'รมต.สุดาวรรณ'ยืนยัน ปี2567จะพลิกโฉม การท่องเที่ยวและกีฬาของไทย

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการแถลงแนวทางการขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปี 2567 ต่อสื่อมวลชน โดยมี นายกิตติ เชาวน์ดี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา,ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.),นายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ผู้บริการ กกท. ,หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, และสื่อมวลชน ร่วมงาน ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 1  สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันพุธที่ 17 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา

รมต.สุดาวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในปี 2567 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะ "พลิกโฉมการท่องเที่ยว และกีฬาของไทย" ด้วยการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท และเพิ่มส่วนแบ่งมูลค่ากีฬาไทยที่มีเพียง 0.58% ให้เป็น 1% จากอุตสาหกรรมกีฬาโลกที่มีขนาด 45.58 ล้านล้านบาท คิดเป็นมูลค่า 455,800 ล้านบาทให้ได้ สำหรับนโยบายที่กระทรวงฯ จะขับเคลื่อนในปี 2567 มี 7 นโยบายหลักๆ อาทิ 

 

"นโยบายกระทรวงฯ จะใช้ Soft Power เป็นพลังในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมการกีฬาของประเทศไทยให้เป็น "Engine the New Power" และจุดเด่นของ Soft power จะมีในเรื่องของกีฬาเข้ามาเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนด้วยและเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศไทยในสายตาชาวโลกที่สำคัญ และเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน demand ของการท่องเที่ยวและการกีฬาได้เป็นอย่างดี "

 

"สำหรับการขับเคลื่อน นโยบายด้านกีฬาพื้นฐาน โดยวางระบบการพัฒนาทั่วประเทศเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริม พัฒนาการการออกกำลังกายและการเล่นกีฬา ทุกคนสามารถออกกำลังกายเป็นวิถีชีวิต สามารถเข้าถึงกีฬาได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งคนทั่วไป ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาสรวมทั้งจะมีการส่งเสริมกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ กีฬาเพื่อการอาชีพที่จะต้องพัฒนากีฬาทุกระดับและบุคลากรรวมทั้งการพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา และนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาเพิ่มสมรรถนะให้กับนักกีฬาไทยให้แข็งแกร่งขึ้นเพื่อแข่งขันในระดับนานาชาติ หรือกีฬาอาชีพ และต้องผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการแข่งขันมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติและระดับโลก สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนรุ่นใหม่  E-Sport ถือเป็นกิจกรรมกีฬาใหม่ที่ต้องส่งเสริมเพราะสามารถสร้างทักษะให้กับเยาวชนและสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ" 

 

"รวมถึงการเตรียมพร้อมสำหรับมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ซึ่งปี 2567 จะมีรายการแข่งขันระดับนานาชาติหลายรายการทั้งการส่งนักกีฬาไปร่วมแข่งขันกีฬา โอลิมปิกปารีส 2024 และการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขัน ได้แก่ เอเชียนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์, จักรยานยนต์โมโตจีพี, เจ็ตสกีชิงแชมป์โลก, ฮอนด้า แอลพีจี เอ ไทยแลนด์ 2024 รวมถึงการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2568 ซึ่งมี 3 จังหวัดร่วมเป็นเจ้าภาพ คือ กรุงเทพ ชลบุรี และสงขลา"

รมต.สุดาวรรณ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับความสำเร็จของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปี 2566 ที่ผ่านมาประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งสิ้น 28 ล้านคน เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่วนรายได้รวมจากนักท่องเที่ยวปี 2566 ตั้งเป้าไว้ที่ 2.38 ล้านล้านบาท โดยสรุปตัวเลขเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา พบว่า ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 100 จากปี 2565 ส่วนผลงานด้านกีฬาในปี 2566 นักกีฬาไทยมีผลงานในชนิดกีฬาสากลที่ดีขึ้น และนอกจากนี้ประเทศไทยได้มีการจัดกีฬาในระดับนานาชาติ ได้แก่ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023 ครัั้งที่ 16 การแข่งขันรายการโมโตจีพี 2023 การจัดการแข่งขันรายการวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเซีย 2023 ซึ่งทุกรายการมีแฟนกีฬาทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศเข้าชมป็นจำนวนมาก สามารถสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น และผู้ประกอบการได้เป็นจำนวนมาก

 

ดร.ก้องศักด ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า ในการเตรียมการของนักกีฬาในตอนนี้ได้มีการคัดกีฬาที่มีความหวังกลุ่มหนึ่งจำนวนตัวเลขที่ควอลิฟายได้เข้ามาเรื่อยๆ หลายชนิดกีฬาก็เป็นกีฬาใหม่ที่ไม่เคยควอลิฟาย เช่นปัญจกีฬา เป็นต้น ในการเตรียมการและการเก็บตัวต่อเนื่องบางชนิดกีฬาใน 6 ชนิดกีฬา ความหวังเตรียมที่จะไปเก็บตัวที่ต่างประเทศด้วย มีการไปดูศูนย์ฝึกที่เมืองต่างๆในฝรั่งเศสและประเทศฝั่งยุโรป เพื่อให้นักกีฬาปรับสภาพและคุ้นเคยกับบรรยากาศ โดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ทางการกีฬาและกระทรวงการต่างประเทศ ทางสถานฑูตได้อำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี ในการแข่ง VNL final ในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาวงการกีฬาวอลเลย์บอล ในเรื่องของการสร้างกระแสกีฬาและการท่องเที่ยว การเตรียมความพร้อมในการจัดเอเชียนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์นั้น มีการจัดสรรงบประมาณที่เพียงพอ ในช่วงของการแข่งขัน รวมงบประมาณ  1,700 ล้านบาท ที่ได้อนุมัติแล้ว 400 ล้าน ในส่วนที่สอง 537 ล้าน และก้อนสุดท้ายจะเป็นเงินที่ขอจากการสนันสนุนจากรัฐบาลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยในอาทิตย์ที่ผ่านมาได้พบปะกับผู้บริหารระดับสูง ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ OCA เป็นไปอย่างราบลื่น เรื่องของระบบ IT นั้นจะดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา ต่อไป

 

สำหรับประเด็นในการแถลงในครั้งนี้ ประกอบด้วย การขับเคลื่อนตลาดการท่องเที่ยวของไทยทั้งภายในและต่างประเทศเข้าสู่ Quality Destination ,การผลักดัน Soft Power ให้เป็นพลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมกีฬาในปี 2567 ,ยกระดับความสะดวกและดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว (Hospitality and Safety),การส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และการท่องเที่ยวเท่าเทียม(Tourism for all),กระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้มีมิติด้านการท่องเที่ยวและกีฬา ,การพัฒนาศักยภาพและเพิ่มพูนทักษะแก่บุคคลากรด้านกีฬา,การเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาในมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ