การแข่งขันแบดมินตันรายการใหญ่ระดับนานาชาติในศึก "ปรินเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2024" (Princess Sirivannavari Thailand Masters 2024) ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทัวร์นาเมนต์เก็บคะแนนสะสมระดับบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 ชิงเงินรางวัลรวม 210,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 7,240,000 บาท ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ
ประเภทหญิงเดี่ยว "เม" ศุภนิดา เกตุทอง มือวาง 4 ของรายการ มืออันดับ 17 ของโลก โชว์ฟอร์มเก่งไล่ตบทำคะแนนเอาชนะ อาชมีตาร์ ชาลีฮา มืออันดับ 61 ของโลกจากอินเดีย 2-0 เกม 21-13,21-12 "เม" ศุภนิดา ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ อายะ โอโฮริ มือวาง 3 ของรายการ คู่มืออันดับ 15 ของโลกจากญี่ปุ่น ที่เอาชนะ "ครีม" บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ มือวาง 5 ของรายการ มืออันดับ 19 ของโลก มาได้ 2-0 เกม 21-16,21-12
ประเภทหญิงคู่ "อันนา"นันทน์กาญจน์ กับ "มูนา" เบญญาภา เอี่ยมสอาด เจ้าของแชมป์เก่า คู่มือวาง 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 13 ของโลก ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมช่วยกันบุกทำคะแนนเอาชนะ ฟาเบียน่า ดาวรพูจี กุสุมา กับ อมาเลีย คาฮาย่า พราตีวี่ คู่มือวาง 4 ของรายการ คู่มืออันดับ 18 ของโลกจากอินโดนีเซีย ไปได้แบบสนุก 2-0 เกม 21-13, 23-21 "อันนา"นันทน์กาญจน์ กับ "มูนา" เบญญาภาผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ หลัว ซูมิง กับ ลี ยี่จิง คู่มืออันดับ 25 ของโลกจากจีน ที่เอาชนะ ลี ยูริม กับ ชิน เซืองชาน คู่มืออันดับ 26 ของโลกจากเกาหลีใต้ มาได้ 2-0 เกม21-15,21-18
ประเภทชายคู่ "พี" พีรัชชัย สุขพันธ์ กับ “โอโม่” พรรคพล ธีระรัตน์สกุล คู่มืออันดับ 76 ของโลก เปิดเกมบุกไล่ตบเอาชนะคู่รุ่นพี่ "เอ็ม" สุภัค จอมเกาะ กับ "สกาย"กิตตินุพงษ์ เกตุเรน คู่มืออันดับ 33 ของโลก ไปได้ 2-0 เกม 24-22,21-13
"พี" พีรัชชัย กับ “โอโม่” พรรคพล ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปลุ้นแชมป์ระดับบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์แรกของทั้งคู่ โดยจะพบกับ เหอ จีจิง กับ เหริน เซียงหยู คู่มือวาง 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 16 ของโลกจากจีน ที่เอาชนะ มูฮัมมัด โชฮีบุล ฟรีคี่ กับ บาร์กัส มัวลาน่า คู่มือวาง 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 9 ของโลกจากอินโดนีเซีย มาได้ 2-0 เกม 21-15,21-6
ประเภทคู่ผสม "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือวาง 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 6 ของโลก ยังคงทำผลงานได้อย่างร้อนแรงไล่ต้้อนทำคะแนนเอาชนะ เรฮาล นาฟาล คูชาจานโต กับ ลิซ่า อายู กูสุมาวาตี คู่มืออันดับ 17 ของโลกจากอินโดนีเซีย ไปได้ 2-0 เกม 21-17,21-14 "บาส" เดชาพล กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปรอพบผู้ชนะระหว่าง เฉิน ตังเจี๋ย กับ เตียว อีเหว่ย คู่มือวาง 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 9 ของโลกจากมาเลเซีย ที่เอาชนะ ฮิโรกิ มิโดริกาวะ กับ นัตสึ ไซตะ คู่มือวาง 3 ของรายการ คู่มืออันดับ 11 ของโลกจากญี่ปุ่น ไปแบบสนุก 2-0 เกม 21-11, 21-17
ประเภทชายเดี่ยว โจว เทียนเฉิน มือวาง 5 ของรายการ มืออันดับ 14 ของโลกจากไต้หวัน ชนะ มาร์ก คัลโจว มืออันดับ 51 ของโลกจากเนเธอร์แลนด์ 2-0 เกม 21-15,21-12, โลว เคียงยิว มือวาง 2 ของรายการ มืออันดับ 12 ของโลกจากสิงคโปร์ ชนะ ซู ลี่หยาง มืออันดับ 90 ของโลกจากไต้หวัน 21-14 , 21-14
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และ นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กล่าวว่า "ขอแสดงความยินดีและชื่นชมกับผลงานของทีมนักกีฬาแบดมินตันไทย รวมถึงทีมโค้ชที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม มีนักกีฬาแบดมินตันไทยผ่านเข้าไปลุ้นแชมป์ได้มากถึง 4 ประเภท จากหญิงเดี่ยว "เม" ศุภนิดา เกตุทอง ,หญิงคู่ "อันนา"นันทน์กาญจน์ กับ "มูนา" เบญญาภา เอี่ยมสอาด , ชายคู่ "พี" พีรัชชัย สุขพันธ์ กับ “โอโม่” พรรคพล ธีระรัตน์สกุล, คู่ผสม "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย แน่นอนที่สุดว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักกีฬาทำผลงานได้อย่างสุดยอดก็คือแฟนๆ แบดมินตันชาวไทยที่เดินทางมาร่วมกันส่งเสียงเชียร์ทีมนักกีฬาแบดมินตันไทยกันเป็นจำนวนมากที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ทุกๆ คนร่วมกันส่งเสียงเชียร์ปลุกเร้านักกีฬาจนประสบความสำเร็จได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ"
คุณหญิงปัทมา กล่าวต่ออีกว่า "เม ศุภนิดา" สามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในครั้งนี้จะทำให้คะแนนสะสมเพื่อไปโอลิมปิกเกมส์จะแซงขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในประเภทหญิงเดี่ยวของไทย ซึ่งคงต้องขับเคี่ยวกันอีก 5 รายการที่เหลือในยุโรป ระหว่างเมย์ศุภนิดา , หมิว พรปวีณ์ และ "ครีม" บุศนันทน์"
"ส่วน ประเภทหญิงคู่ สองพี่น้อง "อันนา" นันทน์กาญจน์ กับ "มูนา" เบญญาภา เอี่ยมสอาด สามารถผ่านเข้าไปป้องกันแชมป์ได้อีกครั้ง เป็นการสร้างความมั่นใจให้ทั้งคู่หลังจากต้องหยุดพัก จากการแข่งขันในช่วงต้นปีเพราะปัญหาการบาดเจ็บที่เข่าซ้ายของมูนา เบญญาภา แต่หลังจากจบจากรายการนี้เชื่อว่าทั้งสองคนจะมั่นใจและกลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้งในรายการยุโรปที่จะถึงในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ และ มีนาคม"
"ขณะที่ประเภท คู่ผสม "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย นับเป็นการโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ปีนี้เปิดศักราชของปีด้วยการคว้าแชมป์ที่ อินเดีย โอเพ่น เวิลด์ทัวร์ 750 มาแล้ว เชื่อมั่นว่าการที่บาส- ปอป้อกลับมาฟอร์มดีในปีนี้จะเรียกความมั่นใจ ในการเดินทางเข้าสู่โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส และชายคู่ดาวรุ่งของไทย "พี" พีรัชชัย สุขพันธ์ กับ "โอโม่" พรรคพล ธีระรัตน์สกุล โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน สามารถพลิกชนะ นักแบดมินตันระดับโลกได้ตั้งแต่รอบแรกจนพาตัวเองเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศนับเป็นการเข้าชิงเลิศรายการระดับเวิลด์ทัวร์เป็นครั้งแรกของทั้งสองคน เชื่อเหลือเกินว่าการแข่งขันในครั้งนี้จะสร้างความมั่นใจและเป็นประสบการณ์ให้น้องทั้งสองคนพัฒนาตัวเองขึ้นเป็นกำลังสำคัญของประเภทชายคู่ของประเทศไทยอย่างแน่นอน"
"ขอขอบคุณแฟนๆ แบดมินตันที่เดินทางมาร่วมชมเชียร์ในสนามกันอย่างคึกคักทำให้สนามเต็มแน่นเป็นประวัติศาสตร์ และอยากขอเชิญชวนแฟนๆ กีฬาชาวไทยให้เดินทางมาร่วมกันส่งเสียงเชียร์ไปพร้อมๆกัน ส่วนใครที่ยังไม่มีบัตรเข้าชมสามารถมาซื้อได้ที่หน้าสนามแข่งขัน เชื่อมั่นว่าหากมีกำลังใจที่ดีมีเสียงเชียร์ที่กึกก้องจากแฟนๆ ชาวไทยจะเป็นพลังกระตุ้นอันยิ่งใหญ่ให้กับนักกีฬาแบดมินตันไทยทำผลงานทำลายประวัติศาสตร์ที่นักกีฬาแบดมินตันไทยเคยสร้างเอาไว้ในปี 2018 ที่กวาดแชมป์มาครองได้มากถึง 3 ประเภท ซึ่งตอนนี้มีกระแสตอบรับจากแฟนๆ และเป็นที่ต้องการเป็นเจ้าของบัตรในรอบชิงชนะเลิศอย่างมาก" คุณหญิงปัทมา กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าชม สามารถซื้อบัตรได้มีบริเวณหน้าสนามแข่งขัน ส่วนแฟนกีฬาชาวไทยที่ไม่สามารถเข้าชมในสนามแข่งขันสามารถชมและเชียร์นักกีฬาไทยได้ทางช่องทรูวิชั่นส์ SPOTV (689) , True Sport 7 (686) และ True4U ช่อง 24 วันนี้ อาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
www.facebook.com/BadmintonThailand