โหมโรงศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2024" ที่เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง สเปน พบ อังกฤษ ในคืนวันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคมนี้ เวลา 02.00น. (เช้าตรู่ 15 ก.ค.) ตามเวลาประเทศไทย
ก่อนจะไปถึงวันนั้น เราจะพาไปเทียบผู้เล่นในแต่ละตำแหน่งที่ต้องดวลกันในเกมนัดชิงฯ ที่กำลังมาถึง ทั้ง "กระทิงดุ" และ "สิงโตคำราม" จะมีใครเป็น "คีย์เพลเยอร์" กันบ้าง
- โรดรี vs เบลลิงแฮม และโฟเดน
ถือเป็น 2 ผู้เล่นที่มีความสำคัญต่อเกมเป็นอย่างยิ่ง และน่าจะเป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุดในการดวลกันระหว่าง สเปน กับ อังกฤษ ซึ่งหากทีมใดสามารถคุมเกมแดนกลางได้ดีกว่า ก็น่าจะมีชัยไปกว่าครึ่ง
เซาธ์เกต กุนซือสิงโตคำราม เริ่มจะค้นพบวิธีที่ทำให้ ฟิล โฟเดน และจู๊ด เบลลิงแฮม ประสานงานกันได้อย่างลงตัวมากขึ้นเรื่อยๆ สังเกตได้จากเกมล่าสุดที่พบ เนเธอร์แลนด์ส ทั้งสองคนถือว่าโชว์ฟอร์มได้ดี เพียงแต่ไม่สามารถทำสกอร์ได้
ขณะที่ โรดรี กลายเป็นกำลังสำคัญของทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี และสเปน ซึ่งว่ากันว่าหาเขาพา "กระทิงดุ" คว้าแชมป์ยูโร 2024 ได้ อาจถูกเสนอชื่อให้เป็นตัวเต็งลุ้นรางวัลบัลลงดอร์ประจำปีนี้ก็เป็นได้
ทั้ง โฟเดน และโรดรี ต่างรู้ทางกันดี เพราะฝึกซ้อมร่วมกับกับทีม "เรือใบสีฟ้า" ซึ่งนั่นอาจเป็นประโยชน์กับ เซาธ์เกต ที่อาจจะพอรู้จุดอ่อนของมิดฟิลด์แดนกระทิงดุรายนี้เพื่อหาวิธีกำจัดเขาออกจากเกม
- ยามาล vs ชอว์
ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มคงไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า ลามีน ยามาล เด็กหนุ่มวัยย่าง 17 ปี จะโชว์ฟอร์มได้ดีขนาดนี้ ประกาศศักดาในการก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์เต็มตัวด้วยลูกยิงสุดสวยใส่ ฝรั่งเศส รอบ 4 ทีมสุดท้าย สร้างประวัติศาสตร์อายุน้อยสุดที่ซัดประตูได้ในทัวร์นาเมนต์ยูโร
ยามาล ทำแอสซิสต์ไป 3 ครั้ง และสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนไป 13 ครั้ง ในยูโร 2024 สร้างความหายนะให้กับเหล่าฟูลแบ็คของทุกชาติที่ต้องเผชิญหน้ากับเขาทุกคนในการทำเกมทางฝั่งขวา ในขณะที่ฝั่งซ้าย สเปน ก็ยังมีนิโก วิลเลียมส์ อีกราย
ก่อนหน้านี้เหมือนว่า คีแรน ทริปเปียร์ จะลงมาประจำการทางฝั่งซ้าย แต่เมื่อ ลุค ชอว์ ฟิตกลับมาลงสนามได้ เขาน่าจะได้รับโอกาสลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศ และการต้องดวลกับเจ้าหนูยามาล คือภารกิจหลักที่เขาต้องหยุดให้ได้
ในฐานะแบ็คซ้ายธรรมชาติเพียงหนึ่งเดียวของอังกฤษในทัวร์นาเมนต์นี้ รอบชิงชนะเลิศ ลุค ชอว์ คงจะได้ออกสตาร์ทเป็น 11 คนแรกแน่นอน โดยย้อนกลับไปในนัดชิงฯ ยูโร 2020 เขาสามารถทำประตูใส่ อิตาลี ได้ แม้สุดท้ายทีมจะปราชัยก็ตาม
- โอลโม่ vs ไรซ์
อีกหนึ่งตำแหน่งสำคัญที่น่าจะต้องดวลกันอย่างแน่นอน คือมิดฟิลด์ตัวรุกของ สเปน อย่าง ดานี โอลโม่ กับ ดีแคลน ไรซ์ กองกลางตัวรับของอังกฤษ ซึ่งต้องเผชิญหน้ากันโดยตรงหากอิงจากตำแหน่งของทั้งคู่
ดีแคลน ไรซ์ ลงเล่นให้อังกฤษครบทุกนาทีในทัวร์นาเมนต์นี้ และวิ่งมากกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ ในทีม รวมแล้วเป็นระยะทาง 74.91 กิโลเมตร สัมผัสบอลไปมากกว่า 300 ครั้ง จ่ายบอลสำเร็จ 236 ครั้ง จ่ายบอลทะลุแนวรับคู่แข่งนำไปสู่การยิงประตูได้ 7 ครั้ง แถมแย่งบอลคู่แข่งสำเร็จ 41 ครั้ง เรียกได้ว่าเป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุดของสิงโตคำรามก็ว่าได้
ด้าน ดานี โอลโม่ ได้รับโอกาสลงเล่นเป็น 11 คนแรกของ สเปน ในช่วงหลัง ซึ่งทัวร์นาเมนต์นี้เขาทำไป 2 แอสซิสต์ และมีส่วนกับประตูชัยในเกมพบ ฝรั่งเศส รอบ 4 ทีมสุดท้าย ที่เขาล็อกหลบแนวรับคู่แข่งอย่างเยือกเย็นในกรอบเขตโทษ ก่อนซัดเต็มข้อโดน ฌูลส์ คุนเด สกัดเข้าประตูตัวเอง
ทั้งนี้เมื่อ เปดรี ได้รับบาดเจ็บ โอลโม่ ก็ได้รับโอกาสลงเล่นแทนทันทีซึ่งเจ้าตัวก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมาก ซึ่งก็แน่นอนว่าด้วยผลงานอันโดดเด่นก็ทำให้เพลย์เมคเกอร์วัย 26 ปีรายนี้ ตกอยู่ในความสนใจของหลายบิ๊กทีมในยุโรป
- ลาปอร์ต vs เคน
อายเมริก ลาปอร์ต กลายเป็นปราการหลังตัวหลักของทีมชาติสเปนหลายๆรายการในช่วงหลัง ด้วยผลงานนามทีมชาติที่คงเส้นคงวาเป็นอย่างยิ่ง และทีม "กระทิงดุ" ก็ยังไม่มีตัวตายตัวแทนที่จะก้าวขึ้นมาในตำแหน่งนี้แทนที่ของเขา แม้ปัจจุบันเจ้าตัวจะย้ายไปเล่นอยู่กับ อัล-นาสเซอร์ ของซาอุดิอาระเบีย
ภารกิจหลักของเขาคือการต้องดวลกับ แฮร์รี เคน หัวหอกตัวเก่งทีมชาติอังกฤษ ที่ถึงแม้เกมล่าสุดเขาจะบาดเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออก แต่คาดว่านัดชิงฯ เคน จะคัมแบ็คกลับมาลงสนามได้อย่างไม่มีปัญหา
ทัวร์นาเมนต์นี้ เคน ยิงไปแล้ว 3 ประตู รั้งตำแหน่งดาวซัลโวร่วมกับผู้เล่นอีก 5 คน ซึ่งมีแค่เขา และดานี โอลโม่ ของสเปน ที่ยังลุ้นตำแหน่งดาวซัลโวได้จนถึงนัดชิงฯ ถึงแม้ในรอบที่ผ่านมาเขาอาจไม่ได้มีฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นอะไรมากนัก แต่ "กระทิงดุ" ห้ามประมาทเขาเด็ดขาด เพราะเจ้าตัวขอแค่เพียงโอกาสไม่กี่ครั้งก็สามารถผลิตสกอร์ให้ อังกฤษ ได้