'เชลซี' ต้องหาเงินเข้าคลัง 110 ล้านปอนด์ สุ่มเสี่ยงผิดกฎการเงิน อาจโดนตัดคะแนน

เชลซี ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ต้องเดินหน้าหาเงินเข้าสโมสรราว 110 ล้านปอนด์ ก่อนในช่วงวันที่ 30 มิถุนายนนี้ มิเช่นนั้นจะเสี่ยงผิดกฎการเงิน “ไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์”

ก่อนหน้านี้ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ และเอฟเวอร์ตัน โดนตัดแต้มกันไปแล้ว จนอันดับร่วงมาอยู๋โซนตกชั้น โดย “เจ้าป่า” โดนตัดไป 4 แต้ม ขณะที่ “ท็อฟฟี่” เดิมทีโดนตัดไป 10 แต่ยื่นอุทธรณ์ผ่าน เหลือตัด 6 คะแนน แต่ยังไม่ปลอดภัยจากเรดโซน

ล่าสุด สเตฟาน บอร์สัน อดีตที่ปรึกษาด้านการเงินของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี ให้สัมภาษณ์ผ่าน ทอล์คสปอร์ต ว่า “สิงห์บลูส์” ภายใต้การบริหารงานของ ท็อดด์ โบห์ลี มหาเศรษฐีชาวอเมริกา ต้องหาเงินเข้าสโมสรให้ได้ 110 ล้านปอนด์ หากไม่อยากถูกตัดแต้มเหมือน 2 ทีมดังกล่าว

“มันอาจจะรุนแรงกว่านี้ ผมคิดว่าขนาดทีมของพวกเขาใหญ่ แน่นอนว่าความสูญเสียในตอนนี้ที่ผมคาดการณ์ดูจะหนักกว่าทั้ง เอฟเวอร์ตัน และ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ มาก” บอร์สัน เริ่มกล่าว

“ช่วงที่ผ่านมามีข้อสันนิษฐานในเคสของ เมสัน เมาท์ เพราะเขาประกาศทางเว็บไซด์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันที่ 1 กรกฏาคม (เรื่องการขาย) ถูกใส่เอาไว้ในฤดูกาลนี้”

“ดังนั้นกำไร 55 ล้านปอนด์ที่ได้จากการขายนักเตะจึงเกิดขึ้นในซีซั่นนี้ ตอนนี้ปรากฏว่าอย่างชัดเจนว่า เมสัน เมาท์ ถูกซื้อขายในฤดูกาล 2022/23 ซึ่งนั่นคือสิ่งที่พวกเขาเจอ”

“เรายังไม่รู้จากบัญชีของ เชลซี ว่าปัจจุบันงบดุลของพวกเขามีกำไรประมาณ 48 ล้านปอนด์ในปีนี้หรือไม่ แต่ก็แน่นอนว่าปีนี้จากมุมมองของการดำเนินงาน มันจะต้องแย่กว่าปีที่แล้วเพราะพวกเขาไม่ได้เล่น ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ไม่มีบอลยุโรป” อดีตที่ปรึกษาทางการเงินของ แมนฯ ซิตี ทิ้งท้าย

ทั้งนี้มีรายงานว่า เชลซี จะต้องหาเงินเข้าสโมสรให้ได้อย่างน้อยราว 110 ล้านปอนด์ เพื่อทำให้งบดุลในบัญชีเป็นสีเขียวภายใน 30 มิถุนายน หรือซัมเมอร์นี้ มิเช่นนั้นในฤดูกาลหน้าพวกเขาอาจถูกตัดมากกว่า 10 แต้ม