ระเบิดศึก "มวยไทย ซอฟต์ พาวเวอร์ เฟสติวัล 2024" ชิงถ้วยพระราชทาน "ในหลวง-ราชินี" วันที่ 3-5 ธ.ค. ที่ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม กรุงเทพฯ ร่วมจุดเทียนชัยรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาส "วันชาติ 5 ธันวาคม"
สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ, สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย ผนึกกำลังกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, สหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) และสหพันธ์มวยไทยแห่งเอเชีย (FAMA) ร่วมกันจัดการแข่งขันกีฬามวยไทยสมัครเล่น รายการ เทิดไท้องค์ราชันย์ "มวยไทย ซอฟต์พาวเวอร์ เฟสติวัล 2024" ชิงถ้วยพระราชทานฯ ที่ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 3-5 ธันวาคม 2567 ถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ T-Sport ตลอด 3 วัน แฟนหมัดมวย และผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมการแข่งขันได้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
"มวยไทย ซอฟต์ พาวเวอร์ เฟสติวัล 2024" เกิดขึ้นเนื่องจากกระแสการยอมรับ และศรัทธากีฬามวยไทยทั้งใน และต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง จึงได้ต่อยอดความสำเร็จการยกระดับมาตรฐานกีฬามวยไทยสู่การเป็นซอฟต์พาวเวอร์โลกตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อีกทั้งยังเป็นการยกระดับกีฬามวยไทย มรดกประจำประเทศไทยเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่เวทีแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ในอนาคต และการแข่งขันมวยไทยในระดับโลกรายการต่างๆ ต่อไป
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม มีพิธีเปิดการแข่งขันมหกรรมมวยไทยน้อมใจลำรึกองค์มหาราชา การแข่งขันมวยไทยนานาชาติชิงชนะเลิศ มวยไทย ซอฟต์ พาวเวอร์ เฟสติวัล 2024 อย่างเป็นทางการ โดยมี น.ส.วนิดา พันธ์สอาด รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน ท่ามกลางแฟนกีฬามวยไทย ทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าชมอย่างแน่นขนัดบริเวณริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จากนั้นเข้าสู่การแข่งขันมวยไทยสมัครเล่นรุ่นเยาวชน 10 คู่
น.ส.วนิดา กล่าวว่า รัฐบาลไทยและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีนโยบายในการส่งเสริมกีฬาชาติ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับมวยไทยอย่างมาก ตอนนี้มวยไทยกำลังอยู่บนเส้นทางสู่โอลิมปิกเกมส์ ซึ่งไม่ใช่แค่กีฬาแต่ยังเป็นการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยไปทั่วโลกอีกด้วย
น.ส.วนิดา กล่าวปิดท้ายว่า ตอนนี้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ให้การรับรองมวยไทย สามารถบรรจุในโอลิมปิเกมส์ได้ ถือว่าเป็นความหวังของคนไทยที่จะได้เผยแพร่มวยไทยไปทั่วโลก ให้เห็นการต่อสู่ที่สวยงาม ซึ่งการจัดงานครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการเตรียมความพร้อม เตรียมนักกีฬา ให้พร้อมสำหรับโอลิมปิกเกมส์ ที่เป็นเป้าหมายสุดท้ายของมวยไทย
สำหรับโปรแกรมวันที่ 4 ธันวาคม จะเริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น. - 21.00 น. ประกอบด้วย การแสดงคีตะมวยไทย, การแสดงกระบี่กระบอง, การแสดงฟันดาบ, การแสดงศิลปะพื้นบ้าน 4 ภาค และการแสดงมวยไทยโบราณ จากนั้นเวลา 18.00 น. จะเริ่มเข้าสู่การแข่งขันมวยไทยสมัครเล่น รุ่นประชาชน จำนวน 10 คู่
ไฮไลต์จะอยู่ที่วันที่ 5 ธันวาคม จะมี "บิ๊กบอย" นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานพิธีเปิดงานมหกรรมมวยไทยน้อมใจลำรึกองค์มหาราชา การแข่งขันมวยไทยนานาชาติชิงชนะเลิศ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถ่ายทอดสดทาง T-Sport เริ่มต้นด้วยการแสดงชุด MUAYTHAI SOFT POWER FESTIVAL 2024, วงโยธวาทิตบรรเลงเพลงกราวกีฬา, ขบวนธง, ประธานในพิธีเปิดกรวยกระทงดอกไม้, กล่าวถวายราชสดุดี, บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงสดุดีมหาราชา ภายในงานแฟนกีฬามวยไทยยังจะได้พบกับการเดินแฟชั่นโชว์มวยไทยของ 3 นักมวยชื่อดัง เขาทราย กาแลคซี่, แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม และซุปเปอร์บอน อีกด้วย
จากนั้นเข้าสู่พิธีเปิดการแข่งขันมวยไทย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี เข้าสู่พิธีการจุดเทียนรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในหลวง รัชกาลที่ 9 และร่วมร้องเพลงรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 (พระราชาผู้ทรงธรรม) ปิดท้ายด้วยการแข่งขันมวยไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ จำนวน 11 คู่ และพิธีน้อมรับถ้วยพระราชทานฯ
สำหรับการแข่งขันมวยไทย วันแรก เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ประเภทเยาวชน สรุปผลดังนี้ รุ่นน้ำหนัก 30 กก.ชาย ไกรวิทย์ ฆังมณี นักชกมุมน้ำเงินจากนครศรีธรรมราช ใช้ช่วงที่ยาวและชั้นเชิงที่เหนือกว่า ไล่ชกเอาชนะ รัชชานนท์ คงธรรม มุมแดงจากกทม.ไปได้ 30-27 เสียง รับรางวัลพิเศษจาก ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ
คู่อื่นๆ รุ่น 32 กก.ชาย อิริฟาน ศรพิชัย (สุราษฎร์ธานี) ชนะคะแนน ไกรวิชญ์ โตม่วง (นครสวรรค์) 30-27, รุ่น 36 กก.ชาย ทักษ์ดนัย บัวทอง (สุราษฎร์ธานี) ชนะคะแนน ณัฐพล ทรงอ้วน (นครสวรรค์) 29-28, รุ่น 40 กก.ชาย วรกร บุญพัฒน์ (พังงา) ชนะคะแนน พลวัฒน์ สายน้ำทิพย์ (นครสวรรค์) 30-27, รุ่น 42 กก.หญิง ขวัญพิชชา ฉินโน (นครสวรรค์) ชนะคะแนน หริกานต์ แสงทอง (สุราษฎร์ธานี) 29-28
รุ่น 42 กก.ชาย เมธาสิทธิ์ สงวนศิลป์ (กทม.) ชนะน็อกยกสอง อัครพงษ์ เอี่ยมภักดี (ชุมพร), รุ่น 45 กก.หญิง สุนิสา อนามนารถ (กทม.) ชนะน็อกยกแรก ญาใจ คงนาค (ชุมพร), รุ่น 48 กก.หญิง วิสาขา ปิทะราช (กทม.) ชนะคะแนน กมลรัตน์ มีพริ้ง (สุราษฎร์ธานี) 30-27, รุ่น 51 กก.หญิง โสทิตา สิทธิชัย (กทม.) ชนะคะแนน ทักษิกา กาญจนะ (สุราษฎร์ธานี) 30-27 และรุ่น 60 กก.ชาย คเชนทร์ ตุลารักษ์ (กทม.) ชนะคะแนน เจ้าพระยา สมหล้า (สงขลา) 30-27