กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ (NSDF) เปิดโต๊ะถกปัญหากับผู้แทนสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ กกท. หาทางออกช่วยสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ ที่ยื่นขอรับการสนับสนุนเงินเพิ่มเติม อีก 22 ล้านบาท เพื่อชดเชยส่วนต่างที่สมาคมชำระเอง ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันยกน้ำหนัก เวิลด์คัพ 2024 แมตช์ควอลิฟายโอลิมปิก ที่ภูเก็ต เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ดร.สุปราณี ผู้จัดการกองทุนฯ รับเรื่อง ยันหากข้อมูลและเอกสารครบ พร้อมช่วยเต็มที่ในการผลักดันเพื่อให้บอร์ดกองทุนฯพิจารณาจ่ายเพิ่มในส่วนที่สมาคมต้องชำระไปก่อน
ผู้แทนจากสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย นำโดย พลอากาศโท วัฒนชัย เจริญรัตน์ ประธานฝ่ายเทคนิค พร้อมด้วย นาวาเอก เพชรเกษม รตาภรณ์ รองเลขาธิการสมาคม และนางสาว ปัทมา ลำเต็ม เหรัญญิกสมาคม นำเอกสารและรายละเอียดขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมและขอเบิกค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันยกน้ำหนักเวิลด์คัพ 2024 เมื่อ 29 มีนาคม - 12 เมษายน ที่ผ่านมา ยื่นขอรับการพิจารณาเพิ่มเติมกับกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ชั้น 3
โดยมี ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ รวมถึงผู้แทนจากฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ กกท. ร่วมพูดคุยถึงประเด็นปัญหาและหาทางช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยมีผู้แทนฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ รับเรื่องเพื่อดำเนินการพิจารณารายการต่างๆ เมื่อเรียบร้อยแล้ว จะส่งรายละเอียดแต่ละรายการทั้งหมด ให้คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เพื่อผ่านขั้นตอนการพิจารณาต่อไป
ในการหารือพูดคุยกันในครั้งนี้ เป็นไปอย่างราบรื่น โดยผู้แทนจากทั้ง 3 ฝ่ายต่างหยิบประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในการทำงานมาพูดคุยกันเพื่อหาทางแก้ไข โดยในส่วนของสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้ร้อง ได้นำเอกสารเข้าชี้แจ้งเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมและขอเบิกค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันยกน้ำหนักเวิลด์คัพ 2024 ซึ่งถือเป็นรายการควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ 2024 สนามสุดท้าย ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เมื่อ 29 มีนาคม - 12 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา รายการแข่งขันดังกล่าว สมาคมได้รับการพิจารณางบประมาณสนับสนุนการจัดแข่งขัน 40,000,000 บาท แต่ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการจัดการแข่ง อาทิ การจัดซื้ออุปกรณ์แข่งขัน และค่าลิขสิทธิ์การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน สมาคมจึงทำเรื่องขอรับการสนับสนุนงบประมาณส่วนต่างเพิ่มเป็นจำนวนเงิน 22,951,000 บาท ซึ่งเมื่อรวมเป็นเงินทั้งหมด อยู่ที่ 62,951,000 บาท
ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เผยว่า กองทุนฯ มีงบประมาณจำนวน 4,200 ล้านบาท มากน้อยก็ขึ้นอยู่กับการเก็บภาษีแต่ละปี ซึ่งกองทุนฯ ไม่ได้รับเงินเป็นก้อนใหญ่ก้อนเดียว แต่จะได้รับเป็นรายเดือน และด้วยความที่สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยในตอนนี้มีมากกว่า 90 สมาคม บวกกับพันธกิจต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น ก็ต้องบอกว่าเป็นภาระที่หนัก งบประมาณที่ขอเข้ามามีมากกว่าเงินที่กองทุนฯมีอยู่ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะบริหารจัดการให้ลงตัวแบบ 100 เปอร์เซ็นต์
ส่วนขั้นตอนในการขอรับการสนับสนุนทางฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ กกท. เป็นผู้รับเอกสารโครงการต่างๆ จากสมาคมมาเพื่อพิจารณาคัดกรองปรับแก้ตัวเลขงบ ก่อนส่งมายังผู้จัดการกองทุนฯ เพื่อเข้าคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ซึ่งถ้ารวมๆ จากที่กลั่นกรองออกมาแล้ว หากงบประมาณไม่ได้มากกว่าที่กองทุนฯ มีอยู่ ทางอนุกรรมการกลั่นกรอง รวมถึงบอร์ดกองทุนฯ ก็จะอนุมัติให้ตามคำขอจากที่ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศส่งเรื่องมา
"โอกาสนี้ทางกองทุนฯ ได้เชิญทั้งผู้ร้อง ก็คือสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ และผู้พิจารณาในการของบ อย่าง ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ เข้ามาพูดคุยเพื่อปรับค่าใช้จ่ายเพิ่มในหลากหลายด้านที่มีการร้องเข้ามา ซึ่งการพูดคุยครั้งนี้ราบรื่น ทั้งสมาคม รวมถึงฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศมีความเข้าใจตรงกัน และทั้งสองฝ่ายต้องกลับไปปรับแก้เรื่องของรายละเอียดต่างๆ ที่จะมีการขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนเพิ่มเข้ามาเสนอกองทุนฯ อีกรอบหนึ่ง เพื่อจะได้เอาเรื่องนี้ไปเข้าคณะกรรมการบริหารกองทุนฯขอความเห็นชอบอีกรอบหนึ่ง เชื่อว่า
ภายในอาทิตย์หรือสองอาทิตย์น่าจะส่งเรื่องมายังกองทุนฯได้ ซึ่งเมื่อเรื่องมาถึงกองทุนฯ ก็จะมีการนำเสนอเข้าบอร์ดกองทุนฯ พิจารณาในเดือน มิ.ย.ต่อไป"
ดร.สุปราณี เผยทิ้งท้ายด้วยว่า สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ ถือเป็นสมาคมเกรดเอทั้งในเรื่องของผลงาน และการบริหารจัดการ ซึ่งต้องชื่นชมผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ สต๊าฟโค้ช และนักกีฬาตัวแทนทีมชาติทุกคน ที่ต่างก็มุ่งมั่นทำหน้าที่ของตัวเองตลอดมา จนสร้างความสำเร็จให้กับประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ในส่วนกองทุนฯ ก็ยังขอยืนยันว่าพร้อมที่จะส่งเสริมและสนับสนุนสมาคมยกน้ำหนักฯให้สร้างผลงานและความสำเร็จในระดับนานาชาติต่อไป และก็อยากแจ้งไปถึงสมาคมไหนที่เกิดปัญหาหรือมีข้อติดขัดในเรื่องของงบประมาณการสนับสนุน กองทุนฯ ยินดีที่ร่วมพูดคุยและชี้แจง เพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน เพื่อให้วงการกีฬาเดินต่อไปข้างหน้าได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มวยไทยปิดฉาก คว้า2ทอง3เงิน 'เวิลด์คอมแบทเกมส์2023'ที่ซาอุฯ
นักมวยไทยคว้า 2 เหรียญทองจาก "หญิง" นิราวรรณ ตังจิว ย้ำชัยเหนือ รุดซ์ม่า อาบูบาการ์ คู่ปรับเก่าจากฟิลิปปินส์ อีกเหรียญได้จากไหว้ครูมวยไทย วีลแชร์ ประเภทผสม ปิดฉากศึกกีฬาต่อสู้โลก "เวิลด์คอมแบทเกมส์ ริยาด 2023" ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ด้านทัพนักกีฬาต่อสู้ไทยทำผลงานคว้ารวมได้ทั้งหมด 4 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง จบอันดับ 15 จากทั้งหมด 79 ชาติ ถือเป็นอันดับ 7 เอเชีย และอันดับ 1 อาเซียน
'ส.มวยอาชีพ-กกท.-กองทุน' ทำหลักสูตร'มวยไทย 9 ขั้น' ยกระดับเผยแพร่สู่นานาชาติ
“ส.มวยอาชีพ” จับมือ “กกท.-กองทุนฯ” จัดอบรม Work Shop รวมถึงผลิต และเผยแพร่หลักสูตร “มวยไทย 9 ขั้น” ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ "รองน้อย" นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการ กกท. เชื่อช่วยยกระดับมาตรฐานให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล พร้อมสร้างแรงบันดาลใจยุวชนเยาวชนสนใจมวยไทยมากขึ้น เพื่อพัฒนาสู่กีฬาอาชีพอย่างเป็นระบบ และเพิ่มบุคลากรวงการมวยไทยให้มี “One Standard Muaythai” มาตรฐานเป็นหนึ่งเดียว และนำไปเผยแพร่สู่นานาชาติต่อไป