การแข่งขันแบดมินตันรายการเอเชีย ทีม แชมเปี้ยนชิพ 2024 หรือศึกทีมชิงแชมป์เอเชีย ที่เมืองเซลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ก.พ.67 ที่ผ่านมา ในประเภททีมหญิง รอบชิงชนะเลิศ ระหว่างทีมไทย พบกับ อินเดีย
คู่แรก ประเภทหญิงเดี่ยว มือ 1 "เม" ศุภนิดา เกตุทอง มืออันดับ 17 ของโลก พบกับ ปุซาลา สินธุ มืออันดับ 11 ของโลก เกมนี้ เม ศุภนิดา ไม่สามารถต้านความแกร่งไว้ได้ เป็นฝ่ายแพ้ไป 0-2 เกม 12-21 ,12-21 อินเดีย ขึ้นนำก่อน 1-0 คู่
คู่ที่ 2 ประเภทหญิงคู่ มือ 1 "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ "วิว" รวินดา ประจงใจ คู่มืออันดับ 10 ของโลก พลาดท่าแพ้ให้กับ เทสซ่า โจลลี่ กับ กายาตี้ พูเรลล่า โกปีชาน คู่มืออันดับ 23 ของโลกจากอินเดีย ไปอย่างน่าเสียดาย 1-2 เกม 16-21,21-18 และ 16-21 อินเดีย ทำแต้มหนีไปเป็น 2-0 คู่
คู่ที่ 3 ประเภทหญิงเดี่ยว มือ 2 "ครีม" บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ มืออันดับ 18 ของโลก งัดฟอร์มเก่งไล่ตบเอาชนะ อัชมิตา คาลิฮา มืออันดับ 53 ของโลก 2-0 เกม 21-11 , 21-14 ทีมไทย ไล่มาเป็น 1-2 คู่
คู่ที่ 4 ประเภหญิงคู่ มือ 2 "อันนา" นันทน์กาญจน์ กับ "มูนา" เบญญาภา เอี่ยมสอาด คู่มืออันดับ 13 ของโลก ตบเอาชนะ ไปรยา คอนเจนบัม กับ ชรูติ มิชรา คู่มืออันดับ 107 ของโลก ไปอย่างไม่ยากเย็น 2-0 เกม 21-11 และ 21-9 ส่งผลให้ไทยตามตีเสมอเป็น 2-2 คู่
คู่ที 5 ประเภทหญิงเดี่ยว มือ 3 "แครอท" พรพิชชา เชยกีวงศ์ มืออันดับ 45 ของโลก แพ้ให้กับ แอนมอล คาหับบ์ มืออันดับ 475 ของโลก 0-2 เกม 14-21 และ 9-21
สรุปผลการแข่งขัน อินเดีย เอาชนะไปได้ 3-2 คู่ คว้าแชมป์ทีมหญิงชิงแชมป์เอเชียไปครองได้เป็นครั้งแรก ส่วนทีมไทย สร้างประวัติศาสตร์เช่นกันด้วยการได้รองแชมป์ไปครอง
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมชูปถัมถ์ กล่าวว่า " ถึงแม้ทีมนักกีฬาแบดมินตันสาวไทยไม่สามารถเอาชนะทีมอินเดียในรอบชิงชนะเลิศได้ แต่ขอชื่นชมกับความเป็นนักสู้ของนักแบดมินตันทีมหญิงไทยที่แสดงออกมาอย่างสุดความสามารถ และนับเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับแบดมินตันไทยได้อีกครั้งที่ทำผลงานผ่านเข้ามาถึงในรอบชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรก โดยก่อนหน้านั้นผลงานที่ดีที่สุดของทีมแบดมินตันหญิงไทยในศึกชิงแชมป์เอเชีย ที่เคยทำเอาไว้ในปี 2016 และ 2020"
"ด้วยศักยภาพของนักกีฬาชุดนี้ที่มีนักแบดมินตันประสบการณ์หลายคนบวกกับนักกีฬาดาวรุ่งที่เข้ามาเสริมทีมอย่างเช่น "แครอท" พรพิชชา เชยกีวงศ์ , "บูม" ธิดาพร กลีบยี่สุ่น เชื่อว่าทีมแบดมินตันสาวไทยจะมีโอกาสต่อยอดความสำเร็จในทัวร์นาเมนต์ต่อๆไปอย่าง ซีเกมส์ , เอเชียนเกมส์ และ อูเบอร์คัพ"
"โดยหลังจากนี้ทีมนักกีฬาแบดมินตันไทยจะมีโปรแกรมเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันในทวีปยุโรป เริ่มจากศึก "เยอรมัน โอเพ่น 2024" ทัวร์นาเมนต์เก็บคะแนนสะสมระดับบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300, "เฟรนช์ โอเพ่น 2024" ทัวร์นาเมนต์เก็บคะแนนสะสมระดับบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750, "ออล อิงแลนด์ โอเพ่น แบดมินตัน แชมเปี้ยนชิพ 2024" ทัวร์นาเมนต์เก็บคะแนนสะสมระดับบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000, "สวิส โอเพ่น 2024" ทัวร์นาเมนต์เก็บคะแนนสะสมระดับบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300," สเปน มาสเตอร์ส 2024" ทัวร์นาเมนต์เก็บคะแนนสะสมระดับบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 ซึ่งนับเป็นช่วงสำคัญในการเก็บคะแนนเพื่อคว้าโควตาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ฝากให้แฟนๆแบดมินตันชาวไทย ร่วมใจกันส่งแรงเชียร์ในไปให้กับทีมนักแบดมินตันไทยทำผลงานคว้าโควตาให้ได้ครบทั้ง 5 ประเภท" คุณหญิงปัทมากล่าว
สำหรับผลงานที่ดีที่สุดของทีมแบดมินตันหญิงไทย ก็คือ การคว้ารองแชมป์ในศึกทีมหญิงชิงแชมป์โลก "อูเบอร์ คัพ" ปี 2018 ที่ประเทศไทย และล่าสุดคว้ารองแชมป์ประเภททีมหญิงชิงแชมป์เอเชีย2024" นักกีฬา 10 คนประกอบไปด้วย "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธรากุล, "วิว" รวินดา ประจงใจ, "อันนา" นันทน์กาญจน์ เอี่ยมสอาด, "มูนา" เบญญาภา เอี่ยมสอาด, "เกน" ลักษิกา กัลละหะ, "จ๋อมแจ๋ม" ผไทมาส เหมือนวงศ์, "เมย์" ศุภนิดา เกตุทอง, “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์, "แครอท" พรพิชชา เชยกีวงศ์ , "บูม" ธิดาพร กลีบยี่สุ่น
หลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันทีมแบดมินตันหญิงไทย พร้อมคณะและผู้ฝึกสอนของสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย จะเดินทางกลับถึงประเทศไทย ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 416 เวลา 14.10 น.