‘มาโน’ปลุกแข้งช้างศึกไม่ประมาท นัดสำคัญต้องชนะ’ฟิลิปปินส์’

‘มาโน โพลกิ้ง’ เผยเกมกับฟิลิปปินส์ 14 ธันวาคมนี้สำคัญมากเป็นนัดชี้ชะตาว่าจะได้เข้ารอบต่อไปหรือไม่ ย้ำลูกทีมอย่าประมาทคู่ต่อสู่ เพราะโค้ชรวมทั้งนักเตะฟิลิปปินส์ รู้จักคุ้นเคยกับไทยลีกพอสมควร ยังไม่มองถึงรอบชิงขอโฟกัสทีละนัด ส่วน’ยิม’เผยว่า ยังบอกไม่ได้วาฟอร์มตัวเองตอนนี้ดีที่สุดหรือไม่ แต่จะพยายามทำให้ดีขึ้นอีก 

ความพร้อมก่อนการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 คู่ ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติฟิลิปปินส์  ในวันอังคารที่ 14 ธันวาคมนี้ ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2564 เวลา 11.00 น. (เวลาไทย) สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน จัดงานแถลงข่าวความพร้อมก่อนการแข่งขันขึ้น 

การแถลงข่าวครั้งนี้ ทางทีมชาติไทยได้ส่ง มาโน โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอน เข้าร่วมการแถลงข่าว โดย มาโน โพลกิ้ง กล่าวว่า "เกมนี้คือเกมสำคัญ ที่จะตัดสินได้เลยว่าทีมไหนจะได้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ได้ต่อไป ส่วนสภาพความพร้อมของทีมตอนนี้ นักเตะทุกคนอยู่ในสภาพฟิตสมบูรณ์ พร้อมลงสนามทุกคน แต่ต้องยอมรับว่า เรามีเวลาะหว่างแมตช์ค่อนข้างน้อย เลยทำได้แค่ฟื้นฟูสภาพร่างกายทุกคนเท่านั้น แต่เราได้วิเคราะห์เกมกับเมียนมา และพยายามแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ และรักษาจุดแจ็งจากเกมล่าสุดและทำให้ดีขึ้นในเกมนี้ สิ่งสำคัญคือเราต้องมีสมาธิให้ดี"

"เราเองได้ดูการเล่นของฟิลิปปินส์ มาพอสมควร และส่วนตัวผมก็รู้จัก สกอตต์ คูเปอร์ โค้ชของฟิลิปปินส์ มาเป็นอย่างดี เพราะเขาเคยทำงานในไทยมาก่อน และรู้จักไทยลีกรวมถึงนักเตะไทยเป็นอย่างดี นักเตะของฟิลิปปินส์ หลายคนมีประสบการณ์ในไทยลีกมาแล้ว แม้ทีมชุดนี้จะไม่ได้มีดาวรุ่งมากมาย แต่มีความแข็งแกร่ง และเราต้องห้ามประมาท เกมที่พวกเขา(ทีมชาติฟิลิปปินส์)เล่นกับติมอร์ เห็นได้ชัดว่า ติมอร์ เองส่งตัวสำรองลงหลายคน เลยมองอะไรได้ไม่มาก และเราพยายามวิเคราะห์พวกเขาจากเกมที่พบกับ สิงคโปร์ มากกว่า"

"ส่วนการมองถึงรอบรองชนะเลิศ ผมคิดว่าการจะเป็นแชมป์ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามเราตต้องพร้อมเจอกับทุกทีมอยู่แล้ว เราโฟกัสแค่ตัวเรามากกว่าที่จะต้องพยายามเก็บชัยชนะ และทำได้อย่างสม่ำเสมอ หากต้องเจอกับเวียดนามไม่ว่าจะรอบรองชนะเลิศ หรือ รอบชิงชนะเลิศ เราก็พร้อม ตอนนี้สมาธิหลักของเราคือการเจอกับ ฟิลิปปินส์ เราต้องโฟกัสเกมต่อเกม และพยายามเก็บชัยชนะให้ได้ เพื่อการันตีการเข้ารอบรองชนะเลิศ และทำให้เรามีเวลาซ้อมมากยิ่งขึ้น"

"เรารู้ดีว่าเวียดนามมีความแข็งแกร่ง เราให้เกียรติพวกเขา แต่ไม่ว่าจะรอบไหน สุดท้ายก็ต้องเจออยู่ดีหากเราต้องการเป็นแชมป์ ดังนั้นเป้าหมายของผมคือการพาทีมชาติไทย คว้าชัยชนะมาครองให้ได้"

ทางด้าน’ยิม’วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ กองกลางจากบีจี ปทุม ยูไนเต็ด สานต่อฟอร์ม1แรงจาก ไทยลีก หลังล่าสุดลงมาเป็นตัวสำรอง และยิง 1 ประตู กับ อีก 1 แอสซิสต์ ในเกมที่ชนะเมียนมา 4-0 เปิดเผยว่า

"ผมดีใจมากครับ ที่สามารถทำประตูแรกกับทีมชาติไทยชุดใหญ่ มันตอบยากนะครับ ว่าตอนนี้เป็นจุดที่เราทำได้ดีที่สุดแล้วหรือไม่ ผมจะพยายามทำให้เต็มที่และดีที่สุดต่อไป" วรชิต กล่าว

"เกมต่อไปกับฟิลิปปินส์ ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นเกมที่ยากกว่าเดิม หากเทียบกับสองเกมที่ผ่านมา และเราก็ต้องพยายามทำเต็มที่เพื่อผ่านเกมนี้ไปให้ได้ ทุกคนทำงานกันเต็มที่เพื่อเป็นแชมป์กลุ่ม ผมเองไม่ได้ตั้งเป้าอะไร แค่จะพยายามทำให้เต็มที่ ทำให้ดีที่สุดเท่านั้น ต้องขอบคุณพี่ๆในทีมที่ทำให้เราเล่นได้ดีขึ้น และขอบคุณแฟนบอลที่เป็นกำลังใจให้เรา"