกอัครทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย กล่าวว่า นิทรรศการให้ความรู้และสาธิตทางวัฒนธรรมของศูนย์วัฒนธรรมอาเซียนที่ได้นำเอามรดกร่วมของทั้งสิบประเทศมานำเสนอในมุมมองที่หลากหลาย และอีกสิ่งหนึ่งที่ประทับใจ คือ อาหารคลายร้อนของไทย ทั้งคาว หวาน คือ เมนูข้าวแช่และของหวาน “ส้มฉุน” และวิธีการทาน กลิ่นหอมรสชาติที่ไม่เหมือนใคร ทั้งประณีตและสร้างสรรค์