'อดัม สกอตต์'หวังคว้าแชมป์ 'เดอะเพลเยอร์ส'อีกครั้ง หลังได้เมื่อ20ปีก่อน

อดัม สกอตต์ โปรกอล์ฟหนุ่มจากออสเตรเลีย (ภาพ Getty-Images)

ย้อนกลับไปเมื่อยี่สิบปีก่อน อดัม สกอตต์ โปรกอล์ฟหนุ่มจากออสเตรเลีย ประกาศศักดาแจ้งเกิดบนเวทีกอล์ฟโลกอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนท์ใหญ่ของพีจีเอทัวร์ในศึก เดอะ เพลเยอร์ส แชมเปี้ยนชิพ ที่สนามทีพีซี ซอว์กราส ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา

ปีนี้การแข่งขันกอล์ฟ เดอะ เพลเยอร์ส แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งเป็นหนึ่งในรายการชิกเนเจอร์ อีเวนท์ ที่มีเงินรางวัลมากที่สุด  25 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 890 ล้านบาท ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษจากนักกอล์ฟที่เข้าร่วมชิงชัย รวมถึงแฟนๆ และสื่อมวลชนทั่วโลก เพราะเป็นโอกาสพิเศษฉลองครบรอบ 50 ปีของการแข่งขัน

โดยก่อนเริ่มการแข่งขันในปีนี้ อดัม สกอตต์ ได้แชร์ประสบการณ์พาย้อนวันวานผ่าน Player Blog เล่าถึงการคว้าชัยชนะอันโด่งดังที่สนามทีพีซี ซอว์กราส รวมถึงแชมป์ 14 รายการในเวทีพีจีเอทัวร์ของเขา พร้อมตั้งเป้าคว้าแชมป์ เดอะ เพลเยอร์ส แชมเปี้ยนชิพ ทัวร์นาเมนท์ ซึ่งเปรียบเสมือนเมเจอร์ที่ 5 ของนักกอล์ฟชาย มาครองให้ได้อีกครั้งในสัปดาห์นี้

อดัม สกอตต์ เผยว่า “ผมคิดว่าการแข่งขัน เดอะ เพลเยอร์ส แชมเปี้ยนชิพ เป็นรายการที่นักกอล์ฟทุกคนอยากชนะ โดยเฉพาะเมื่อมีการพูดถึงเกมการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมและแชมป์เมเจอร์ ก็มักจะนับรวมเดอะ เพลเยอร์ส แชมเปี้ยนชิพ เข้ามาอยู่ในระดับเดียวกับแชมป์รายการเมเจอร์ การที่ผมได้แชมป์เดอะ เพลเยอร์ส ในช่วงแรกๆ ของการเป็นนักกอล์ฟอาชีพในปี 2004 เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก ขณะที่สนามทีพีซี ซอว์กราส ก็เป็นสนามที่ยอดเยี่ยมและเปิดกว้างสำหรับผู้เล่นทุกคนที่ลงแข่ง และทุกครั้งแชมป์จะตกเป็นของผู้เล่นที่ดีที่สุดเสมอ ผมมีความทรงจำที่ดีมากๆ ในรายการนี้ และสนุกกับการแข่งขันที่ทีพีซี ซอว์กราส มันคงเป็นเรื่องที่วิเศษมากหากผมคว้าแชมป์อีกครั้งใน 20 ปีต่อมา

สำหรับผม รายการนี้เปรียบเสมือนรายการเมเจอร์ และได้รับการยอมรับจากทั่วโลก  การได้กลับมายังสนามทีพีซี ซอว์กราส ทุกปี เป็นเรื่องที่ดีมาก และหลุมที่ 17 พาร์ 3 เป็นกรีนเกาะกลางน้ำอันเลื่องชื่อในเกมกอล์ฟ ที่สร้างสีสันและเรื่องราวดราม่ามากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมคิดว่าการที่มีผู้เล่นนานาชาติมาคว้าแชมป์ที่นี่หลายคน ทำให้การแข่งขันรายการมีความหมายพิเศษในเวทีกอล์ฟโลก และเป็นหนึ่งในสนามที่ผมชื่นชอบ

นับตั้งแต่ผมคว้าแชมป์ เดอะ เพลเยอร์ส ผมผ่านเวทีการแข่งขันกอล์ฟมากมาย และเดินทางไปรอบโลก แต่ยังมีความทรงจำในวันคว้าแชมป์อย่างชัดเจนเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ความรู้สึกในการเล่น  2-3 หลุมสุดท้าย ยังเป็นความทรงจำที่สดใหม่เสมอสำหรับผม

การคว้าแชมป์ เดอะ เพลเยอร์ส แชมเปี้ยนชิพ เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มากในอาชีพของผมขณะนั้น และเป็นหนึ่งในทัวร์นาเมนท์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เหนือกว่าทัวร์นาเมนท์อื่นๆ ในพีจีเอทัวร์ สำหรับเด็กหนุ่มอายุ 23 ปี ผมกลายเป็นแชมป์ที่อายุน้อยที่สุดตอนนั้น และการเอาชนะนักกอล์ฟฝีมือดีระดับโลกในสนามที่เป็นบทดสอบที่แสนท้าทาย สร้างความมั่นใจและเรื่องราวดีๆให้กับผมอย่างมาก

หลายสิ่งหลายอย่างเข้าทางคุณในการคว้าแชมป์รายการใหญ่แบบนี้ บางครั้งก็เป็นเรื่องของโชค ผมคิดว่าการเล่นก๊วนเดียวกับเออร์นี่ เอลส์ ในรอบที่สาม ช่วยให้ผมเล่นได้อย่างสุขุม มีความนิ่ง และเล่นได้ดี ซึ่งช่วยให้ผมมีความมั่นใจมากขึ้นในการลงเล่นรอบสุดท้ายในวันอาทิตย์ แม้ผมจะไม่ได้เล่นร่วมกับเออร์นี่ เอลส์ ก็ตาม แต่การได้อยู่บนเวทีใหญ่และมีเกมการเล่นที่ดี ผมนำประสบการณ์จากรอบที่สามมาใช้เยอะเลยทีเดียว

ผมรู้สึกดีมากหลังทำสองเบอร์ดี้ติดต่อกันที่หลุม 11 และ 12 และจากนั้นระหว่างการเล่นที่หลุม 14 ผมเห็นสกอร์ของ พาเดร็ก แฮร์ริงตัน บนคลับเฮาส์ ซึ่งผมคิดว่าตอนนั้นผมนำอยู่ 2 สโตรก แต่จู่ๆ สถานการณ์ก็กลายเป็นยากขึ้น ผมเสียโบกี้ที่หลุม 14 ความกดดันเริ่มก่อตัว เมื่อเข้าสู่หลุม 16 พาร์ 5 ผมเล่นพิตช์ช็อตได้ดี แต่ผมกังวลกับการพัตต์ เพราะรู้สึกว่านี่คือพัตต์ที่ต้องลงเพื่อให้นำคู่แข่ง 3 สโตรก ในขณะที่เหลือ 2 หลุม แต่โชคไม่ดี ผมพัตต์เบอร์ดี้ไม่ลง และสร้างความกดดันกับผมอย่างมากในการลงเล่นหลุม 17 และ 18ง

ที่หลุม 17 ไอส์แลนด์กรีน ผมเลือกใช้เวดจ์ ผมมั่นใจในการใช้เวดจ์ และเป้าหมายของผมคือวางลูกตรงกลางกรีนในระยะปลอดภัย และหวังว่าจะเชฟพาร์ได้ในหลุมนี้ ซึ่งผมทำสำเร็จตามที่หวัง  หลังจากนั้นผมทำได้ดีในหลุมที่ 18

ทุกครั้งที่คุณเป็นผู้นำทัวร์นาเมนท์ มันยากที่จะไม่คิดถึงการแข่งขันล่วงหน้าและคิดถึงการคว้าแชมป์ หรือคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นตามมาหลังจากนั้น ในการเล่นหลุม 18 ผมทำได้ดีทีเดียวในช็อตทีออฟ แต่ในการเล่นช็อตสอง มาสะดุดตีตกน้ำ และมากังวลกับพิตช์ช็อต ซึ่งเป็นการเล่นช็อตที่สี่ เพราะการเล่นพิตช์ช็อตผมไม่ค่อยแม่นเท่าไหร่ในตอนนั้น แต่ผมซ้อมหนักก่อนเริ่มการแข่งขันในสัปดาห์ดังกล่าว  ผมพยายามทำใจให้สบาย และเล่นช็อตนั้นด้วยความเชื่อมั่น ซึ่งผมทำได้ดี ลูกห่างธงราว 8 ฟุต และผมก็จำได้ชัดเจนว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับพัตต์สุดท้ายครั้งนั้นสักเท่าไหร่ เทียบกับในอดีตผมตื่นเต้นมากถึงขนาดมือสั่น ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความมั่นใจในการอ่านไลน์พัตต์ หรือเพราะอะไร แต่ผมค่อนข้างนิ่งและเซฟพาร์คว้าแชมป์สำเร็จ ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนท์ใหญ่ที่สุดในอาชีพของผมตอนนั้น และเป็นโอกาสที่พิเศษมาก

หลังจากคว้าแชป์ เรากลับไปที่บ้านของ สจ๊วร์ต แอปเปิลบี ในออร์แลนโด้ ในช่วงเย็นวันอาทิตย์ เพราะตอนนั้นผมยังไม่มีที่บ้านพักในสหรัฐอเมริกา  แต่ไม่มีการเฉลิมฉลองแชมป์อะไรมากมาย ซึ่งผมก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เพราะอดัม สกอตต์ ในวัยนั้น พร้อมฉลองสุดเหวี่ยง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยอดเยี่ยมคือแฟนสาวของผม ซึ่งปัจจุบันคือภรรยาของผม อยู่ที่นั่นด้วย รวมถึง บุช ฮาร์มอน โค้ชของผม และเป็นหนึ่งในช่วงเวลาสำคัญในอาชีพที่ผมได้มีความทรงจำแสนพิเศษเกี่ยวกับการคว้าแชมป์ในบ่ายวันนั้น บางทีผมอาจต้องชดเชยการที่ไม่ได้ฉลองชัยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว และมาฉลองในแบบไม่มีวันลืมเลยหากผมคว้าแชมป์อีกครั้งในสัปดาห์นี้

หมายเหตุแฟนกีฬากอล์ฟสามารถติดตามชมผลงานของยอดนักกอล์ฟระดับโลกในการแข่งขันกอล์ฟพีจีเอทัวร์ รายการ เดอะ เพลเยอร์ส แชมเปี้ยนชิพ ในสัปดาห์นี้ได้ทางทรูสปอร์ต 5

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พสิษฐ์-กัสสะ'คว้าแชมป์ 'สิงห์-กรุงไทย จูเนียร์ กอล์ฟ' สนาม5สู้ถึงเพลย์ออฟ

การแข่งขันกอล์ฟเยาวชนส่วนกลางสะสมคะแนนประจำปี 2567-2568 ของสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ "สิงห์-กรุงไทย จูเนียร์ กอล์ฟ แรงกิ้ง" สนาม 5 ที่สนามกรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ จ.กาญจนบุรี แข่งระหว่างวันที่ 15-17 พ.ย.67 สัปดาห์นี้แข่ง 4 รุ่น คลาส S รุ่นอายุ 19 ปี ขึ้นไป, คลาส A รุ่นอายุ 15-18 ปี และ คลาส B รุ่นอายุ 13-14 ปี

'สุธีพัทธ์-รัญชนพงศ์' นำร่วมรอบ3ลุ้นชิงแชมป์ 'ไต้หวัน กลาส ไท่ฟง โอเพ่น'

สุธีพัทธ์ ประทีปเธียรชัย และ รัญชนพงศ์ อยู่ประยงค์ นำร่วมด้วยสกอร์รวมเท่ากันที่คนละ 18 อันเดอร์พาร์ 198 ลุ้นชิงแชมป์ไต้หวัน กลาส ไท่ฟง โอเพ่น หลังจบรอบสามที่สนามไท่ฟง กอล์ฟ คลับ เมืองชางฮัว ประเทศไต้หวัน เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมี แดนไท บุญมา และ ชลทิตย์ ชื่นบุญงาม ตามหลัง 4 สโตรค

ศึกกอล์ฟ'ไทยแลนด์ โอเพ่น' ครั้งที่52วันที่14-17พ.ย.นี้ ชิงเงินรวม5ล้าน

สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ และบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด(มหาชน) ร่วมกันแถลงข่าวจัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพรายการใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย "ไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งที่ 52" ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมเงินรางวัลรวม 5 ล้านบาท

'พีจีเอทัวร์'กับสถิติน่าใจ ในเดือนตุลาคม 'เอชาวาร์เรีย'แชมป์ที่ญี่ปุ่น

“เอชาวาร์เรีย” คว้าแชมป์ที่ญี่ปุ่น การเปลี่ยนกริพพัตเตอร์และการจับไม้พัตเตอร์ใหม่สร้างความแตกต่างให้กับ นิโก้ เอชาวาร์เรีย อย่างเห็นได้ชัด เมื่อโปรกอล์ฟหนุ่มวัย 30 ปีจากโคลัมเบีย ผงาดครองแชมป์โซโซ แชมเปี้ยนชิพ ที่ประเทศญี่ปุ่นในการลงเล่นครั้งแรก โดยทำเบอร์ดี้หลุมสุดท้าย ในหลุม 18 พาร์ 5 เฉือนชนะ จัสติน โธมัส ดีกรีสองแชมป์เมเจอร์ และแม็กซ์ เกรย์เซอร์แมน ที่จับคู่กับเขาคว้าอันดับ 4 ร่วมในการแข่งขันแบบทีมรายการซูริก คลาสสิค ออฟ นิวออร์ลีน เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ศึก'อินเตอร์ฯ ซีรีส์ แรงกิ้ง' ดุเดือด เพื่อสิทธิลุย 'ลิฟ กอล์ฟ โปรโมชันส์'

การชิงชัยอันดับในตารางคะแนนสะสมอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ แรงกิ้ง เพิ่มความเข้มข้นยิ่งขึ้น เมื่อมีการประกาศยืนยันให้สิทธิ์นักกอล์ฟที่ทำผลงานใน 32 อันดับแรก เข้าร่วมแข่งขันในศึกลิฟ กอล์ฟ โปรโมชันส์ ปีที่สอง ณ สนามริยาด กอล์ฟ คลับ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อลุ้นตั๋วเข้าไปเล่นในลิฟ กอล์ฟ ลีก ฤดูกาลหน้า

'อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์' บริจาคเงินให้มูลนิธิอรุณเจิดจรัส เพื่อเด็กไทยที่ด้อยโอกาส

ฝ่ายจัดการแข่งขันกอล์ฟอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ร่วมบริจาคเงินสมทบทุนให้กับมูลนิธิอรุณเจิดจรัส (Bright Dawn Foundation) จำนวน 25,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 827,000 บาท เป็นครั้งที่สาม เพื่อสนับสนุนภารกิจของมูลนิธิในการการพัฒนาชีวิตเด็กไทยในครอบครัวที่มีรายได้น้อยในชนบทของอำเภอหัวหิน ด้วยการสนับสนุนบริการด้านการดูแลสุขภาพ และการสนับสนุนด้านการศึกษาแก่โรงเรียนประถมจำนวน 5 แห่งในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยการบริจาคดังกล่าวมีขึ้นระหว่างการแข่งขันกอล์ฟอินเตอร์เนชันแนล ซีส์ ไทยแลนด์ ณ สนามไทยคันทรีคลับ จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา