ยกระดับ 16 เทศกาลประเพณีสู่นานาชาติ

วธ.คัด 16 เทศกาล-ประเพณีโดดเด่นที่ สวจ.ร่วมกับจังหวัดจัด ยกระดับสู่นานาชาติ ส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ‘แห่สลุงหลวง-ภูไทรำลึก-ปอยส่างลอง-เวียนเทียนทางน้ำกว๊านพะเยา’ติดโผ

24 มี.ค.2565 –  นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า วธ.ได้คัดเลือกงานเทศกาลและประเพณีที่มีความโดดเด่นในจังหวัดต่างๆ ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด (สวจ.) ร่วมมือกับจังหวัด หน่วยงานรัฐ เอกชน เครือข่ายทางวัฒนธรรมและชุมชนจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมและยกระดับไปสู่ระดับชาติและนานาชาติ โดยเบื้องต้นในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 มีแผนยกระดับงานเทศกาลและประเพณี 16 กิจกรรม เพื่อส่งเสริมให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายระดับชาติและนานาชาติ ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพื่อให้วัฒนธรรมสร้างเศรษฐกิจฐานราก สร้างงาน สร้างรายได้แก่ชุมชนและประเทศ

นายอิทธิพล กล่าวต่อว่า  งานเทศกาลและประเพณีจำนวน 16 เทศกาล จะจัดขึ้นในระหว่างเดือนเมษายน – กันยายน 2565 ประกอบด้วย เดือนเมษายน 4 เทศกาล ได้แก่ 1.ประเพณีแห่สลุงหลวง สืบสานกลองใหญ่ ปีใหม่เมืองนครลำปาง จ.ลำปาง 2. ประเพณีภูไทรำลึก จ.สกลนคร 3.ประเพณีปอยส่างลอง จ.แม่ฮ่องสอน 4. ประเพณีแห่ช้างบวชนาคไทยพวน บ้านหาดเสี้ยว จ.สุโขทัย เดือนพฤษภาคม 3 กิจกรรม ได้แก่ 1. ประเพณีบวชนาคบนหลังช้าง จ.สุรินทร์ 2. ประเพณีเวียนเทียนทางน้ำกลางกว๊านพะเยา จ.พะเยา 3. ประเพณีสืบสานงานนมัสการหลวงพ่อพระสุก จ.ยโสธร

เดือนมิถุนายน 2 กิจกรรม ได้แก่ 1. เทศกาลเสน่ห์ชุมชน ยลวิถีย่านเมืองเก่า“วิวาห์บาบ๋าภูเก็ต” จ.ภูเก็ต 2. มหกรรมสืบสานตำนานวันสุนทรภู่ กวีเอกของโลก เดือนกรกฏาคม 4 กิจกรรม ได้แก่ 1. ประเพณีแห่ผ้าพระราชทานในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ห่มพระบรมธาตุสวี จ.ชุมพร 2. ประเพณีบูชาพระธาตุ ย้อนรอยประวัติศาสตร์เมืองคนดี จ.สุราษฎร์ธานี 3. ประเพณีสืบสานวัฒนธรรมสี่เผ่าไทศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ 4. ประเพณีห่มผ้าพระนอน จ.อ่างทอง

เดือนสิงหาคม 3 กิจกรรม ได้แก่ 1. เทศกาลหนังใหญ่วัดขนอน จ.ราชบุรี  2. ประเพณีทิ้งกระจาด จ.สุพรรณบุรี  3. มหกรรมสืบสานพหุวัฒนธรรม งานของดีเมืองนรา จ.นราธิวาส การจัดงานเทศกาลและประเพณีทั้ง 16 เทศกาล

การขับเคลื่อนครั้งนี้จะเป็นกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากในจังหวัด ช่วยให้มีนักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่ จังหวัดใกล้เคียง และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น สามารถช่วยให้เกิดการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยว อาหาร ที่พัก การเดินทาง ศิลปินพื้นบ้าน ผลิตภัณฑ์และบริการทางวัฒนธรรมสูงยิ่งขึ้น

” วธ.จะบูรณาการความร่วมมือกับจังหวัด หน่วยงานรัฐ เอกชน เครือข่ายทางวัฒนธรรมและชุมชนในพื้นที่ที่จัดงานเทศกาลและประเพณี ปีนี้บางกิจกรรมอาจจะปรับเปลี่ยนช่วงเวลาจัดงานตามความเหมาะสม  จากสถานการณ์โรคโควิดเพื่อให้งานก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด ที่สำคัญช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเพื่อให้เป็นที่รู้จักทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ  ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้สู่ชุมชนและประเทศ รวมทั้งส่งเสริมให้เด็ก เยาวชนและประชาชนมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทยและเห็นถึงเอกลักษณ์ของความเป็นชาติ คุณค่าและความสำคัญของมรดกวัฒนธรรม  ภูมิปัญญาท้องถิ่นและอัตลักษณ์ของชุมชน เพื่อร่วมกันสืบสาน รักษาและต่อยอดงานเทศกาลประเพณีและมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่สืบไป” รมว.วธ. กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พิกัด 11 วัด งานอารามอร่ามประดับไฟรับปีใหม่

เพื่อส่งมอบความสุขปลายปีและเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) จัดกิจกรรม “อารามอร่าม 11 วัด 1  โบสถ์พราหมณ์1 พิพิธภัณฑ์ ประดับไฟฉลองต้อนรับเทศกาลปีใหม่ 2568 “ ถือเป็นอีกหมุดหมายที่ห้ามพลาดและไม่ได้จัดเป็นประจำ เพราะ

ฉลอง'ต้มยำกุ้ง' กระหึ่มโลก ชวนลองเมนูมรดกวัฒนธรรม

โด่งดังก้องโลกกับเมนูต้มยำกุ้งของดีเมืองไทย กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จัดงานฉลองต้มยำกุ้งและเคบายา มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ในโอกาสที่ ยูเนสโก ได้ประกาศขึ้นทะเบียน “ต้มยำกุ้ง” (Tomyum Kung) และ “เคบายา” เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Representative List

แสดง'โขน-โนรา'สานสัมพันธ์ที่เขมร

25 พ.ย.2567 - นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มีนโยบายนำมิติทางศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมมาส่งเสริมความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศไทยในภูมิภาคอาเซียนและเวทีนานาชาติ

ย้อนเวลา 4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ

ชวนแต่งชุดไทยเดินทางย้อนเวลากลับไปสู่ช่วงต้นกรุงศรีอยุธยา  ดื่มด่ำกับบรรยากาศโบราณสถานยามค่ำคืนที่งดงามในงาน “ 4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” ภายใต้แนวคิด “ย้อนเวลา ส่องวิถี ปลุกแสงสี พระนครศรีอยุธยา” โดยจะจัดกิจกรรมตามวัดและโบราณสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์