ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์คาราบาว คัพ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังดวลจุดโทษวัดความแม่นกันจนถึงผู้รักษาประตูต้องออกมายิง และเอาชนะ เชลซี 11-10 เคปา พลาดยิงเป็นคนสุดท้ายเหินข้ามคานแบบไม่มีลุ้น
โทมัส ทูเคิล กับ เจอร์เกน ตล็อปป์ ต่างพาทีมคว้าแชมป์(ยุโรปกันได้แล้ว แต่ยังไม่มีใครเคยได้แชมป์บอลถ้วยของอังกฤษมาก่อน
ครั้งสุดท้ายที่ เชลซี เคยได้แชมป์ลีกคัพ เกิดขึ้นในปี 2015 แต่สำหรับ ลิเวอร์พูล ผ่านมาแล้วทศวรรษยังไม่เคยได้สัมผัสถ้วยใบนี้อีก น่าสนใจที่ เชลซี เจอกับ ลิเวอร์พูล ในนัดชิงชนะเลิศ บอลถ้วยภายใน 2 ครั้งก่อนหน้านี้ เป็นฝ่ายชนะได้ทั้ง 2 ครั้ง คือ ลีกคัพ ปี 2005 กับ เอฟเอ คัพ ปี 2012 รวมถึง เจอร์เกน คล็อปป์ ยังไม่เคยเอาชนะ โทมัส ทูเคิล ได้เลยในการพบกัน 4 ครั้ง
ลิเวอร์พูล นัดนี้ให้ เคลเลเฮอร์ ลงเฝ้าเสา ขณะที่ 3 ประสานในแดนหน้า จัดมาเต็มพิกัด โม ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ กับ หลุยส์ ดิอัซ โดยที่ ดิโอโก โชตา นั่งสำรอง
ด้าน เชลซี ยังให้ โรเมลู ลูกากู นั่งสำรองเป็นเกมที่ 2 ติดต่อกัน เอดูอาร์ เมนดี้ เฝ้าเสา ขณะที่ เมสัน เมาท์ คับแบ็คลงสนามนัดแรกนับตั้งแต่ คลับ เวิลด์ คัพ นัดชิงชนะเลิศ
แต่ปรากฎว่าจบ 90 นาที ยังยิงกันไม่ได้ ต้องต่อเวลาพิเศษ ก็ยังเสมอกันอีก 0-0 โดยทาง โทมัส ทูเคิล มีการเปลี่ยนตัวผู้รักษาประตู ส่ง เคปา ลงไปแทน เมนดี้ หวังให้ช่วยเซฟจุดโทษโดยเฉพาะ แต่สุดท้ายกลายเป็นคนที่ลงไปส่งถ้วยแชมป์ให้กับ ลิเวอร์พูล หลังดวลจุดโทษยิงเข้ากันหมดจนเหลือผู้รักษาประตูทั้งสองฝั่งต้องออกมายิง เคลเลเฮอร์ ยิงเข้าไปให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 11-10 แต่ เคปา ออกมายิงข้ามคาน เท่ากับว่า ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ คาราบาว คัพ หลังดวลจุดโทษ ชนะไป 11-10
โดยลำดับการยิงจุดโทษของ ทั้งสองทีมมีดังนี้ ลิเวอร์พูล ยิงก่อน ให้ เจมส์ มิลเนอร์ ประเดิมเป็นคนแรก จากนั้น สลับเป็นของทางเชลซี คือ อลอนโซ ต่อด้วย ฟาบินโญ่, ลูกากู, ฟาน ไดค์,ฮาแวร์ตซ, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เจมส์, ซาลาห์, จอร์จินโญ่, โชตา, รูดิเกอร์, โอริกี, ก็องเต้, โรเบิร์ตสัน, แวร์เนอร์, เอลเลียต, ซิลบา, โคนาเต้, ชาโลบาห์, เคลเลเฮอร์ และ เคปา
เปลว สีเงิน