'อองตวน' แจงผ่านแถลงการณ์บริษัท ไม่มีเจตนาโกงเงิน 'โจ' หลังเกิดดราม่า

หลังจากที่บริษัท UPR Vision Entertainment ที่ดูแลโดย อองตวน ปินโต มีประเด็นดราม่ากับ โจ ณัฐวุฒิ นักชกชื่อดังวัย 35 ปี โดยฝ่ายหลังออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุที่ตัดสินใจยกเลิกสัญญากับบริษัทดังกล่าว เป็นเพราะไม่มีความตรงไปตรงมาในเรื่องของเงิน และค่าตัวในการออกงาน

ล่าสุด UPR Vision Entertainment ออกหนังสือแถลงการณ์ใน 2 ประเด็น โดยประเด็นที่ 2 เป็นเรื่องค่าตัวการออกงานน้องควาย "โก้ เมืองเพชร" ที่พ่อเลี้ยงเจ เป็นผู้จ้างให้ โจ ณัฐวุฒิ รวมถึงผู้มีชื่อเสียงรายอื่นๆ ไปถ่ายแบบเสื้อ และทำกิจกรรมต่างๆ

ซึ่งทาง โจ ณัฐวุฒิ มีการเปิดเผยว่า ได้รับเงินค่าตัวจากงานดังกล่าวแค่ 50,000 บาท แต่มาทราบจากผู้ว่าจ้างภายหลังว่าจ่ายเงินไปให้กับ UPR Vision Entertainment เป็นจำนวนถึง 200,000 บาท เพื่อจ้างนักชกรายนี้มาร่วมงาน

โดยบริษัทดังกล่าวออกแถลงการณ์ใจความว่า การออกงานน้องควายของ โจ ณัฐวุฒิ นั้น ไม่ได้มีการทำสัญญากับตัวนักชกรายนี้โดยตรง แต่เป็นการทำสัญญากับผู้ว่าจ้าง (เจ้าของงาน) และบริษัท UPR Vision โดยเฉพาะ

สาเหตุที่เงินจำนวน 200,000 บาท จากผู้ว่าจ้าง กลับตกถึงมือของ โจ ณัฐวุฒิ เพียงแค่ 50,000 บาท เป็นเพราะว่าต้องหักเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆ เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น และตามมาตรฐานที่ตั้งไว้

อย่างไรก็ตามเงินส่วนต่างดังกล่าวนั้นหลังจากที่มีประเด็นดราม่า ทาง UPR Vision Entertainment ได้ติดต่อชำระส่วนต่างกับ โจ ณัฐวุฒิ ครบถ้วนสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อย

นอกจากนี้ UPR Vision Entertainment ยืนยันในความโปร่งใส และพร้อมให้ทาง โจ ณัฐวุฒิ เข้ามาตรวจสอบเอกสารทางการเงินได้ทุกเมื่อ พร้อมทั้งแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมา ณ ที่นี้

ขณะเดียวกัน อองตวน ปินโต พิธีกรเเละอดีตนักมวยชื่อดังออกมาเเจงดราม่าที่มีปัญหากรณีเซ็นสัญญาขายเสื้อกับ "โจ ณัฐวุฒิ" เเต่ถูกฝ่ายหลังออกมาเเฉว่ามีเรื่องไม่ชอบมาพากลจนยกเลิกสัญญา

ก่อนหน้านี้โจออกมาพูดผ่ายรายการพ่อเลี้ยงเจโดยบอกว่า ได้ทำสัญญาขายเสื้อกับ UPR Vision ตอนเเรกตกลงกันเรียบร้อยว่าจะต้องส่งรายละเอียดภายในวันที่ 5 ของทุกเดือนเเต่กลับไมาเป็นตามข้อตกลง ทุกอย่างเงียบหาย มีติดต่อมาเเค่ครั้งเดียว จึงตัดสินใจยกเลิกสัญญา

ล่าสุด UPR Vision บริษัทที่มีอองตวนเป็นกรรมการบริหารออกมาชี้เเจงเรื่องนี้โดยระบุว่า

1.เกิดข้อผิดพลาดในการนับสต็อกสินค้าเเละการส่งข้อมูลไปให้โจ ทำให้โจได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บริษัทได้ทำการตรวจสอบเเก้ไขเเละเชิญโจมาให้ตรวจด้วยตัวเอง เเต่โจปฏิเสธเเละเลือกโพสต์ข้อมูลลงในสื่อออนไลน์เอง

2.ทนายของบริษัทติดต่อไปยังทนายโจ เเต่ทนายโจไม่สามารถสื่อสารได้เข้าใจ ทำให้มีปัญหาในการเเเก้ไข

3.บริษัทได้เชิญโจเเละทนายมาร่วมกันตรวจสอบสต็อกเสื้อด้วยตัวเอง เเต่ทางโจไม่ได้ให้การตอบรับหรือเข้ามาเจรจาเเละดำเนินการเปิดเผยข้อมูลต่อไป

4.บริษัทขอดำเนินการยืนยันว่าจ่ายเงินในโปรเจคนี้ครบถ้วนเรียบร้อยเเล้ว