'เจิ้ง'นำเดี่ยว 'อชิตะ'รั้งที่42ร่วม จบรอบสาม'เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์'

แซมป์ซั่น เจิ้ง นักกอล์ฟจีน ตีรอบสาม 6 อันเดอร์ ขยับขึ้นนำเดี่ยวลุ้นแชมป์พร้อมตั๋วลุยกอล์ฟเมเจอร์ ในการแข่งขันกอล์ฟ “เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์  แชมเปี้ยนชิพ” ครั้งที่ 14 ที่ประเทศออสเตรเลีย

ในการเล่น ณ สนามรอยัล เมลเบิร์น กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,055 หลา พาร์ 71 เมืองเมลเบิร์น เมื่อวันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม 2566 เจิ้ง วัย 22 ปี ซึ่งลงเล่นรายการนี้เป็นครั้งที่ 3 ตีรอบสาม 1 อีเกิ้ล 6 เบอร์ดี้ 2 โบกี้ ขึ้นนำเดี่ยวด้วยสกอร์รวม 3 อันเดอร์ 210 โดยนักกอล์ฟสมัครเล่นมือ 51 ของโลกรายนี้กำลังลุ้นเป็นนักกอล์ฟจีนคนที่ 5 ที่ได้แชมป์รายการนี้  ทั้งนี้ เจิ้ง เป็นเพียงแค่ 1 ใน 4 นักกอล์ฟที่สามารถตีอันเดอร์สนามได้ในรอบนี้

บิลลี่ ดาวลิ่ง ตี 2 โอเวอร์ 73  สกอร์รวม 1 โอเวอร์ 214 อยู่ที่ 2 ตามหลังผู้นำ 4 สโตรก แต่ก็ยังมีลุ้นเป็นนักกอล์ฟออสเตรเลียคนที่ 4 ที่ได้แชมป์รายการนี้ ขณะที่อันดับ 3 ร่วม เป็นของ คาซูม่า โกโบริ (74) จากนิวซีแลนด์ และ เหวินยี่ ดิง (76) นักกอล์ฟจีนวัย 18 ปี มือ 17 ของนักกอล์ฟสมัครเล่นโลก ที่สกอร์รวมคนละ 2 โอเวอร์

แม็กซ์ ชาร์ลส์ (71) และ เจสเปอร์ส สตั๊ปป์ ( 74) อีกสองความหวังเจ้าถิ่น สกอร์รวมคนละ 3 โอเวอร์ อยู่ที่ 5 ร่วม

ฉวน ไท หลิน นักกอล์ฟไต้หวันซึ่งเป็นผู้นำรอบสอง ตีรอบนี้ 7 โอเวอร์ สกอร์รวม 4 โอเวอร์ อยู่ที่ 7 ร่วม เช่นเดียวกับ ปาร์ค จีวอน (74)  นักกอล์ฟเกาหลีใต้

ส่วนผลงาน 3 นักกอล์ฟไทยที่ผ่านการตัดตัวนั้น อชิตะ เปี่ยมกุลวนิช ตีรอบสาม 10 โอเวอร์ สกอร์รวม 15 โอเวอร์ อยู่ที่ 42 ร่วม, อาศิษฐ์ อารีพันธ์ ทำ 8 โอเวอร์ สกอร์รวม 18 โอเวอร์ อยู่ที่ 54 ร่วม และ พงศภัค เหล่าภักดี  ทำ 12 โอเวอร์ สกอร์รวม 23 โอเวอร์ อยู่ที่ 64 ร่วม

อชิตะ ซึ่งรอบนี้ ทำ 1 เบอร์ดี้ 5 โบกี้ 3 ดับเบิ้ลโบกี้ กล่าวว่า สภาพสนามรอบนี้ยากสุดกว่าทุกวันที่ผ่านมาเพราะว่าลมแรง แม้ว่าตนเองค่อนข้างจะผิดหวังกับสกอร์ที่ออกมา แต่ก็ถือว่าสนุกกับเกมเพราะว่าได้ลองเล่นอะไรใหม่ๆ

“จริงๆ ฟีลการตีถือว่าวันนี้ดีสุดแล้ว แต่ว่าลมแรง สนามยากกว่าวันแรกๆ หลายเท่า วันนี้ไดร์ฟไม่มีปัญหา แต่ว่าขึ้นกรีนไม่ได้” อชิตะ กล่าว

“สกอร์วันนี้ 10 โอเวอร์ รู้สึกผิดหวังครับ แต่ว่าก็สนุกมากเพราะว่าได้ลองอะไรใหม่ๆ พรุ่งนี้ถ้าลมยังเหมือนเดิมก็คงจะเล่นได้ดีขึ้นเพราะว่าเราได้ซ้อมมาแล้วครับ”

กอล์ฟ “เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ 2023” จัดโดยสหพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก (เอพีจีซี), เดอะ มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนท์ และ เดอะ อาร์แอนด์  ซึ่งแชมป์จะได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันรายการ “เดอะ มาสเตอร์ส 2024 ”, รายการ “ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 152 ” และรายการ “อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ ครั้งที่ 129” ขณะที่รองแชมป์จะได้สิทธิ์แข่งขันรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายในการชิงตั๋วเพื่อเล่นรายการ “ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 152” ด้วยเช่นกัน

การแข่งขัน “เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ” เกิดขึ้นในปี 2009 โดยความร่วมมือระหว่างสหพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก (เอพีจีซี), เดอะ มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนท์ และ เดอะ อาร์แอนด์เอ โดยนักกอล์ฟหลายคนที่เคยเล่นรายการนี้สามารถก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์อาชีพกว่า 120 รายการในทัวร์ต่างๆ ทั่วโลก ทั้ง พีจีเอทัวร์, ดีพีเวิลด์ทัวร์, เอเชียนทัวร์ และเจแปน กอล์ฟ ทัวร์ โดยแชมป์ดังกล่าวก็รวมถึง ฮิเดกิ มัตสึยาม่า อดีตแชมป์ เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ 2 สมัย, คาเมรอน สมิธ, ซี วู คิม, ไรอัน ฟ็อกซ์, เค เอช ลี, คาเมรอน เดวิส, มิน วู ลี, ลูคัส เฮอร์เบิร์ต, และซี ที แพน โดยในการแข่งขัน 13 ครั้งที่ผ่านมา มีนักกอล์ฟจาก 4 ประเทศที่สามารถก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์รายการนี้ ได้แก่ จีน (4 ),ญี่ปุ่น (4) ออสเตรเลีย (3) เกาหลีใต้ (2)

เครดิตภาพ : AAC