'แอลพีจีเอ'ประกาศเปลี่ยนกฎ 'ทัวร์คาร์ด 2025' จากคิวซีรีส์และเอปสัน ทัวร์

ภาพ: LPGA/Getty Images

แอลพีจีเอ และเอปสัน ทัวร์ ประกาศการเปลี่ยนแปลงการได้ทัวร์คาร์ด แอลพีจีเอ ทัวร์ 2025 โดยคิวซีรีส์ จะให้สิทธิ์ท็อป 25 และ เสมอ ได้สถานะประเภท 14 และเพิ่มจากเอปสัน ทัวร์ 5 อันดับ ได้สถานะประเภท 15 และปรับเปลี่ยนอีกหลายประเภท เพื่อให้สมาชิกได้เล่นรายการทางการของแอลพีจีเอ มากกว่าเดิม

นักกอล์ฟที่จบท็อป 25 และเสมอจากการแข่งขันคัดเลือกแอลพีจีเอ คิว-ซีรีส์หรือสเตจสุดท้าย 2024 จะได้ทัวร์คาร์ดสถานะประเภท 14 สำหรับทัวร์คาร์ดแอลพีจีเอ ทัวร์ 2025 โดยการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สมาชิกแอลพีจีเอ จะได้เล่นรายการทางการของแอลพีจีเอ มากกว่าเดิม และ จะให้นักกอล์ฟสมาชิกประเภท 15 คือผู้ที่จบอันดับ 101-124 ของคะแนนสะสมเรซทู ซีเอ็มอี โกลบ  และ อันดับ 11-15 ของเรซ ฟอร์ เดอะ คาร์ด เอปสัน ทัวร์ ก่อนหน้านี้ นักกอล์ฟที่จบในท็อป 45 และเสมอในคิวซีรีส์จะได้ทัวร์คาร์ดแอลพีจีเอ โดยประเภท 14 คือ ผู้ที่จบอันดับ 1-20 หรือประเภท 15 ผู้ที่จบอันดับ 21-45 และนักกอล์ฟทุกคนที่เล่นรอบทุกรอบก่อนจะตัดตัวของแอลพีจีเอ คิว-ซีรีส์ จะได้สิทธิ์เล่นเอปสัน ทัวร์

มอลลี มาร์คูซ์ ซามานน์ ประธานบริหารแอลพีจีเอ ทัวร์ เผยว่า "การเปลี่ยนแปลงจำนวนทัวร์คาร์ดในแอลพีจีเอ คิว-ซีรีส์เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่เราค้นหานักกอล์ฟที่ดีที่สุดในโลก และ เปิดโอกาสให้นักกีฬาที่มีความสามารถที่สุดได้ประสบความสำเร็จระดับสูงสุด การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้นักกอล์ฟได้แสดงผลงานตัวเองในแบบเต็มฤดูกาล ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ผู้มีความสามารถระดับโลกได้มีโอกาสเข้าแข่งขันเพื่อชิงสถานะในแอลพีจีเอทัวร์อีกด้วย"

ในส่วนของเอปสัน ทัวร์ นั้นได้เพิ่มเข้ามาอีก 5 จากเรซ ฟอร์ เดอะ คาร์ด ( Race for the Card ) เพื่อสร้างแรงกระตุ้นสำหรับนักกอล์ฟหญิงที่ก้าวไปสู่ทัวร์กอล์ฟอาชีพหญิงที่ระดับโลกโดยผู้ที่จบ 10 อันดับจะได้ฟูลคาร์ด และได้เพิ่มอีก 5 จะได้สถานะสมาชิกทัวร์ ประเภท 15 นักกอล์ฟที่จบ 10 อันดับแรกหลังรายการเอปสัน ทัวร์ แชมเปียนชิพ นั้นจะได้ทัวร์คาร์ด ประเภท 9  ซึ่งการเพิ่มสิทธิ์ครั้งเป็นครั้งแรกที่เพิ่มทัวร์คาร์ดผ่านเอปสัน ทัวร์ ตั้งแต่เคยเพิ่ม 5 อันดับขึ้นไปเป็น 10 เมื่อปี 2007

นักกอล์ฟที่จบ 10 อันดับแรกของเอปสัน ทัวร์ เรซ ฟอร์ เดอะ คาร์ด ( Race for the Card ) จะยังคงได้รับทัวร์คาร์ดของแอลพีจีเอ ทัวร์

ประเภท 9 ในปี 2025 และเริ่มต้นจากปี 2024 ผู้ที่จบอันดับ 11-15 จะได้ทัวร์คาร์ดแอลพีจีเอ ทัวร์  2025 ในประเภท 15 ซึ่งจะเท่ากับนักกอล์ฟสมาชิกของแอลพีจีเอ ทัวร์ ที่จบอันดับ 101-125 ของคะแนนสะสมเดอะ เรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ ซึ่งอันดับ 101 ของแอลพีจีเอเท่ากับอันดัล 11 ของเอปสัน ทัวร์ อันดับ 102 ของแอลพีจีเอ เท่ากับ อันดับ 12 ของเอปสัน ทัวร์ และอื่น ๆ อีก

โจดี บราเธอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจ และปฏิบัติการของเอปสัน ทัวร์ เผยว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะประกาศข่าวการขยายการเข้าไปสู่แอลพีจีเอ ทัร์ สำหรับสมาชิกเอปสัน ทัวร์ฤดูกาลที่สิ้นสุดในเร็ว ๆ นี้ เราได้ย้อนกลับไปศึกษาข้อมูลผู้ที่ผ่านทัวร์ของเราทุกปี และการได้เพิ่มจำนวนจากเอปสัน ทัวร์เพื่อเข้าแอลพีจีเอ พร้อมจะก้าวเข้าไปสู่ระดับสูงที่สุด"

เป้าหมายของแอลพีจีเอ และเอปสัน ทัวร์ ที่ได้ประกาศเปลี่ยนแปลงการได้ทัวร์ คาร์ด และสถานะประเภทสมาชิกของแอลพีจีเอ ทัวร์ 2025 คร้งนี้เป็นการเฟ้นหานักกอล์ฟที่ดีที่สุดเข้าไปในทัวร์ และการต่อสู้กันทั้งฤดูกาล

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ฮอนด้า LPGA ไทยแลนด์ 2025' ศึกระดับโลกปีที่18 จัดก.พ.68สยามคันทรีคลับฯพัทยา

ฮอนด้า ผู้นำด้านเทคโนโลยีการขับเคลื่อน ผนึกกำลัง 3 บริษัทภายใต้แบรนด์ฮอนด้า ได้แก่ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้ามอเตอร์ จำกัด สำนักงานใหญ่ฮอนด้า ประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านรถยนต์ และบริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ผู้นำด้านรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ ร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลัก พร้อมด้วย ไอเอ็มจี ประกาศยืนยันจัดการแข่งขัน “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025” ในวันที่ 20-23 กุมภาพันธ์ 2568 ณ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พัทยา จ.ชลบุรี

'เนลลี คอร์ดา'คว้ารางวัล นักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี 'แอลพีจีเอ ทัวร์'2024

เนลลี คอร์ดา โปรกอล์ฟสาวชาวอเมริกันมือ 1 ของโลก คว้ารางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี (Rolex Player of the Year) ของแอลพีจีเอ ทัวร์ ประจำปี 2024 เป็นการคว้านักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีครั้งแรกของเธอ

เชียร์9โปรสาวไทย ล่าแชมป์'บิวอิค LPGA เซี่ยงไฮ้' ชิงกว่า70.4ล้านบาท

"จีโน่" อาฒยา ฐิติกุล "แพตตี้" ปภังกร ธวัชธนกิจ "พราว" ชเนตตี วรรณแสน จัสมิน สุวัณณะปุระ และ"โม" โมรียา จุฑานุกาล ซึ่งคว้าแชมป์ในแอลพีจีเอ ทัวร์ปีนี้ พร้อมนักกอล์ฟไทยอีก 4 คน ร่วมแข่งขันรายการ “บิวอิค แอลพีจีเอ เซี่ยงไฮ้” ที่สาธารณรัฐปะชาชนจีน 10-13 ตุลาคม นี้ ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 70.4 ล้านบาท ประชันกับยอดนักกอล์ฟสาวระดับโลกอีกมากมาย

11สาวไทยร่วมล่าแชมป์ 'LPGA'รายการใหม่'FM แชมเปียนชิพ' ที่แมสซาชูเซตส์

"จีโน่" อาฒยา ฐิติกุล, "พราว" ชเนตตี วรรณแสน "เม" เอรียา-"โม" โมรียา จุฑานุกาล พร้อมนักกอล์ฟสาวไทยอีก 8 คน ร่วมไล่ล่าแชมป์รายการแข่งขันใหม่ในโปรแกรมแอลพีจีเอ ทัวร์ “เอฟเอ็ม แชมเปียนชิพ” ที่รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในสุดสัปดาห์นี้ ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 3.8 ล้านดอลลาร์ หรือราว 129.4 ล้านบาท ประชันวงสวิงกับยอดนักกอล์ฟสาวระดับโลกอีกมากมาย

'ชเนตตี' เฉือนคู่แข่ง 1 สโตรก คว้าแชมป์แอลพีจีเอ ครั้งที่ 2 ในอาชีพ

ชเนตตี วรรณแสน นักกอล์ฟหญิงไทย ปิดฉากด้วย 2 เบอร์ดีติดต่อกัน คว้าแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ ครั้งที่ 2 ของอาชีพ รายการ ดานา โอเพน วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม เฉือน ริว เฮรัน จาก เกาหลีใต้ แค่ 1 สโตรก

'โปรจีน' ควงคู่ 'หยิน' ซิวแชมป์แอลพีจีเอ เกรท เลกส์ เบย์ ที่สนามมิดแลนด์

อาฒยา ฐิติกุล นักกอล์ฟหญิงของไทย พัตต์เบอร์ดีระยะ 10 ฟุต ที่หลุม 18 พาร์ 3 จับคู่กับ หยิน รั่วหนิง จาก จีน คว้าแชมป์ศึกแอลพีจีเอ เกรท เลกส์ เบย์ อินวิเตชันแนล วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน