บิ๊กแมตช์ประจำศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2024" อีกหนึ่งเกมในรอบแบ่งกลุ่ม เป็นการแข่งขันในกลุ่ม ดี "อัศวินสีส้ม" เนเธอร์แลนด์ส พบกับ "ตราไก่" ฝรั่งเศส ซึ่งหากใครเก็บชัยชนะในนัดนี้ได้ก็จะการันตีผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ทันที แข่งขันคืนวันนี้ วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน เวลา 02.00น. ตามเวลาประเทศไทย MCOT 9 และทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล 3 ถ่ายทอดสด
- ผลงาน 5 นัดหลังสุด
เนเธอร์แลนด์
16/06/24 พบ โปแลนด์ (สนามกลาง) ยูโร 2024
07/06/24 ชนะ แคนาดา 4-0 (เหย้า) กระชับมิตร
27/03/24 แพ้ เยอรมนี 2-1 (เยือน) กระชับมิตร
23/03/24 ชนะ สกอตแลนด์ 4-0 (เหย้า) กระชับมิตร
22/11/23 ชนะ ยิบรอลตาร์ 6-0 (เยือน) ยูโร 2024 รอบคัดเลือก
ฝรั่งเศส
16/06/24 พบ ออสเตรีย (สนามกลาง) ยูโร 2024
10/06/24 เสมอ แคนาดา 0-0 (เหย้า) กระชับมิตร
06/06/24 ชนะ ลักเซมเบิร์ก (เหย้า) กระชับมิตร
27/03/24 ชนะ ชิลี 3-2 (เหย้า) กระชับมิตร
24/03/24 แพ้ เยอรมนี 0-2 (เหย้า) กระชับมิตร
- สภาพความพร้อมของทั้งสองทีม
เนเธอร์แลนด์ส ของกุนซือ โรนัลด์ คูมัน เอาชนะ โปแลนด์ 2-1 ในเกมแรกอย่างหืดจับ เพราะกว่าจะได้ประตูชัยต้องรอถึงช่วงท้ายเกมจากตัวสำรอง เวาท์ เวกฮอร์สต์ แต่ก็ถือเป็นสามแต้มอันล้ำค่าเพื่อขวัญกำลังใจก่อนที่จะต้องมาเจอกับคู่แข่งด่านหิน อย่าง ฝรั่งเศส
เกมนี้ "อัศวินสีส้ม" ไม่มีปัญหาผู้เล่นได้รับบาดเจ็บ หรือติดโทษแบนเพิ่มเติม ตัวหลักในทีมชุดนี้พร้อมเป็นตัวเลือกลงสนาม คาดว่า คูมัน อาจมีการปรับเปลี่ยนแผงเกมรุกด้วยการดร็อป ชาบี ซิมอนส์ ที่ในเกมแรกโชว์ฟอร์มไม่ค่อยออกไว้เป็นตัวสำรอง และส่ง ดอนเยลล์ มาเลน ลงเป็น 11 คนแรก
ส่วน โคดี กักโป กับ เมมฟิส เดปาย น่าจะยังได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงตามเดิม ส่วนแผงกลางก็น่าจะต้องปรับทัพเพราะในเกมแรกผลงานไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โดย จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม อาจได้ลงเล่นแทนเจอร์ดี เชาเทน ด้านเกมรับจะยังใช้บริการ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กับ สเตเฟาน เดอ ฟรีจ์ ตามเดิม
ขณะที่ ฝรั่งเศส ภายใต้การคุมทีมของ ดิดิเยร์ เดส์ช็องส์ เกมแรกถือว่าหืดจับพอกันเพราะเฉือนชนะ ออสเตรีย 1-0 ในรูปเกมที่ไม่ได้เป็นต่อคู่แข่งเท่าไหร่นัก แถมครองบอลได้น้อยกว่าเล็กน้อยด้วย
เกมนี้พวกเขาต้องรอเช็กอาการบาดเจ็บจมูกหักของ คีเลียน เอ็มบัปเป ซูเปอร์สตาร์ตัวเก่งอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งถ้าฝืนลงสนามได้เราอาจได้เห็นเจ้าตัวสวมหน้ากากลงเล่น หรืออาจจะถูกจับพักไปก่อน เช่นเดียวกับ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ หัวหอกจอมเก๋าที่ได้รับบาดเจ็บ
ส่วนผู้เล่นคนอื่นๆ ไม่มีปัญหา พร้อมเป็นตัวเลือกลงสนาม อุสมาน เด็มเบเล่ กับ มาร์คุส ตูราม จะได้ออกสตาร์ท 11 ตัวจริง เช่นเดียวกับ อองตวน กรีซมันน์ และหาก เอ็มบัปเป ยังลงไม่ได้ แรนดัล โคโล มูอานี อาจลงแทน โดยแผงกลาง เอ็นโกโล ก็องเต ประสานงานกับ เอดูอาร์โด คามาวิงกา
สถิติการเจอกัน 5 นัดหลังสุด ฝรั่งเศส เหนือกว่าค่อนข้างเยอะ สามารถเก็บชัยไปได้ถึง 4 นัด โดยเฉพาะยูโรรอบคัดเลือก 2 นัดเหย้า-เยือน เมื่อปีก่อน "ตราไก่" เก็บชัยชนะได้ทั้งหมด
- รายชื่อ 11 ตัวจริง ที่คาดว่าจะลงสนาม
เนเธอร์แลนด์ส : บาร์ต แวร์บรูกเกน (GK), เดนเซล ดุมฟรีส์, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, สเตฟาน เดอ ฟรีจ์, นาธาน อาเก, ไทจานี รินจ์เดอร์, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, โจอี เวียร์แมน, โคดี กักโป, ดอนเยลล์ มาเลน, เมมฟิส เดปาย
ฝรั่งเศส : ไมค์ เมญอง (GK), ชูลส์ คุนเด, ดาโยต์ อูปาเมกาโน, วิลเลียม ซาลิบา, เธโอ เอร์น็องเดซ, เอ็นโกโล ก็องเต, เอดูอาร์โด คามาวิงกา, อองตวน กรีซมันน์, มาร์คุส ตูราม, อุสมาน เด็มเบเล, คีเลียน เอ็มบัปเป
- สกอร์ที่คาด
ถือเป็นอีกหนึ่งบิ๊กแมตช์ที่ต้องโคจรมาพบกันตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม แต่เมื่อเทียบขุมกำลังและศักยภาพ ณ เวลานี้ ก็ต้องยอมรับว่า ฝรั่งเศส เหนือกว่าพอสมควร เนื่องด้วย เนเธอร์แลนด์ส แผงกลางไม่เต็มสูบ ไม่มี เฟรงกี เดอ ยอง อาจสู้ได้ยาก ดูแล้ว "ตราไก่" มีดีพอเฉือนชนะ 2-1
ส่วนการแข่งขันในอีก 2 คู่
กลุ่ม อี
สโลวาเกีย - ยูเครน เวลา 20.00น. (พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 ยิงสด)
กลุ่ม ดี
โปแลนด์ - ออสเตรีย เวลา 23.00น. (ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ยิงสด)
