สิงคโปร์เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกอล์ฟ “อีเอฟจี ไชน่า เลดีส์ โปรเฟสชันแนล กอล์ฟเฟอร์ส คิว ซีรีส์” 4 รายการ ประเดิมทัวร์นาเมนท์แรกในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยมีธนาคาร อีเอฟจี แบงก์ เอจี เป็นผู้สนับสนุนหลักรายใหม่ ร่วมกับ LLD Sports ผู้ดำเนินการจัดการแข่งขัน เพื่อพัฒนาเวทีการแข่งขันกอล์ฟอาชีพหญิงระดับแนวหน้าของจีน ซึ่งผลิตโปรกอล์ฟฝีมือดีสู่เวทีระดับโลกอย่าง หยิน รัวหนิง ที่ก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์เมเจอร์และครองมือหนึ่งโลกเมื่อปีที่แล้ว
สำหรับ อีเอฟจี ไชน่า เลดีส์ โปรเฟสชันแนล กอล์ฟเฟอร์ส (EFG China Ladies Professional Golfers หรือ CLPG) คิว ซีรีส์ เป็นการจัดการแข่งขันนอกประเทศจีนเป็นครั้งแรก โดยรายการแรกจะมีขึ้น ณ สนามลากูน่า เนชันแนล กอล์ฟ รีสอร์ท คลับ ระหว่างวันที่ 27-28 พฤษภาคมนี้ ซึ่งสนามแห่งนี้จะเป็นสนามแข่งขันศึกไชน่า แอลพีจีเอทัวร์ รายการ สิงคโปร์ เลดีส์ มาสเตอร์ส ในเดือนมิถุนายนด้วยเช่นกัน ส่วนกำหนดวันแข่งขันไชน่า แอลพีจี คิว ซีรีส์ ในสิงคโปร์อีก 3 สนามจะมีการประกาศแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป
สำหรับ อีเอฟจี แบงก์ เอจี ให้การสนับสนุนกีฬากอล์ฟในภูมิภาคนี้มายาวนาน โดยเป็นผู้สนับสนุน ซอค วี โกะ โปรกอล์ฟสาวชาวสิงคโปร์ และนักกอล์ฟดาวรุ่งของสิงคโปร์ผ่านโครงการต่างๆ ของทีมชาติ นอกจากนี้ยังเป็นผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขันระดับอาชีพและระดับสมัครเล่นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อีกหลายรายการ รวมถึงรายการ อีเอฟจี สิงคโปร์ จูเนียร์ มาสเตอร์ส และอีเอฟจี ฮ่องกง โอเพ่น
ส่วนในฮ่องกง อีเอฟจีให้การสนับสนุน ทิฟฟานี ชาน ตั้งแต่ระดับเยาวชนผ่านโครงการ EFG Young Athletes Foundation จนถึงปัจจุบัน ชาน กลายเป็นนักกอล์ฟฮ่องกงคนแรกที่ผ่านเข้าไปเล่นในแอลพีจีเอทัวร์
อัลเบิร์ต ซิว ประธานกรรมการบริหารธนาคารอีเอฟจี ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เผยว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ LLD Sports นำการแข่งขัน อีเอฟจี ไชน่า แอลพีจี คิว ซีรีส์ มาจัดที่สิงคโปร์ได้สำเร็จ ความร่วมมือครั้งนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการสนับสนุนการพัฒนากีฬากอล์ฟหญิง ไม่เฉพาะแค่ในสิงคโปร์เท่านั้น แต่รวมถึงการพัฒนากีฬากอล์ฟหญิงทั่วทั้งภูมิภาคนี้ อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการเพิ่มเวทีการแข่งขันกอล์ฟในภูมิภาคและเสริมสร้างศักยภาพนักกีฬาเพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุด เราเชื่อมั่นว่าการแข่งขัน อีเอฟจี ไชน่า แอลพีจี คิว สิงคโปร์ ซีรีส์ จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกอล์ฟรุ่นใหม่และยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาและการเจริญเติบโตของกีฬากอล์ฟโดยรวมในภูมิภาคนี้ด้วย”
ทั้งนี้การแข่งขันไชน่า แอลพีจี คิว ซีรีส์ เริ่มจัดครั้งแรกในปี 2020 เป็นเวทีรอบคัดเลือกสู่ ไชน่า แอลพีจีเอ ทัวร์ โดยเทียบได้กับเอปสัน ทัวร์ ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งให้สิทธิ์นักกอล์ฟที่ทำผลงานในท็อปเท็นผ่านเข้าไปเล่นในแอลพีจีเอ ทัวร์
สำหรับการแข่งขันไชน่าแอลพีจี คิว ซีรีส์ ในสิงคโปร์ แต่ละรายการมีเงินรางวัล 10,000 เหรียญสหรัฐ แบ่งตามลำดับสำหรับนักกอล์ฟที่ทำผลงานจบในท็อป 10 หรือเสมอ นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้นักกอล์ฟสมัครเล่นชายร่วมแข่งขันอีกด้วย ขณะเดียวกันการแข่งขันกอล์ฟไชน่า แอลพีจีเอ คิว ซีรีส์ สนามแรกที่สิงคโปร์ ยังถูกจัดให้เป็นรายการรอบคัดเลือกเพื่อคว้าสิทธิร่วมชิงชัยในศึก สิงคโปร์ เลดีส์ มาสเตอร์ส ในเดือนถัดไป โดยมีนักกอล์ฟร่วมชิงชัย 72 คน แข่งขันสองวันรวม 54 หลุม ซึ่งนักกอล์ฟจะต้องลงเล่น 36 หลุมในวันแรก และผู้ที่ทำผลงานในท็อป 50 จะผ่านเข้าไปเล่นรอบที่สามซึ่งเป็นรอบสุดท้าย
หลิน โย่ว ผู้ก่อตั้ง LLD Sports เชื่อว่าการนำ ไชน่า แอลพีจี คิว ซีรีส์ มาจัดที่สิงคโปร์ รวมถึงการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการสิงคโปร์ เลดีส์ มาสเตอร์ส ปีที่ 2 ในเดือนมิถุนายน จะช่วยพัฒนาและยกระดับกีฬากอล์ฟในสิงคโปร์ โดยกล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า "ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับอีเอฟจี โดยเฉพาะกับ อัลเบิร์ต ซิว เพราะเราทั้งคู่ชื่นชอบกีฬาและมีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการพัฒนากีฬากอล์ฟและสร้างแชมป์ในสิงคโปร์ การจัดหาแพลตฟอร์มสำหรับนักกอล์ฟรุ่นใหม่ที่มีความมุ่งมั่น คือเป้าหมายที่ฉันอยากทำมาโดยตลอด เพื่อเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงฝีมือและยังได้รับประสบการณ์อันล้ำค่า”
"การแข่งขัน อีเอฟจี ซีแอลพีจี คิว สิงคโปร์ ซีรีส์ เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นักกอล์ฟสมัครเล่นชั้นนำของสิงคโปร์ได้แข่งขันกับผู้เล่นระดับแถวหน้าจากจีนและในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งช่วยส่งเสริมการพัฒนาและการเติบโตของพวกเขาในเกมกีฬากอล์ฟ ขณะเดียวกันจะมีการสตรีมมิ่งการแข่งขันผ่านแอปพลิเคชั่น CLPGQ Series ซึ่งโค้ชระดับมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา สามารถติดตามผลงานของนักกอล์ฟ และมีโอกาสได้รับคัดเลือกเข้าไปเรียนและเล่นกอล์ฟในระดับมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ซึ่งมีนักกอล์ฟจากจีนหลายคนได้รับข้อเสนอหลังจากเข้าร่วมแข่งขันในไชน่า แอลพีจี คิว ซีรีส์ ดังนั้นนักกอล์ฟเยาวชนระดับแถวหน้าของเราอย่าง ทรอย สตอร์ม, บรูซ คว่อง, แพชชั่น ซู และซิดนีย์ อึง ต่างก็มุ่งมั่นที่จะแสดงความสามารถและสร้างผลงานที่น่าประทับใจ เพื่อคว้าโอกาสสำคัญ” หลิน โย่ว กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พีจีเอทัวร์'กับสถิติน่าใจ ในเดือนตุลาคม 'เอชาวาร์เรีย'แชมป์ที่ญี่ปุ่น
“เอชาวาร์เรีย” คว้าแชมป์ที่ญี่ปุ่น การเปลี่ยนกริพพัตเตอร์และการจับไม้พัตเตอร์ใหม่สร้างความแตกต่างให้กับ นิโก้ เอชาวาร์เรีย อย่างเห็นได้ชัด เมื่อโปรกอล์ฟหนุ่มวัย 30 ปีจากโคลัมเบีย ผงาดครองแชมป์โซโซ แชมเปี้ยนชิพ ที่ประเทศญี่ปุ่นในการลงเล่นครั้งแรก โดยทำเบอร์ดี้หลุมสุดท้าย ในหลุม 18 พาร์ 5 เฉือนชนะ จัสติน โธมัส ดีกรีสองแชมป์เมเจอร์ และแม็กซ์ เกรย์เซอร์แมน ที่จับคู่กับเขาคว้าอันดับ 4 ร่วมในการแข่งขันแบบทีมรายการซูริก คลาสสิค ออฟ นิวออร์ลีน เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ศึก'อินเตอร์ฯ ซีรีส์ แรงกิ้ง' ดุเดือด เพื่อสิทธิลุย 'ลิฟ กอล์ฟ โปรโมชันส์'
การชิงชัยอันดับในตารางคะแนนสะสมอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ แรงกิ้ง เพิ่มความเข้มข้นยิ่งขึ้น เมื่อมีการประกาศยืนยันให้สิทธิ์นักกอล์ฟที่ทำผลงานใน 32 อันดับแรก เข้าร่วมแข่งขันในศึกลิฟ กอล์ฟ โปรโมชันส์ ปีที่สอง ณ สนามริยาด กอล์ฟ คลับ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อลุ้นตั๋วเข้าไปเล่นในลิฟ กอล์ฟ ลีก ฤดูกาลหน้า
'อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์' บริจาคเงินให้มูลนิธิอรุณเจิดจรัส เพื่อเด็กไทยที่ด้อยโอกาส
ฝ่ายจัดการแข่งขันกอล์ฟอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ร่วมบริจาคเงินสมทบทุนให้กับมูลนิธิอรุณเจิดจรัส (Bright Dawn Foundation) จำนวน 25,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 827,000 บาท เป็นครั้งที่สาม เพื่อสนับสนุนภารกิจของมูลนิธิในการการพัฒนาชีวิตเด็กไทยในครอบครัวที่มีรายได้น้อยในชนบทของอำเภอหัวหิน ด้วยการสนับสนุนบริการด้านการดูแลสุขภาพ และการสนับสนุนด้านการศึกษาแก่โรงเรียนประถมจำนวน 5 แห่งในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยการบริจาคดังกล่าวมีขึ้นระหว่างการแข่งขันกอล์ฟอินเตอร์เนชันแนล ซีส์ ไทยแลนด์ ณ สนามไทยคันทรีคลับ จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
กลับมาอีกครั้ง 'สิงห์โอเพ่นจูเนียร์' ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เก่าแก่สุดของไทย
การแข่งขันกอล์ฟรายการ “สิงห์โอเพ่นจูเนียร์” เป็นการแข่งขันกอล์ฟประเภททีมที่ยาวนานที่สุดของประเทศไทย เริ่มจัดการแข่งขันครั้งแรกตั้งแต่ปีพ.ศ. 2505 โดย บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ร่วมมือกับ สโมสรกอล์ฟหลวงหัวหิน จัดการแข่งขันกอล์ฟประเพณีระบบ STABLEFORD โอเพ่นจูเนียร์ ประเภททีมชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ต่อเนื่องติดต่อกันทุกปีจนถึงปัจจุบันเป็นครั้งที่ 61
'เชห์-โป'พลิกคว้าแชมป์ 'อินเตอร์ฯ ซีรีส์ ไทยแลนด์' โปรไทยดีสุดอันดับ12ร่วม
ลี เชห์-โป นักกอล์ฟจากไต้หวัน พัตต์เบอร์ดี้จากระยะ 15 ฟุตที่หลุมสุดท้าย จบเกมด้วยสกอร์ 7 อันเดอร์พาร์ 63 รวม 21 อันเดอร์พาร์ 259 เฉือน ปีเตอร์ ยูไลน์ ดาวดังจากลิฟกอล์ฟชาวอเมริกัน เพียงสโตรคเดียว คว้าแชมป์อินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ ที่สนามไทยคันทรีคลับ จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ด้านกัญจน์ เจริญกุล, แดนไท บุญมา, อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ และ รฐนน วรรณศรีจันทร์ เป็นโปรไทยผลงานดีสุดจบอันดับ 12 ร่วมสกอร์รวม 15 อันเดอร์พาร์ 265
'ยูไลน์'ทิ้ง3สโตรค ลุ้นแชมป์'อินเตอร์ฯ ซีรีส์ ไทยแลนด์' ส่วน'เด่นวิทย์'ที่7ร่วม
ปีเตอร์ ยูไลน์ ผู้เล่นจากลิฟกอล์ฟลีกชาวอเมริกัน จบรอบสามด้วยสกอร์รวม 17 อันเดอร์พาร์ 193 โดยมีกลุ่มผู้เล่นอันดับอันดับสองร่วมอย่าง มาเวอริค แอนท์คลิฟฟ์ จากออสเตรเลีย, อาห์เม็ด บาอิค จากปากีสถาน, เรย์ฮาน โธมัส จากอินเดีย, ชาร์ลี ลินด์ จากสวีเดน, ลี ไช่-โป จากไต้หวัน ตามหลังสามสโตรค ในการแข่งขัน อินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ ที่สนามไทยคันทรีคลับ พาร์ 70 จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ เด่นวิทย์ บริบูรณ์ทรัพย์ เป็นโปรไทยผลงานดีสุดที่สกอร์ 13 อันเดอร์พาร์ 197 อยู่อันดับ 7 ร่วม