
การเเข่งขันแบดมินตัน หญิงคู่ โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่สนามอาดิดาส อารีน่า ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส วันอังคารที่ 30 กรกฏาคมที่ผ่านมา เป็นเกมที่ 2 ในรอบเเบ่งกลุ่ม ตัดสินการเข้ารอบ
“กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มืออันดับ 10 ของโลก ที่เเมตช์ที่เเล้วพลาดเเพ้คู่จากเดนมาร์ก โดยเเมตช์นี้ต้องเจอกับ เบ็ก ฮานา กับ ลี โซฮี คู่มืออันดับ 3 ของโลกจากเกาหลีใต้ ที่เกมนี้คู่ของไทยต้องชนะเท่านั้น จึงจะได้เข้ารอบ
ผลปรากฏว่าคู่สาวไทยแพ้เกาหลีใต้ 2 เกมรวด 21-9 เเละ 21-12 คู่ไทยตกรอบเเละเป็นนักตบคู่เเรกของไทยที่ต้องกลับบ้านด้วย
“กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ หญิงคู่มือ 10 ของโลก เผยร่วมกัน หลังเกมที่พ่ายคู่มือ 2 ของโลก จากเกาหลีใต้ ไป 0-2 เกม ทำให้จบรอบแบ่งกลุ่ม ด้วยผลงานชนะ 1 แพ้ 2 ไม่เพียงพอต่อการผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ว่า
“จริงๆเราทั้งคู่ทำพลาดกันเอง ที่แพ้คู่ของเดนมาร์กในนัดก่อน และไม่ควรต้องมาลุ้นเข้ารอบในเกมนี้ที่ต้องเจอกับคู่แข่งที่แข็งแกร่งมากๆ และเป็นมือ 2 ของโลก
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า การถูกจัดโปรแกรมให้ต้องลงเล่นในช่วงดึกวานก่อน รวมถึงต้องใช้พลังในแมตช์ดังกล่าวเยอะ โดยต้องเล่นเกือบ 1 ชั่วโมงครึ่ง มีผลกับการเล่นในเกมสำคัญนัดนี้หรือไม่ จงกลพรรณ ได้ตอบว่า “จริงๆแล้วทั้งสองเรื่องไม่มีผลกับเราทั้งสองคน เพราะที่ผ่านมามีการเวลาเตรียมตัว และฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี ซึ่งก็ถือว่ามากพอสมควรในการทำร่างกายให้พร้อมสำหรับการมาแข่งครั้งนี้ ส่วนเรื่องที่เป็นปัญหาคิดว่าคงเป็นเรื่องสภาพจิตใจมากกว่า ซึ่งเรายังควบคุมสภาพจิตใจได้ไม่ดีพอ ซึ่งนี่ก็น่าจะเป็นโอลิมปิกเกมส์ครั้งสุดท้ายของเราทั้งคู่ด้วย
จงกลพรรณ กล่าวอีกว่า “จริงๆตามสายที่ประกบออกมา เรามีลุ้นเข้ารอบกับฝรั่งเศส และเดนมาร์ก ในส่วนของเกาหลีใต้ ที่เป็นคู่มือ 2 ของโลก ก็เป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะ ที่มองไว้ก็คือลุ้นเข้ารอบด้วยการชนะฝรั่งเศส และเดนมาร์กให้ได้ แต่พอแข่งจริงที่เราเจอคู่ของเดนมาร์ก ที่เราชนะมาตลอดก็จริง แต่ในทัวร์นาเมนต์นี้เราทำไม่ได้ ต้องยอมรับว่าเวลานี้แบดมินตันทั้งทางยุโรปและเอเชียพัฒนา และมีเกมการแข่งขันที่ค่อนข้างสูสี แพ้ชนะกันได้ ซึ่งจากสายที่ออกมาตอนแรก เราก็วางแผนว่าจะต้องเอาชนะ 2 คู่จากยุโรปให้ได้ แต่เราก็ควบคุมและทำได้ไม่ดีไม่ดีพอ บางอย่างเราไม่สามารถควบคุมได้ และเหมือนเราฝึกเรื่องสภาพจิตใจมาได้ไม่ดีพอ และเมื่อแพ้คู่เดนมาร์ก มันก็ส่งผลและบีบบังคับให้เราอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ที่ต้องเอาชนะคู่เกาหลีใต้ ซึ่งเราทำไม่ได้ และต้องรับว่าเราเองยังไม่แข็งแกร่งพอ“
“จริงๆหากเทียบกับในโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่แล้ว สาย แข่งขันรอบก่อนค่อนข้างหนัก เป็นกรุ๊ปออฟเดธเลยก็ว่าได้ ครั้งนี้เรามีโอกาสที่ดีแล้ว แต่เราคว้าโอกาสเอาไว้ไม่ได้ เป็นเรื่องที่เราทำผิดพลาดกันเอง และเป็นเรื่องที่เราทำกันได้ไม่ดีพอเอง“
ด้าน รวินดา เผยว่า “จริงๆแล้วรูปเกมในวันนี้ เกาหลีใต้แทบจะไม่ได้ทำอะไรเราเลย แต่เป็นเราที่เวลามีช็อตแรลลี่ที่ต้องตีกันนานๆมาเสียและพลาดกันเองซะส่วนใหญ่ เป็นเราที่ตีแป็บเดียวเสีย ตีแป็บเดียวเสีย แต้มเลยค่อนข้างขาดทั้งสองเกม ส่วนเป้าหมายหลังจากนี้เราเองยังไม่ได้คุยกัน เพราะก่อนมาก็ตั้งใจว่าจะโฟกัสเต็มที่ให้กับโอลิมปิกเกมส์รอบนี้ ดังนั้นกลับไปเดี๋ยวคงจะต้องคุยกันอีกที ส่วนโปรแกรมแข่งขันหลังจากนี้ จะมีไปแข่งขันศึกเจแปน โอเพ่น 2024 ที่ญี่ปุ่น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พลาธิป–ศศิราวรรณ' นำทีม6กรีฑาไทยซ้อมหนัก ล่าเหรียญอาเซียนพาราเกมส์ที่โคราช
“แพท” พลาธิป คำทา นักวิ่งคลาส T63 และ “อุ้ม” ศศิราวรรณ อินทโชติ นักวิ่งหญิงคลาส T47 2 นักกีฬาที่เคยผ่านเวทีพาราลิมปิกเกมส์ ที่ปารีส เป็นแกนหลักของทีม นำ 6 ทัพกรีฑาพาราประเภทลู่ ลงฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 จังหวัดนครราชสีมา โดยมี “โค้ชนก” พนม พุดชา คุมทีมก่อนลุยศึกอาเซียนพาราเกมส์ 2025 ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 20–26 มกราคม 2569
กีฬาต่อสู้MMA คัดตัวสู้ศึกใหญ่ปี2569 ทั้งเอเชียนเกมส์-อินดอร์เกมส์
สมาคมกีฬามิกซ์มาเชียลอาร์ตแห่งประเทศไทย โดย ดร.ศิริเชษฐ์ พูลทิพายานนท์ นายกสมาคม ได้จัดการแข่งขันคัดเลือกตัวนักกีฬาเพื่อเข้าร่วมศึกเอเชียนเกมส์ที่เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น และ เอเชียนอินดอร์มาเชียลอาร์ตเกมส์ ที่ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นมาการกีฬาใหญ่ในปี 2569 โดยการคัดเลือกดีขึ้นที่ T-1อคาเดมี่ ตะวันนา 2 เมื่อวันเสาร์ที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา
กกท.พอใจปี2568 กีฬาสร้างมูลค่าเศรษฐกิจ4หมื่นล้าน ปีหน้าผลักดัน'เวิลด์คลาสอีเวนต์'
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. พอใจภาพรวมวงการกีฬาปี 2568 สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 40,000 ล้านบาท ขณะที่อีเวนต์กีฬาระดับโลกยังช่วยสร้างเงินหมุนเวียนต่อยอดไปยังอุตสาหกรรมกีฬาด้วย พร้อมเดินหน้าปี 2569 ผลักดันเวิลด์คลาสอีเวนต์ รวมทั้งสนับสนุนอุตสาหกรรมกีฬาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ต่อไป

