กกท.บุกยิมมวยไทยที่ฮ่องกง มอบโล่รับรองมาตรฐาน พอใจมวยไทยเข้าถึงทุกวัยในฮ่องกง

รองผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย เข้าเยี่ยมยิมมวยไทยในฮ่องกง และร่วมพูดคุยถึงการเติบโตของกระแสมวยไทยในฮ่องกง พร้อมกับมอบโล่รับรองยิมมวยไทยที่ได้รับมาตรฐานจาก กกท. รับพึงพอใจกับกระแสมวยไทยในฐานะซอฟท์พาวเวอร์ ที่ทำให้คนทั่วโลกสนใจ  
 
27 มีนาคม พ.ศ. 2568 ที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกง นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย พร้อมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสากรรมด้านกีฬา เข้าเยี่ยมยิม Muay Thai Center ภายใต้การบริหารของ 2 อดีตนักมวยไทย ที่หันมาเปิดค่ายมวยที่ฮ่องกง นำโดย เทพฤทธิ์ ศรีจำพันธุ์ และเอเซีย ศรีจำพันธุ์ โดยมีหุ้นส่วนชาวฮ่องกง 1 ราย 
 
โดยนางโปรดปราน ได้เข้าเยี่ยมชม พร้อมกับพูดคุยกับ นายเทพฤทธิ์ ศรีจำพันธุ์ และเอเซีย ศรีจำพันธุ์ 2 ผู้ก่อตั้งประมาณ 1 ชั่วโมง พร้อมกับมอบและเซ็นชื่อป้ายรับรองยิมมวยไทย ที่ได้รับมาตรฐานจากการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ Standard Muay Thai Gym หรือ SMG ให้กับ Muay Thai Center เพื่อเป็นเกียรติและขวัญกำลังใจ ที่ช่วยทำค่ายมวยดี ๆ ช่วยเผยแพร่ศิลปะมวยไทยให้กับชาวฮ่องกงมาอย่างยาวนาน 
 
นางโปรดปราน กล่าวว่า เราวางแผนที่จะเดินทางไปเยี่ยมค่ายมวยไทยทั่วโลก พร้อมมอบการรับรอง และจัด Muay Thai Master Class 2025 อีกหลากประเทศทั่วโลกในปีนี้ โดยปีนี้เริ่มจากฮ่องกง ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการผลักดันมวยไทยในฐานะซอฟท์พาวเวอร์ ที่ได้รับการสานต่อมาตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อน มาถึงรัฐบาลยุค แพทองธาน ชินวัตร ในปัจจุบัน ปรากฏว่าการมาฮ่องกงครั้งนี้นับว่าประสบความสำเร็จมาก หลังจากได้พูดคุยกับทางยิม พบว่าคนฮ่องกงให้ความสนใจมวยไทยในฐานะกีฬาเพื่อสุขภาพ และเป็นศิลปะป้องกันตัวไปในตัวด้วยสูงมาก 
 
“ฮ่องกงเป็นประเทศหนึ่งที่เราก็ทราบกันอยู่ว่ามีบุคคลที่เรียนมวยไทยเยอะมาก ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 พวกด้วยกันที่เมื่อสักครู่ได้คุยกับทางค่ายก็คือเรื่องอยากจะเรียนมวยไทย เพื่อเป็นนักมวยอาชีพนี่ก็มีจำนวนหนึ่งแต่ก็ไม่ได้เยอะมาก” นางโปรดปราน กล่าวเริ่ม 
 
“การเรียนมวยไทยเพื่อการต่อสู้ป้องกันตัว เป็นที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าคนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ แต่ที่มากกว่านั้น คือการมองมวยไทยเป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์ หรือเรียนมวยไทยเพื่อการออกกําลังกาย และเพื่อสุขภาพ”
 
“เรารู้สึกตื่นเต้นยินดีที่สุดก็คือว่าคนที่มาเรียนที่นี่ส่วนมากเป็นผู้หญิง และจะเห็นนะคะว่ามีนักมวยไทยรุ่นใหม่ที่เป็นผู้หญิงเยอะด้วย ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่ากีฬามวยได้แทรกซึมเข้าไปในสู่ระบบของชีวิตประจําวันของคนทั่วโลกแล้วนอกจากคนไทยเองนะคะ จึงนับเป็นเรื่องที่น่ายินดี”
 
“สิ่งที่เราพึงพอใจที่สุด คือ การสร้างงานให้กับคนไทยให้กับครูมวย เพราะว่าครูมวยนับเป็นองค์ประกอบสําคัญอย่างหนึ่งของ วัฏจักรมวย นอกจาก นักมวย ครูมวย เจ้าของค่าย โปรโมเตอร์ ในส่วนของผู้ฝึกสอน ก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็นอาชีพที่รายได้สูงนัก แต่ครูมวยไทยทุกวันนี้ทำรายได้เดือนนึงหลักแสน อย่างกรณีของ เทพฤทธิ์ ศรีจำพันธุ์ และเอเซีย ศรีจำพันธุ์ เริ่มจากการมาเป็นครูสอนก่อน และเห็นโอกาสทางธุรกิจ จึงเปิดค่ายมวยด้วยตัวเอง ร่วมกับพาร์ทเนอร์ชาวฮ่องกง ก็ขอแสดงความยินดีกับน้อง ๆ ด้วย และคนที่ฮ่องกง แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการเรียนมวยไทยค่อนข้างสูง แต่ตกเฉลี่ย มีคนมาร่วมเรียนกัน 50 คนต่อวัน” 
 
“เรามาถูกทางแล้วกับการผลักดันให้มวยไทยเป็นซอฟท์พาวเวอร์ สิ่งที่เห็นได้ชัด คือ มูลค่าทางเศรษฐกิจ เรื่องการทํา ซอฟท์ เพาเวอร์ ไม่ใช่แค่เรื่องตัวเงินที่เข้าประเทศแล้วเห็นเป็น หมื่นล้าน พันล้าน ทันทีทันใด แต่มันเป็นวงรอบ เป็นสปอร์ตอินดัสทรี ที่ทุกคนได้ประโยชน์ในอุตสาหกรรม นอกจาก นักมวย ผู้ฝึกสอน หรือ คนที่เล่น มาชกมวย ต่อยมวย เพิ่มขึ้นแล้ว ธุรกิจที่เกี่ยวกับอุปกรณ์มวยไทย ก็ยิ่งขายได้ดีขึ้นด้วย” นางโปรดปราน กล่าวทิ้งท้าย 
 
นายเทพฤทธิ์ ผู้ก่อตั้งเล่าว่าก่อตั้งธุรกิจยิมที่ฮ่องกง มาร่วม 10 ปี และทำมาแล้ว 2 สาขา โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายมาเรียนเพื่อเป็นนักมวย แต่เพื่อเป็นกิจกรรมออกกำลังกาย และได้รับความนิยมสูงมากทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็ก ผู้หญิง ตลอดจนคนสูงวัย ก็มาออกกำลังกายด้วยการเรียนมวยไทย ซึ่งสมัยก่อนไม่ได้ยิมมวยไทยเยอะนัก แต่ปัจจุบันมีคนสนใจเรียน และเปิดยิมมวยไทยกันเยอะมาก 
 
“ประมาณ 16-17 ปีที่แล้ว ยิมมวย ไม่ค่อยเยอะนับนับได้ครับ แต่ปัจจุบันนี้ยิมมวยเยอะมาก เพราะว่ามันอยู่ได้เป็นหลักร้อยในฮ่องกง” นายเทพฤทธิ์ กล่าวเริ่ม   
 
คนที่มาส่วนใหญ่เป็นพวกพนักงานออฟฟิศมาออกกำลังกาย ที่มาไม่ได้เพื่อหวังขึ้นชกมวย เว้นแต่บางคนที่พอเรียนแล้วเขาอยากลองวิชา ก็ขอให้เราพาขึ้นชกได้ไหม เราก็จะหาคู่ชกที่เหมาะสมกันให้” 
 
ตอนนี้เรามี 2 สาขา แล้ว มีคนเข้าเรียนตกเฉลี่ยน 40 - 50 คนต่อวัน ซึ่งส่วนมากเป็นการซื้อแพ็คเกจระยะยาว 2 เดือน ซึ่งคนกลุ่มนี้ไม่ได้ซื้อทิ้งเฉย ๆ แต่เขามาเรียนกับเราจริง ๆ จัง ๆ ที่นี่ดีอย่าง เขาสนใจเรื่องการออกกำลังกาย ใส่ใจเรื่องของสุขภาพ ทำให้เขามาเรียนมวยเพื่อออกกำลังกาย ซึ่งเขาเห็นว่าเป็นกีฬาต่อสู้ ทำให้ร่างกายแข็งแรงป้องกันตัวได้ ขนาดอายุ 60-70 ปี ยังมีมาเรียนเลย เมืองไทยไม่มีหรอกครับ 60-70 มาเรียนมวย” นายเทพฤทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย 
 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กกท.สำรวจความพร้อม สนามแข่งขันทุกชนิดกีฬา ในอาเซียนพาราเกมส์ที่โคราช

วันที่ 26 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) นำทีมโดย นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬาพร้อมด้วย พลตรี โอสถ ภาวิไล ประธานสหพันธ์กีฬาคนพิการแห่งอาเซียน (เอพีเอสเอฟ), พ.อ.หญิง ดร.วันดี โตสุวรรณ เลขาธิการสหพันธ์กีฬาคนพิการแห่งอาเซียน, คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งประเทศไทย (THASOC), ผู้แทนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย, ผู้แทนสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย

'วงปี่พาทย์มวยไทย' เอกลักษณ์มวยไทย ที่เวทีราชดำเนินรักษาไว้

สนามมวยราชดำเนินซึ่งเป็นสังเวียนการชกที่มีอายุเก่าแก่มากที่สุดในโลกก้าวเข้าสู่ปีที่ 80 และภายใต้การบริหารของกรรมการราชดำเนินชุดใหม่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การเกิดขึ้นของศึก RWS – Rajadamnern World Series รวมไปถึงการชิงเข็มชัดแชมป์ราชดำเนินอย่าง RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT รวมไปถึงมีการจัดมวยไทยชกทุกวันในสัปดาห์ทำให้ตัวเลขผู้ชมเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด

กกท.และชลบุรี จัดกีฬาเยาวชนแห่งชาติ พร้อมยกระดับมาตรฐานสู่สากล

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 40 “ฉลามเยาวชลเกมส์” โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี, นายต้น ณ ระนอง ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายธรรมวรรธ  วงศ์เจริญยศ

'ช่อง8'จัดหนักอีเวนต์ยักษ์ 'THAI FIGHT นายขนมต้ม' พร้อม'มวยดีวิถีไทย'

เตรียมพบความเร้าใจ สัปดาห์อีเวนต์ยักษ์ THAI FIGHT นายขนมต้ม ที่แฟนมวยห้ามพลาด! เมื่อช่อง 8 ในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป จัดความมันมวยสุดสัปดาห์ ในวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม กับ 2 รายการดัง ได้แก่ รายการ มวยดีวิถีไทย เวลา 12.30 น. และรายการพิเศษ THAI FIGHT นายขนมต้ม เวลา 18.00 น. แฟนๆสามารถติดตามความสนุกดังนี้

'เอกลักษณ์มวยไทย' กับหัวใจที่ไม่หยุดนิ่ง ของเวทีมวยราชดำเนิน

สนามมวยราชดำเนินเฉลิมฉลองปีที่ 80 ปีของการก่อตั้งสนามด้วยการสร้างกระแสฮือฮาจากผู้ชมทั้งชาวไทยและต่างประเทศในการเปิดตัว Immersive Muay Thai เทคโนโลยีการฉายภาพเสมือนจริงบนโดมคอนกรีตเหนือเวทีสุดตระการตา เป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างความล้ำสมัยของระบบแสงสีเสียงกับโครงสร้างที่ผ่านเวลายาวนานมากว่าเจ็ดสิบปี เสมือนการผสมผสานประวัติศาสตร์แห่งความภาคภูมิใจเข้ากับความร่วมสมัยในปัจจุบัน เช่นเดียวกับหลายสิ่งหลายอย่างในสนามมวยแห่งนี้ ที่ยังคงเก็บรักษาอัตลักษณ์ของมวยไทยไว้อย่างเข้มข้นด้วยความภาคภูมิใจในความเป็นเวทีมวยไทยที่แท้จริง