กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ร่วมจัดงานมหกรรมการแข่งขันและเผยแพร่ศิลปะมวยไทย "ศึกมวยไทย วิถีถิ่นไทย" คู่เอก ซ้ายอุกกาบาต "กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย" ปะทะ ขุนเข่าวัวชน "ตะเภาแก้ว สิงห์มาวิน" พร้อมยอดมวยดังแห่งยุคอัดแน่นดวลกำปั้นในการแข่งขันโมโต จีพี 2023 รายการ โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023 ณ เวทีมวยชั่วคราว หน้าสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
โดยงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจาก ดร.วนิดา พันธ์สอาด รองอธิบดีกรมพลศึกษา ผู้แทนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, คุณสุรศักดิ์ เกิดจันทึก รองผู้ว่าการฝ่ายยุทธศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ การกีฬาแห่งประเทศไทย, คุณวรันธร อนันตโสภาจิตร์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต, คุณพีรพงศ์ ธีระเดชพงศ์ (ชุ้น เกียรติเพชร) โปรโมเตอร์ และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมงานในครั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม 2566 เวลา 13.30 น. ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ชั้น 25 การกีฬาแห่งประเทศไทย
ดร.วนิดา พันธ์สอาด รองอธิบดีกรมพลศึกษา ผู้แทนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “ในปีนี้นับเป็นปีที่ 4 แล้ว ที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพในการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบระดับโลกอย่าง โมโต จีพี ภายใต้ชื่อรายการ โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023 ซึ่งจัดขึ้นที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 27 - 29 ตุลาคมนี้
โดยในการจัดงานทุกๆครั้ง ต่างก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน และในปีที่ผ่านมา Thai GP ได้สร้างรายได้ให้ประเทศถึง 4,048 ล้านบาท และเชื่อว่าในปีนี้จะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
นอกจากการแข่งขันรถจักรยานยนต์อันเร้าใจแล้ว เรายังมีการแข่งขันมวยไทย ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆมอเตอร์สปอร์ตทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้ได้มาสัมผัสบรรยากาศแบบริงไซด์ใน “ศึกมวยไทย วิถีถิ่นไทย” ที่จะเผยแพร่ศิลปะการต่อสู้อันเป็นเอกลักษณ์ และเป็นมรดกประจำชาติที่ยากจะเลียนแบบให้คนทั้งโลกได้รู้จักมากยิ่งขึ้น ผ่านสายตาผู้ชมหลายหมื่นคน รวมถึงสื่อมวลชนที่มาทำข่าวร่วม 500 คนจากทั่วโลก
อีกทั้งยังมีการถ่ายทอดสดและเก็บภาพบรรยากาศในงานไปสู่ 207 ประเทศทั่วโลก ใน 800 ล้านครัวเรือนที่จะได้รับชมความงดงามควบคู่ไปกับความแข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์อันดีงามของมวยไทย พร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้เดินทางมาประเทศไทย ซึ่งจะสร้างรายได้มหาศาลในอนาคต
และนอกจากการโปรโมทภาพลักษณ์และการท่องเที่ยวเชิงกีฬาแล้ว สิ่งสำคัญคือ การร่วมกันพัฒนาวงการกีฬามวยไทยไปสู่เป้าหมายที่วางไว้คือการไปแข่งขันโอลิมปิค ซึ่งล่าสุดก็มีข่าวดีจากการแข่งขันเอเชียน เกมส์ ที่ประเทศไทยได้เข้าชิงเหรียญทองทั้งชายและหญิง และได้โควต้าไปแข่งกีฬาระดับโลกอย่าง โอลิมปิค 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศสในปีหน้า ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก และหากทุกภาคส่วนช่วยกันพัฒนาเชื่อว่าวงการมวยไทยต้องเติบโตไปแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน”
ด้านคุณสุรศักดิ์ เกิดจันทึก รองผู้ว่าการฝ่ายยุทธศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ การกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ในนามของการกีฬาแห่งประเทศไทย มีหน้าที่และภารกิจที่ต้องส่งเสริมและสนับสนุนกีฬาของชาติไทย พร้อมเผยแพร่สิ่งที่เป็น Soft Power ของประเทศผ่านศิลปะการต่อสู้ประจำชาติ อย่าง “มวยไทย” ที่คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจและต้องการเรียนรู้ จะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีชาวต่างชาติหันมาเข้าชมรวมทั้งเรียนรู้ศาสตร์แม่ไม้มวยไทยมากยิ่งขึ้น และมีจำนวนเพิ่มขึ้นในทุกๆปี ซึ่งสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ
รวมถึงการแข่งขัน “ศึกมวยไทย วิถีถิ่นไทย” ที่จัดขึ้นในงาน โมโต จีพี ก็เป็นอีกรายการที่ยิ่งใหญ่ของวงการมวยไทย เพราะจากการจัดการแข่งขัน 3 ครั้งที่ผ่านมา ได้แสดงให้เห็นถึงความสนใจของทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เพราะหลังจากจบการแข่งขัน โมโต จีพี ในวันเสาร์ คลื่นมหาชนมากมายก็ได้ไปรอชมการแข่งขันมวยไทยรายการนี้เรียกได้ว่าหลายหมื่นคน ยืนยันได้ว่ามวยไทยยังอยู่ในสายเลือด และเป็นที่ชื่นชอบของแฟนกีฬาทั่วโลก
ในปีนี้เราได้เพิ่มคู่มวยเพื่อเอาใจแฟนๆโดยเฉพาะจากเดิม 7 คู่ ในปีนี้เพิ่มเป็น 9 คู่ และยังคงใช้วิธีการนับคะแนนที่จะมีการแสดงคะแนนหลังจากจบยก 1-3 ซึ่งได้ใช้วิธีนี้เริ่มต้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และได้รับผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก เพราะแสดงให้เห็นถึงความยุติธรรมในการตัดสินของกรรมการ และยุติธรรมต่อนักชกทั้งสองฝ่าย อีกทั้งยังเป็นการยกระดับการแข่งขันมวยไทยไปสู่ระดับสากล
สำหรับแฟนมวยที่ไปชมที่สนาม สามารถเข้าชมการแข่งขันได้ตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป ส่วนแฟนๆทางบ้านสามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทางช่องอมรินทร์ทีวี หมายเลข 34 ตั้งแต่เวลา 18.00 - 20.00 น. สุดท้ายนี้ก็ขอเชิญชวนทุกท่าน มาร่วมชมร่วมเชียร์นักมวยไทยไปพร้อมๆกัน ทั้งในสนามและทางบ้าน รับรองว่ามีความมันส์ เร้าใจ ไม่แพ้การแข่งขันอื่นๆแน่นอน”
การแข่งขัน "ศึกมวยไทย วิถีถิ่นไทย 2023" ได้มีการประกบคู่มวยสุดมันส์ให้ทุกท่านได้รับชมในวันเสาร์ที่ 28 ตุลาคมนี้
คู่แรกเป็นการเจอกันของ นำสุข บุญลานนามวยไทย พบ ไกรทอง สุราษฎร์ยิมส์
คู่ที่ 2 บุเรงนอง มวยหูเบียร์ภาคระนอง พบ เอ็กซ์ซ่า ส.จารุวรรณ
คู่ที่ 3 ฉลามดำ นายกเอท่าศาลา พบ เพชรสยาม จ.ภัทรียากีฬาสยามสุรินทร์
คู่ที่ 4 คมเพชร แฟร์แท็กซ์ พบ คัมแบ็ค ที.เค.ยุทธนา
คู่ที่ 5 ขุนหาญเล็ก เกียรติเจริญชัย พบ รุ่งกิจ บ.รุ่งโรจน์
คู่ที่ 6 คู่เอกของรายการ "กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย" ปะทะ "ตะเภาแก้ว สิงห์มาวิน"
คู่ที่ 7 หยก เบสชะอวด พบ ฟลุ๊คน้อย เกียรติฟ้าลิขิต
คู่ที่ 8 สำราญสิงห์ ศิษย์นายกทวีปตะพง(ศิษย์ฉลองศักดิ์) พบ แหลมสิงห์ ส.เดชะพันธ์
และคู่สุดท้าย คู่ที่ 9 มนต์พระราม ศิษย์เพชรฉลูกัณฑ์ พบ เพชรเมืองเสือ ป.มงคลอินทร์
สำหรับ "ศึกมวยไทย วิถีถิ่นไทย" จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม 2566 ณ เวทีมวยชั่วคราว บริเวณหน้าสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป เปิดให้แฟนหมัดมวยและแฟนมอเตอร์สปอร์ต เข้าชมฟรีเพียงแค่แสดงบัตรเข้าชมการแข่งขันโมโต จีพี 2023 หากไม่มีบัตรเข้าชมการแข่งขัน สามารถซื้อAdmission Ticket 1 วัน ราคา 100 บาท หรือ 3 วัน ราคา 200 บาท นอกจากนี้ยังสามารถชมการถ่ายทอดสดทางช่อง Amarin TV หมายเลข 34 ตั้งแต่เวลา18.00 - 20.00 น. และยังมีคอนเสิร์ตจาก Chang Music Connection นำโดย เนสกาแฟ ศรีนคร และบุ๊ค ศุภกาญจน์ ที่จะมามอบความสุขอย่างต่อเนื่องให้แฟนๆหลังจบการแข่งขันอีกด้วย