หลังจากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจแยกทางกับ แดน แอชเวิร์ธ ในตำแหน่งผู้อำนวยการฟุตบอล ทั้งที่เข้ามาทำงานกับสโมสรได้แค่ 5 เดือนเท่านั้น ทำให้แฟนบอลหลายคนสงสัยว่าเป็นเพราะสาเหตุใดถึงได้ยุติการทำงานร่วมกันในระยะเวลาอันสั้น
ล่าสุดมีการเปิดเผยจาก แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์ สื่อท้องถิ่นเมืองแมนเชสเตอร์ ว่า หนึ่งในสาเหตุที่ “ปีศาจแดง” ตัดสินใจแยกทางกับ แดน แอชเวิร์ธ คือเป้าหมายการทำงานที่ดูจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงโดยเฉพาะในส่วนตัวของตัวกุนซือใหญ่
ตามการรายงานระบุว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การบริหารงานของ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ต้องการแยกทางกับ เอริก เทน ฮาก ทันทีเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลที่ผ่านมา แต่เป็น แดน แอชเวิร์ธ ที่เสนอให้เทรนเนอร์รายนี้ทำงานต่อ รวมถึงขยายสัญญาใหม่ออกไปอีก 1 ปีด้วย
สุดท้ายเมื่อผลงานไม่เป็นดั่งใจหวัง บอร์ดบริหารส่วนใหญ่มีมติให้ปลด เทน ฮาก ออกจากตำแหน่ง แต่ตัวของ แดน แอชเวิร์ธ เป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ต้องการให้ปลด และพร้อมจะซัพพอร์ตเฮดโค้ชชาวดัตช์รายนี้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า แดน แอชเวิร์ธ มุ่งมั่นที่จะเอา แกเร็ธ เซาธ์เกต อดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษ ที่มีความสนิทสนมกับตัวเองเป็นการส่วนตัว มากุมบังเหียน แมนฯ ยูไนเต็ด ถ้าหากมีการปลด เทน ฮาก เกิดขึ้น แต่ข้อเสนอดังกล่าวนั้นถูกยับยั้งเอาไว้โดย โอมาร์ แบร์ราดา ซีอีโอของสโมสร
แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์ สื่อท้องถิ่นเมืองแมนเชสเตอร์ ยังรายงานเพิ่มเติมอีกว่า แดน แอชเวิร์ธ ไม่เห็นด้วยที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ลงมือปฏิบัติการอย่างรวดเร็วในการคว้าตัว รูเบน อโมริม กุนซือชาวโปรตุเกส เข้ามาคุมทีมภายในไม่กี่วัน ก่อนที่จะเริ่มงานเมื่อเดือนที่แล้ว
โดย แอชเวิร์ธ คิดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ควรจะใช้กุนซือที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงแผนการเล่นของทีมจากหน้ามือเป็นหลังมือ ซึ่ง อโมริม เป็นเทรนเนอร์ที่ชื่นชอบในแท็คติกปราการหลัง 3 คน แต่ “ปีศาจแดง” ใช้แท็คติกเล่นกองหลัง 4 คนมาโดยตลอด
อย่างไรก็ดี ทาง โอมาร์ แบร์ราดา ซีอีโอของสโมสร มองว่า รูเบน อโมริม คือตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า และเชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้นเตรียมที่จะเดินหน้าไล่ล่าตัวกุนซือรายนี้ในช่วงซัมเมอร์หน้า จนทำให้พวกเขาตัดสินใจเด็ดขาดในการคว้าตัวกุนซือคนหนุ่มรายนี้มาร่วมทีมในระหว่างฤดูกาล