นายศิริ สาระผล อุปนายกสมาคมกีฬานักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นประธานในงานแถลงข่าวความพร้อมของทัพนักกีฬาไทยที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน วันที่ 23 กันยายน - 8 ตุลาคม 2566 ในงาน "มีต เดอะ เพรส เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19" รอบที่ 4 จากทั้งหมด 6 รอบ โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พร้อมผู้แทนจาก 6 สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมเปิดเผยความพร้อมและความคาดหวัง ที่ห้องประชุม 222 สนามราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2566
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในงานแถลงข่าว มีต เดอะ เพรส มักจะเป็นการตั้งเป้าที่ได้ค่อนข้างใกล้เคียงกับผลที่ออกมาจริง หวังว่าในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ทัพนักกีฬาไทยจะทำผลงานได้ไม่น้อยหน้าครั้งก่อน แน่นอนว่าครั้งนี้จีนเป็นเจ้าภาพ โอกาสเป็นเจ้าเหรียญทองสูงมากๆ รวมถึงญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ก็น่ากลัว คงแทรกได้ยาก แต่ถ้าหากเราทำได้ตามเป้าหมายของเราก็น่าจะสามารถเบียดกับพวกคาซัคสถาน, อิหร่าน, อินเดีย หรือชาติชั้นนำอื่นๆ ได้ โดยเป้าหมายของเราจะต้องเป็นเบอร์ 1 ของอาเซียนให้ได้ และเป็น1ใน10 เอเซีย แต่ต้องยอมรับว่าเวียดนาม, อินโดนีเซีย แข็งแกร่งขึ้น และยังมีสิงคโปร์หรือมาเลเซียที่ถนัดกีฬาทางน้ำอีก ดังนั้นประมาทใครไม่ได้เลย ส่วนจำนวนเหรียญยังประเมินได้ลำบาก แต่คาดหวังว่าจะต้องมากกว่า 11 ทองที่ได้จากเอเชียนเกมส์หนก่อน และจากที่ประเมินดูคิดว่ามีโอกาสลุ้นไปถึง 20 เหรียญทองได้
“ช่วงโค้งสุดท้ายอยากฝากเรื่องการดูแล เก็บตัวนักกีฬา ระวังเรื่องของอาการบาดเจ็บให้ดี เพราะจากโอลิมปิกเกมส์มีนักกีฬาบาดเจ็บตอนช่วงสุดท้ายก่อนแข่งทำให้พลาดโอกาสไป อยากให้นักกีฬามีความพร้อมที่สุดทั้งร่างกายและจิตใจ” ผู้ว่ากทท. กล่าวปิดท้าย
พลอากาศเอก ระพีพัฒน์ หลาบเลิศบุญ ประธานเทคนิคสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้เราส่งนักกีฬาทีมหญิงไปเทรนนิ่งแคมป์ที่ประเทศคาซัคสถาน และพรุ่งนี้ก็จะส่งนักกีฬาชายไปเทรนนิ่งแคมป์ที่ประเทศอุซเบกิสถาน และจะไปรวมตัวกันที่ประเทศเกาหลีใต้ ก่อนจะเดินทางไปแข่งขันจีน ในซีเกมส์เราโดดเด่นอยู่แล้วจึงได้เหรียญมาเยอะ แต่ในเอเชียนเกมส์นี้เราต้องเจอมหาอำนาจจากวงการชกมวยแตกมาจากประเทศที่แข็งแกร่งอย่างรัสเซีย ทั้งอุซเบกิสถาน ที่ผลงานแซงชาติเก่งๆ อย่างคิวบาขึ้นมาแล้ว นอกจากนี้ยังมี คาซัคสถาน และ คีร์กิซสถาน นอกจากนี้ยังมีจีนรวมทั้งอินเดียที่พัฒนาขึ้นมาอย่างน่ากลัว เหล่านี้ขวางหน้าเราอยู่ อย่างไรก็ดีด้วยที่เราเก็บตัวมาอย่างยาวนานจากการสนับสนุนของกกท. เราพยายามศึกษาการชกของนักกีฬาชาติต่างๆ และวิเคราะห์ว่าจะแก้ทางอย่างไร เราจ้างโค้ชชาวคิวบามือดีถึง 2 คน เพื่อมาช่วยแก้ทางคู่แข่ง เชื่อว่าจะทำให้ชาวไทยมีรอยยิ้มแห่งความสุข อาจไม่ได้เหรียญเยอะเหมือนที่ซีเกมส์ล่าสุดที่ได้ 9 เหรียญทอง อีกทั้งครั้งนี้มวยสากลจะใช้เวทีเอเชียนเกมส์เก็บแรงกิ้งนักกีฬาไปโอลิมปิกโดยจะเอา 2 อันดับแรกคว้าสิทธิ์ทันที ซึ่งเราประเมินแล้วว่าเราจะได้เหรียญกลับมาแน่ ตั้งไว้ที่ 1 ทอง 1 เงิน 2 ทองแดง ไว้ก่อน
นายกิตติศักดิ์ ชัยมงคลตระกูล เลขาธิการสมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เจ้าภาพให้โปรอาชีพมาแข่งด้วย ดังนั้นก็อยู่ที่แต่ละประเทศจะจัดเต็มแค่ไหน ส่วนของประเทศไทยคัดจากเวิลด์แรงค์กิ้งเป็นหลัก ยกเว้นบางคนที่จะติดแข่งขันในช่วงเวลาเดียวกัน ในส่วนของนักกีฬาชายเราใช้โปรกอล์ฟระดับเอเชียนทัวร์หมดเลย ทั้ง “เพชร” พชร คงวัดใหม่, “โปรดราก้อน” อติรุจ วินัยเจริญชัย, “โปรภูมิ” ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ และ แดนไท บุญมา ส่วนผู้หญิงมีสมัครเล่น 1 คน คือ “แพงกี้” แอลล่า แกลิทสกีย์ กับโปรอาชีพ 2 คนคือ “โปรปลาย” พัชรจุฑา คงกระพันธ์ และ “โปรเปียโน” อภิชญา ยุบล ซึ่งเรื่องความหวังคิดว่าจะมีเหรียญใดเหรียญหนึ่ง แต่ก็ต้องยอมรับว่าด้วยความที่ใช้กอล์ฟอาชีพทำให้ดูฟอร์มคู่แข่งยาก และเชื่อว่าจีนน่าจะจัดเต็มมาแน่นอน หรือเกาหลีใต้เองก็อาจจะเอามือท็อปมา ดังนั้นมองว่าลุ้นเหรียญใดเหรียญหนึ่งไว้ก่อนดีกว่า
ด้าน พล.อ.อ.เรืองวิทย์ ศรีนวลนัด ผู้จัดการทีมกีฬาฟันดาบทีมชาติไทย กล่าวว่า ครั้งนี้ทีมฟันดาบไทยส่งครบทั้ง 12 ทอง โดยนักกีฬาชุดนี้เป็นเลือดใหม่ที่กำลังทำผลงานพัฒนาฝีมือ โดยความหวังสูงสุดคือเซเบอร์ชาย วรกันต์ ศรีนวลนัด ที่ได้แชมป์ซีเกมส์มาและเคยได้แชมป์เยาวชนเอเชียมาแล้ว หวังว่าครั้งนี้จะทำผลงานได้ดี นอกจากนี้ยังมี “เอแคลร์” ชญานุศภัฒค์ ชินนะเกิดโชค ในรุ่นฟอยล์หญิง อายุยังน้อย เพิ่งได้รองแชมป์เอเชียที่ผ่านมา รวมถึง นทกช หวังไพสิฐ ประเภทดาบฟอยล์ชายอีกหนึ่งคน ความหวังโดยรวมจะต้องเข้า 1 ใน 8 ให้ได้ก่อนทั้งทีมและบุคคล ซึ่งคู่แข่งแข็งแกร่งทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นจีน, เกาหลีใต้ หรือญี่ปุ่น ที่เป็นท็อป 10 ของโลก รวมถึงยังมีฮ่องกง, อิหร่าน, คาซัคสถาน, สิงคโปร์ หรือเวียดนามเอง ส่วนการลุ้นเหรียญของเราคิดว่าจะเป็นประเภทเซเบอร์ชาย ซึ่งก็ต้องแล้วแต่วันด้วย หวังว่าพอถึงวันแข่งจะเป็นวันที่ดีของไทย
นายลอองยศ วงษ์เงิน ผู้ฝึกสอนทีมเบรกกิ้งแดนซ์ สมาคมกีฬาลีลาศแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ด้วยความที่เป็นกีฬาใหม่ เพิ่งปรับมาเป็นการแข่งขันชิงเหรียญกันครั้งแรก ยังไม่มีประวัติศาสตร์ว่าใครเก่งกว่าใคร และนักกีฬาก็อาจจะมีความกดดัน ผลการแข่งขันคาดได้ยาก ซึ่งก่อนหน้านี้ที่แข่งขันแบบกีฬาสาธิตก็มีจีน, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น หรือไต้หวัน ที่เป็นผู้นำในเอเชีย โดยคาดหวังว่าจะได้เหรียญทองแดงในประเภทชายเอาไว้ก่อน เพราะในซีเกมส์ที่ผ่านมา นักกีฬาเราได้เหรียญเงินและทองแดงมา
พลเรือโท ชนินทร์ แสงเฟื่อง ผู้จัดการทีมปัญจกีฬาทีมชาติไทย เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาปัญจกีฬาแห่งประเทศไทยเรายังมีนักกีฬาจำนวนไม่มาก แต่เราก็ตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่ และในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้เราต้องขอบคุณทางการกีฬาแห่งประเทศไทยที่ให้โควต้านักกีฬาเราจำนวนถึง 8 คน แบ่งเป็น ชาย 4 หญิง 4 ซึ่งจากการประเมินแล้วในประเภทนักกีฬาหญิงเราค่อนข้างสู้ต่างชาติยาก เราจึงพยายามเค้นฝั่งนักกีฬาผู้ชายว่าต้องทำเช่นไรเราถึงจะเข้าไปให้ถึงรอบลึกๆ ได้ ซึ่งกีฬาปัญจกีฬานั้น คนๆ เดียวต้องลงแข่งถึง 5 ชนิด ประกอบด้วย วิ่ง, ยิงปืน, ขี่ม้า, ฟันดาบ และ ว่ายน้ำ โดยการจะหานักกีฬาที่เก่งทุกอย่างเป็นสิ่งที่เลือดตาแทบกระเด็น สุดท้ายเราคัดมาได้ 4 คนนี้ที่จะไปหางโจว ทั้งนี้เมื่อระหว่างวันที่ 7-17 ส.ค.ที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้รับเชิญจากประเทศเกาหลีใต้เพื่อไปร่วมเข้าแคมป์แข่งขัน ซึ่งนักกีฬาเราสู้ได้ในระดับอายุเดียวกัน หยิบเหรียญมาได้ แต่ถ้าไปสู้รุ่นใหญ่ค่อนข้างหนัก อย่างไรก็ดีในประเภททีมมีโอกาสหยิบเหรียญทองแดงได้เหมือนกันแต่ก็คงต้องดูเรื่องโชคในการขี่ม้าของแต่ละคนว่าจะเกิดการพยศหรือเหตุการณ์เฉพาะหน้าอะไรเกิดขึ้นหรือไม่
ล่าสุดมีข่าวร้ายมาเพิ่มอีกคือมีโรคระบาดของม้าในค่ายที่นักกีฬาไทยฝึกซ้อม ทำให้นักกีฬาฝึกซ้อมไม่ได้ในช่วงเวลาที่เหลือก่อนจะเดินทางไปจีน ดังนั้นเบื้องต้นคงต้องตั้งเป้าผ่านรอบแรกไว้ให้ได้ก่อน
นายบุญเกียรติ ประเสริฐโกศลกุล ผู้จัดการทีมหมากรุกเซี่ยงฉีทีมชาติไทย เปิดเผยว่า นี่คือกีฬาหมากรุกจีนที่ในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ไทยเราส่งเข้าร่วมครั้งแรก โดยเราส่งแข่ง 3 ประเภท ประกอบด้วย บุคคลชาย, บุคคลหญิง และ ทีมผสม โดยในศึกชิงแชมป์เอเชียเมื่อระหว่างวันที่ 5-11 ส.ค.ที่ผ่านมา ผลงานเราใช้ได้ เราชนะมือวางอันดับและคว้าอันดับ 8 จากทั้งหมด 17 ประเทศที่เข้าร่วม ถือเป็นเป็นกีฬาที่ต้องใช้สติปัญญาอันเฉียบแหลม ตนเชื่อว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ในอดีตราวๆ 40-50 ปีก่อนเราเคยเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย ซึ่งเราก็ว่างเว้นมานาน ในครั้งนี้ถ้าไม่นับจีนก็ยังมี ฮ่องกง สิงคโปร์ และอีกหลายชาติที่เราเป็นรอง อยู่ในวันแข่งว่าเราพักผ่อนเตรียมตัวดีมากน้อยแค่ไหน เราคงต้องลุนประเภทชายเดี่ยว แต่เบื้องต้นคงหวังเข้ารอบลึกๆ ไว้ก่อน
สรุป มีต เดอะ เพรส เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 รอบที่ 4 ทั้ง 6 สมาคมกีฬาตั้งเป้าคว้ารวม 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 3 เหรียญทองแดง ประกอบด้วย 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง จากมวยสากล และ 1 เหรียญทองแดงจากลีลาศ รวมหลังจัดงาน มีต เดอะ เพรส เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 จำนวน 4 รอบ ทั้งหมด 28 สมาคมกีฬาที่เข้าร่วมงานแถลงความพร้อมตั้งเป้าคว้าเหรียญรวมแล้วทั้งสิ้น 10 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 15 เหรียญทองแดง
สำหรับกำหนดการ มีต เดอะ เพรส เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 รอบต่อไปรอบที่ 5 จากทั้งหมด 6 รอบ จะมีขึ้นในวันพุธที่ 23 สิงหาคม 2566 ที่ห้องประชุม 222 สนามราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยจะมี 11 สมาคมกีฬา ประกอบด้วย กรีฑา, วอลเลย์บอล, บาสเกตบอล, เบสบอล, ซอฟท์บอล, แฮนด์บอล, ฮอกกี้, คริกเก็ต, รักบี้, ยิงธนู และ จักรยาน