ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2024" คืนวันอังคารที่ 25 มิถุนายน เป็นการแข่งขันนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม เกมที่น่าสนใจในกลุ่ม ซี ขวัญใจมหาชน ทีมชาติอังกฤษ ลงสนามพบกับ สโลวีเนีย เวลา 02.00น. ถ่ายทอดสดทางช่องพีพีทีวี เอชดี หมายเลข 36 ถ่ายทอดสด และทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล 4
- ผลงาน 5 นัดหลังสุด
อังกฤษ
20/06/24 เสมอ เดนมาร์ก 1-1 (สนามกลาง) ยูโร 2024
16/06/24 ชนะ เซอร์เบีย 1-0 (สนามกลาง) ยูโร 2024
07/06/24 แพ้ ไอซ์แลนด์ 0-1 (เหย้า) กระชับมิตร
03/06/24 ชนะ บอสเนีย 3-0 (เหย้า) กระชับมิตร
26/03/24 เสมอ เบลเยียม 2-2 (เหย้า) กระชับมิตร
สโลวีเนีย
20/06/24 เสมอ เซอร์เบีย 1-1 (สนามกลาง) ยูโร 2024
16/06/24 เสมอ เดนมาร์ก 1-1 (สนามกลาง) ยูโร 2024
08/06/24 เสมอ บัลแกเรีย 1-1 (เหย้า) กระชับมิตร
04/06/24 ชนะ อาร์เมเนีย 2-1 (เหย้า) กระชับมิตร
27/03/24 ชนะ โปรตุเกส 2-0 (เหย้า) กระชับมิตร
- สภาพความพร้อมของทั้งสองทีม
อังกฤษ ของกุนซือแกเร็ธ เซาธ์เกต ต้องเล่นภายใต้ความกดดันมหาศาล หลังถูกจับให้เป็นทีมเต็งหนึ่งก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มแล้ว ผลงานใน 2 เกมแรกก็ไม่ถูกใจแฟนบอลเท่าไหร่นัก ทั้งการเฉือน เซอร์เบีย 1-0 ด้วยรูปเกมที่ไม่ได้เป็นต่อคู่แข่งเท่าไหร่ ขณะที่เกมที่แล้วทำได้แค่เสมอ เดนมาร์ก ทำให้ต้องมาลุ้นเข้ารอบจนถึงนัดสุดท้าย
สภาพทีมไม่สามารถใช้งาน ลุค ชอว์ แบ็คซ้ายที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ ส่วนนักเตะคนอื่นๆ พร้อมเป็นตัวเลือกลงสนามทุกคน อยู่ที่ว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต จะมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นบ้างหรือไม่ เพราะ 2 นัดที่ผ่านมาใช้นักเตะชุดเดียวกันหมด
โดยเฉพาะ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่โชว์ผลงานไม่ดีเท่าไหร่นักเมื่อถูกจับมาเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ร่วมกับ ดีแคลน ไรซ์ ซึ่งเขาถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามทั้ง 2 นัด ถ้าเกมนี้ถูกดร็อปอาจเป็น คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ที่ได้ออกสตาร์ทแทน ส่วน ค็อบบี เมนู และโคล พาลเมอร์ 2 แข้งที่ฟอร์มดีในลีก ต้องรอโอกาสลงสนามต่อไป
ทางฝั่ง สโลวีเนีย ภายใต้การคุมทีมของ แมตจาซ เค็ก ถือว่าโชว์ฟอร์มได้ดีเกินความคาดหมาย เมื่อสามารถแบ่งแต้มทั้ง เซอร์เบีย และเดนมาร์ก ด้วยสกอร์ 1-1 ทั้งสองนัดแบบสุดเซอร์ไพรส์ ทั้งที่ถูกมองว่าเป็นรองค่อนข้างเยอะ
พวกเขาต้องเก็บผลเสมอให้ได้เป็นอย่างน้อย และต้องไปลุ้นผลการแข่งขันของอีกหนึ่งคู่ หรือถ้าสามารถเก็บชัยเหนือ อังกฤษ ได้ ก็จะการันตีผ่านเข้ารอบน็อกเอาท์ทันที เกมนี้ยังคงนำทัพมาโดย เบนจามิน เซสโก หัวหอกตัวเก่ง ที่จะจับคู่แดนหน้าร่วมกับ แอนดราซ สปอราร์ ส่วน แยน โอบลัค นายทวารจาก แอตฯ มาดริด ยืนเฝ้าเสา โดยมี ติมี เอลส์นิค กับ อดัม จีเนซดา คุมแดนกลาง
อังกฤษ เคยดวลกับ สโลวีเนีย มาแล้ว 6 นัด นับตั้งแต่ปี 2009 เป็น "สิงโตคำราม" ที่เก็บชัยไปได้ถึง 5 นัด เสมอ 1 นัด สโลวีเนีย ไม่เคยเอาชนะ อังกฤษ ได้เลย
- รายชื่อ 11 ตัวจริง ที่คาดว่าจะลงสนาม
อังกฤษ : จอร์แดน พิคฟอร์ด (GK) - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, มาร์ค เกฮี, คีแรน ทริปเปียร์, ดีแคลน ไรซ์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, บูกาโย ซากา, จู๊ด เบลลิงแฮม, ฟิล โฟเดน, แฮร์รี เคน
สโลวีเนีย : แยน โอบลัก (GK) - แซน คาร์นิชนิค, วานยา เดอร์คูซิช, ยาคา บิโยล, เอริค แยนซา, เปตาร์ สโตจาโนวิช, อดัม เซริน, ติมี เอลซ์นิค, ยาน มลาคาร์, อันดราซ สปอราร์, เบนจามิน เซสโก้
- สกอร์ที่คาด
อังกฤษ เหนือกว่าทุกอย่างทั้งตัวผู้เล่น และสถิติการเจอกัน จุดอ่อนของพวกเขากลับอยู่ที่ตัวกุนซือ อย่าง แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่มักถูกวิจารณ์ถึงแท็คติกที่ไม่ค่อยถูกใจแฟนบอลเสียเท่าไหร่ แต่ดูแล้ว "สิงโตคำราม" เหนือกว่า สโลวีเนีย เยอะ น่าจะเก็บชัยไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 เข้ารอบน็อกเอาท์ในฐานะแชมป์กลุ่มต่อไป
ส่วนการแข่งขันในอีก 1 คู่ในกลุ่มเดียวกัน เซอร์เบีย พบ เดนมาร์ก คู่นี้จะเป็นการแย่งกันเข้ารอบโดยตรง ต่างฝ่ายต่างต้องเก็บชัยชนะด้วยกันทั้งสองทีม ดูแล้ว เดนมาร์ก ดูดีกว่าเล็กน้อย แต่อาจกินแนวรับของ เซอร์เบีย ไม่ได้ คาด เสมอ 1-1
โปรแกรมการแข่งขันอีก 2 คู่
กลุ่ม ดี : เนเธอร์แลนด์ พบ ออสเตรเลีย เวลา 23.00น. ถ่ายทอดสด ไทยรัฐ ทีวี หมายเลข 32
กลุ่ม ดี : ฝรั่งเศส พบ โปแลนด์ เวลา 23.00น. ถ่ายทอดสด พีพีทีวี เอชดี หมายเลข 36