'ลำน้ำมูลเล็ก อ.อัจฉริยะ' แชมป์ RWS สองสมัยเผย ตั้งเป้าขึ้นเบอร์1โลกให้ได้

“ลำน้ำมูลเล็ก อ.อัจฉริยะ” ยอดมวยถ้วยพระราชทานจากจังหวัดบุรีรัมย์

จบลงไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยกับทัวร์นาเมนต์ซีซั่น 2023 ของศึก RWS ซึ่งบทสรุปในตอนท้ายก็ได้สุดยอดแชมป์มวยไทยมาทั้งสิ้น คน และหนึ่งในคนที่สามารถรักษามาตรฐานการชกของตัวเองไว้ได้เป็นอย่างดีก็คงหนีไม่พ้น ลำน้ำมูลเล็ก อ.อัจฉริยะ” ยอดมวยถ้วยพระราชทานจากจังหวัดบุรีรัมย์ที่ตอกย้ำให้ทุกคนได้เห็นว่าเขานี่แหละคือสุดยอดนักชกของพิกัด 135 ปอนด์อย่างแท้จริง

ทั้งนี้ ลำน้ำมูลเล็กได้ประกาศความเป็นตัวท็อปในรุ่นไลท์เวทด้วยการเอาชนะคะแนนสมิงเดช น.อนุวัฒน์ยิมส์ในรอบชิงชนะเลิศ คว้าแชมป์พร้อมเงินรางวัล ล้านบาทมาได้สำเร็จ ส่งผลให้เขาสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักชกอีกคนที่สามารถคว้าแชมป์ RWS มาครองได้เป็นปีที่สองติดต่อกัน และนั่นก็หมายความว่าเขาได้รับเงินรางวัลจากการลงแข่งทัวร์นาเมนต์ของ RWS รวมกันไปกว่า ล้านบาทเลยทีเดียว

สำหรับตัวลำน้ำมูลเล็กนั้นเกิดเมื่อวันที่ 13 เมษายน ปี พ.. 2541 ปัจจุบันอายุ 25 ปี เป็นชาวอำเภอสะตึก จังหวัดบุรีรัมย์ มีชื่อเล่นว่า “ถัง” เริ่มต้นชกมวยขณะที่มีอายุได้ ขวบ โดยใช้ชื่อในการชกครั้งแรกว่า รถถัง ศักดิ์ชัยโชติ ได้รับค่าตัวประเดิมการขึ้นเวทีครั้งแรกที่ 200 บาท ซึ่งหลังจากที่ตระเวนขึ้นชกในเวทีภูธรจนประสบการณ์แก่กล้า ลำน้ำมูลเล็กก็ได้รับโอกาสให้เข้ามาชกทำผลงานในเวทีเมืองกรุงและสังกัดอยู่ค่ายทีเด็ด99 โดยมี เฮียตี๋ ทีเด็ด99” เป็นหัวหน้าคณะและผู้จัดการ

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ลำน้ำมูลเล็กมีสถิตการชกอย่างเป็นทางการไม่ต่ำกว่า 100 ไฟต์ มีจุดเด่นคือเป็นมวยซ้ายที่มีอาวุธครบเครื่อง เตะต่อยและเคลื่อนที่ได้แคล่วคล่องว่องไว อีกทั้งยังมีไอคิวมวยที่โดดเด่น แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าบนเวทีได้เป็นอย่างดี ทำให้กลายเป็นโจทย์ยากสำหรับคู่ชกทุกคนที่ต้องเผชิญหน้ากับเขาบนสังเวียน การันตีฝีมือด้วยผลงานเคยคว้ารางวัลนักกีฬามวยไทยดีเด่นของการกีฬาแห่งประเทศไทยประจำปี พ.. 2564 โดยปัจจุบันลำน้ำมูลเล็กก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าตัวเขาเองก็เป็นอีกหนึ่งนักมวยไทยที่เก่งที่สุดของพิกัดน้ำหนัก 135 ปอนด์เหมือนกัน

แน่นอนว่าความภาคภูมิใจสูงสุดของลำน้ำมูลเล็กก็คงหนีไม่พ้นการได้เป็นแชมป์รุ่นไลท์เวทของ RWS มากถึงสองสมัย ซึ่งตัวลำน้ำมูลเล็กก็ยังมั่นใจด้วยว่าหากมีการจัดทัวร์นาเมนต์ในซีซั่นต่อไปอีก เขาก็จะสามารถคว้าแชมป์มาครองได้เป็นสมัยที่สามอย่างแน่นอน

“แต่ตอนซ้อมผมก็เจอปัญหามากเหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องการคุมน้ำหนักตัว อย่างตอนซ้อมต้องเจอหน้าฝน ไม่ค่อยมีที่วิ่ง ลดน้ำหนักไม่ได้  ผมต้องคุมอาหารด้วย กินมั่วไม่ได้ ต้องคุมน้ำหนักด้วยตัวเอง”

ลำน้ำมูลเล็กบอกว่าตลอดการแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ของ RWS เขาต้องฝึกซ้อมอย่างหนักเลยเพื่อทำน้ำหนักให้ได้ จากที่เดิมเคยฝึกหนักอยู่แล้วก็ต้องซ้อมให้หนักกว่าเดิม มียกเวทเพิ่มเติมนอกเหนือจากซ้อมมวย ถือเป็นระยะเวลาติดต่อกันหลายเดือนเลยที่เขาเคร่งครัดเรื่องการฝึกซ้อมเพื่อให้ตัวเองไปถึงเป้าหมายอย่างการเป็นแชมป์ของ RWS ซึ่งถึงแม้จะรู้สึกกดดันและเหน็ดเหนื่อยเอามากๆ แต่ลำน้ำมูลเล็กก็ไม่เคยคิดย่อท้อ ทุ่มเทอย่างเต็มที่ตลอดเวลา เพราะเขาทราบดีว่าเงินรางวัลที่ได้รับจะเปลี่ยนชีวิตของเขากับครอบครัวไปตลอดกาล เช่นเดียวกับเข็มขัดแชมป์อันทรงเกียรติที่จะกลายเป็นเกียรติประวัติสำคัญติดตัวเขาไปตลอดชีวิต

แน่นอนว่าหลังจากที่ได้แชมป์มาครองแล้ว ลำน้ำมูลเล็กก็ยอมรับออกมาเลยว่าเขารู้สึกโล่งอกและผ่อนคลายขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมาก โดยเงินรางวัลที่ได้รับมา เขาก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะเอาไปต่อเติมและบูรณะวัดที่บ้านเกิดซึ่งเป็นวัดที่มีบุญคุณกับเขามาตั้งแต่วัยเด็ก ส่วนเงินที่เหลือก็จะเอาไปช่วยเหลือครอบครัวให้มีความสุขและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ขณะที่เป้าหมายสูงสุดลำดับต่อไปที่เขาอยากจะทำให้ได้เลยก็คือการทำให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับในฐานะนักมวยรุ่น 135 ปอนด์ที่ได้ชื่อว่าเก่งที่สุดในโลก ซึ่งเฮียตี๋ ทีเด็ด99 ก็พร้อมจะผลักดันอย่างเต็มที่ โดยประกาศว่าคู่ชกที่เหมาะสมที่สุดหากลำน้ำมูลเล็กต้องการพิสูจน์ว่าตัวเขาคือนักมวยไทยที่เป็นเบอร์หนึ่งของโลกในรุ่น 135 ปอนด์ก็คือ “รถถัง จิตรเมืองนนท์” นักชกซูเปอร์สตาร์ที่ปัจจุบันสังกัดกับอยู่กับทางวัน แชมเปี้ยนชิพและมีค่าตัวในการชกต่อไฟต์อยู่ที่ 10 ล้านบาท ซึ่งเกร็ดข้อมูลที่น่าสนใจเลยก็คือสมัยที่เป็นนักมวยดาวรุ่งภูธร ลำน้ำมูลเล็กเคยเอาชนะรถถังมาแล้วด้วย

“หากได้มีโอกาสได้ชกกับรถถังก็คงดีครับ เมื่อแชมป์มวยไทยสองคนมาชกกันเพื่อหาอันดับหนึ่งของมวยไทยในรุ่น 135 ปอนด์ จะชกที่ไหน เมื่อไหร่ ผมพร้อมเจอ”

ไม่ต้องสงสัยเลยล่ะว่านี่คงเป็น “ดรีมไฟต์” ของแฟนมวยหลายๆคนอย่างแน่นอน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

RWSเตรียมทุ่มกว่า30ล้าน ต้อนรับก้าวเข้าสู่ปีที่80 สนามมวยราชดำเนิน

เวทีมวยราชดำเนินซึ่งเปรียบเสมือนบ้านของมวยไทยกำลังมีอายุครบรอบ 79 ปีและก้าวเข้าสู่ปีที่ 80 ของการก่อตั้งในเดือน ธ.ค. นี้ ในช่วงเวลาสามปีที่ผ่านมาภายใต้การบริหารงานของ “คุณแบงค์" เธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลเบิล สปอร์ต เวนเจอร์ส จำกัด (GSV) และ ประธานรายการ RWS – Rajadamnern World Series ร่วมกับ พาร์ทเนอร์ ผู้บริหารและทีมงานเวทีราชดำเนิน มีส่วนสำคัญทำให้เวทีราชดำเนินยกระดับเป็นสังเวียนการแข่งขันมวยไทยระดับโลกที่มีแฟนมวยทั่วโลกเดินทางมาสัมผัสมวยไทยที่ยังคงเอกลักษณ์มวยไทยดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน กลายเป็นหนึ่งใน ซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย

'วันชัยน้อย'ท้า'ขุนศึกเล็ก' โดยมีแชมป์ราชดำเนิน เงิน1ล้านเป็นเดิมพัน

ศึกเฉลิมฉลองการก้าวเข้าสู่ปีที่ 80 ของเวทีราชดำเนินในวันที่ 21 ธ.ค. นี้ คู่สำคัญคือ RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT ขุนศึกเล็ก บูมเด็กเซียน จะขึ้นชกป้องกันตำแหน่งแชมป์รุ่นแบนตัมเวทของเวทีราชดำเนิน กับ วันชัยน้อย ส.ท.เหี่ยวบางแสน เจ้าของเข็มขัดแชมป์รุ่นแบนตัมเวทของเวทีมวยช่อง 7 HD เพื่อพิสูจน์ว่าใครกันแน่ที่คือเบอร์หนึ่งของพิกัดแบนตัมเวทกัน

ซูเปอร์ไฟต์แห่งปี 'ขุนศึกเล็ก'ป้องกันแชมป์'วันชัยน้อย' ที่ราชดำเนิน21ธ.ค.นี้

ขุนศึกเล็ก เพิ่งกระชากแชมป์รุ่นแบนตัมเวทของเวทีราชดำเนินกลับคืนมาได้ ด้วยการล้างตาเอาชนะคะแนน ริวกิ มาซึดะ นักชกชาวญี่ปุ่นด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ใน RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT ที่เวทีราชดำเนิน เมื่อเสาร์ที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา และยังได้รับเงินรางวัล 750,000 บาท (500,000 ในฐานะผู้ชนะ 250,000 คู่ชกดุเดือด) ไม่รวมกับค่าตัว

'พญาหงส์ บัญชาเมฆ' แชมป์รุ่น105เวทีราชดำเนินคนแรก ขอบคุณ'บัวขาว'หนุนเต็มที่

คู่เอกของศึก RWS ที่สนามมวยเวทีราชดำเนิน เมื่อวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2567 เป็นการชิงแชมป์มวยหญิงราชดำเนิน รุ่นมินิมัมเวตหญิง 105 ปอนด์ เป็นการพบกันระหว่าง พญาหงส์ บัญชาเมฆ พบกับ ซายะ อิโตะ คู่ปรับเก่าชาวญี่ปุ่น

'ขุนศึกเล็ก'รับกดดัน แต่มั่นใจชนะ'ริวกิ มาซึดะ' ลุ้นรับเงินล้านที่ราชดำเนิน21ก.ย.นี้

หลังจาก ขุนศึกเล็ก บูมเด็กเซียน พลาดท่าโดนหมัดขวาของ ริวกิ มาซึดะ พ่ายน็อกยก 2 เสียแชมป์รุ่นแบนตัมเวทอเวทีราชดำเนินในการชกศึก RWS Japan ที่ทิปสตาร์ โดม จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา และ RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT ที่เวทีราชดำเนิน ในวันที่ 21 ก.ย.

'ชนะน็อคไฟต์ละล้าน' RWSราชดำเนินเพิ่มมูลค่าแชมป์ ยกระดับมวยไทย

เวทีราชดำเนินเดินหน้าสุดตัวผลักดันระบบนิเวศมวยไทย สร้างงานสร้างรายได้ให้กับนักมวยไทยและบุคลากรวงการมวยนับหมื่นอาชีพต่อปี เพื่อเป้าหมายให้มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ “เวิลด์คลาส” อย่างมั่นคงและยั่งยืน