นายไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นประธานในงานแถลงข่าวความพร้อมของทัพนักกีฬาไทยที่จะเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน วันที่ 23 กันยายน - 8 ตุลาคม 2566 ในงาน "มีต เดอะ เพรส เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19" รอบที่ 2 โดยมีผู้แทนจาก 4 สมาคมกีฬาฯ ร่วมเปิดเผยความพร้อม ที่ห้องประชุม 222 สนามราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2566
"โค้ชเล็ก" ร้อยเอก(หญิง) ชนาธิป ซ้อนขำ ผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ตอนนี้อยู่ในช่วงฟื้นฟูนักกีฬาหลังจากสมาคมกีฬาเทควันโดฯ ส่งนักกีฬาทีมชาติ 10 คนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน ซึ่งนักกีฬาหลายคนทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากนี้จะมีแผนเตรียมตัวเข้าสู่การแข่งขันเอเชียนเกมส์สัปดาห์หน้าโดยจะนำนักกีฬาไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศเกาหลีใต้ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ก่อนจะเดินทางไปยังเมืองหางโจว ประเทศจีนเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน
"สำหรับเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ สมาคมฯ ส่งนักกีฬาเข้าร่วมทั้งหมด 8 รุ่น ในประเภทต่อสู้ แบ่งเป็นชาย 4 คน และหญิง 4 คน นำโดย "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ แชมป์เก่าและเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2020 ส่วนฝั่งชาย นักกีฬาหลายคนกำลังทำผลงานได้ดีไม่ว่าจะเป็น "หยู" บัลลังก์ ทับทิมแดง ที่เพิ่งจะไปคว้าเหรียญเงิน ศึกเทควันโดเยาวชนโลกมาได้ แม้ว่าศักยภาพนักกีฬาของเรามีดีพอที่จะทะลุไปคว้าเหรียญได้ แต่เบื้องต้นตั้งเป้าไว้ที่ 1 เหรียญทองจากน้องเทนนิสไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เป็นการกดดันนักกีฬา อย่างไรก็ตามแม้ว่า "เทนนิส" จะยืนเป็นเบอร์ 1ในรุ่น แต่ในการแข่งขันที่ผ่านมาหลายทัวร์นาเมนต์ เราเห็นแล้วว่าหลายชาติโดยเฉพาะจีน พยายามที่จะลดน้ำหนักนักกีฬาจากรุ่น 53 กก.ลงมาเพื่อจะล้มเทนนิส ซึ่งจะต้องดูนักกีฬาตั้งแต่รุ่น 49 กก. ไปจนถึง 53 กก. ยังประมาทใครไม่ได้" ผู้ฝึกสอนจอมเตะไทยกล่าว
"โค้ชเล็ก" กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของประเภทพุ่มเซ่ ครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงตัวหัวหน้าผู้ฝึกสอนใหม่ อีกทั้งฝ่ายจัดการแข่งขันมีการลดประเภทการแข่งขันเหลือเพียงประเภทบุคคลชายและหญิง อีกทั้งประเภทพุ่มเซ่ ตัดสินด้วยสายตาทำให้ไม่สามารถคาดเดาได้ แม้ว่าจะได้ 1 เหรียญทองในครั้งที่ผ่านมาก็ตาม
ขณะที่ "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เทควันโดสาวมือ 1 ของโลกรุ่น 49 กก. เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2020 เผยว่า เอเชียนเกมส์ครั้งนี้จะเป็นเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 3 ของตัวเอง โดยครั้งแรกได้เหรียญทองแดง และครั้งที่ 2 ได้เหรียญทอง ครั้งนี้คิดว่าจะเป็นเอเชียนเกมส์ ครั้งสุดท้ายของตัวเอง ก่อนที่จะอำลาทีมชาติไทย ก็อยากจะคว้าเหรียญทองมาครองให้ได้ ส่วนคู่แข่งที่น่ากลัว เป็นอิหร่านและเจ้าภาพจีน ส่วนชาติอื่นๆ ก็ยังไม่สามารถประมาทใครได้ อาจจะมีม้ามืดขึ้นมาได้ตลอดเวลา ต้องทำการบ้าน ศึกษาคู่แข่งตลอด ซึ่งทุกครั้งที่แข่งขันคู่ต่อสู้ก็จะแก้เกมเราทุกครั้ง ดังนั้นเราก็จะต้องปรับเพิ่มเทคนิคใหม่ๆ เพิ่มลูกเซอร์ไพรส์ เพื่อไม่ให้คู่แข่งจับทางได้
น.อ.คมกริช ทับแก้ว ผู้ฝึกสอนทีมตะกร้อไทย กล่าวว่า เอเชียนเกมส์ครั้งนี้เจ้าภาพให้ส่งได้ 4 จาก 6 อีเวนต์ ซึ่งไทยส่งทีมเดี่ยวชาย-หญิง และทีมชุดชาย-หญิง ซึ่งเจ้าภาพให้ส่งรายชื่อได้ถึง 15 จาก 12 คน ซึ่งทีมชาติไทยจะไปตัดตัวกันที่จีนอีกครั้งหนึ่ง โดยในรายชื่อของทีมชายมีการเปลี่ยนแปลงจากชุดซีเกมส์หลายคน ทั้ง “ปุ้ย” พรชัย เค้าแก้ว หรือ “ยาว ปืนใหญ่” สิทธิพงษ์ คำจันทร์ ก็จะกลับมามีชื่อใน 15 อีกครั้งแต่ตอนสุดท้ายที่ตัดชื่อต้องไปดูหน้างานอีกที ส่วนทีมหญิงส่วนใหญ่ยังเป็นชุดที่กัมพูชาอยู่
“ในส่วนของความพร้อมนักกีฬาถือว่าสมบูรณ์มากๆ เมื่อเดือนก่อนมีการจัดคิงส์คัพที่ประเทศไทย เราก็ได้แชมป์มา ซึ่งนักกีฬาก็ต่อยอดมาจากคิงส์คัพ ดังนั้นน่าจะเป็นการแข่งขันที่สนุก ส่วนความหวังต้องคว้าให้ครบ 4 ทองเหมือนเดิม”
น.อ.คมกริช กล่าวปิดท้ายว่า สำหรับตะกร้อหลายคนอาจจะมองว่าง่าย แต่มันมีความกดดันสูงมากๆ เพราะต้องเหรียญทองเท่านั้น บางครั้งก็อาจจะมีโอกาสผิดพลาดได้แค่เรายังไม่เคยพลาดเท่านั้นเอง ทีมชายก็ต้องเจอทั้งมาเลเซีย, เกาหลีใต้ หรือตอนนี้ยังมีอินโดนีเซีย-อินเดีย ที่ไล่จี้มาอีก ส่วนทีมหญิงก็ต้องวัดกับเวียดนาม ซึ่งหลายๆ ทีมเดินทางมาเก็บตัวที่ไทยทั้งนั้น อย่างไรก็ตามเราจะเตรียมทีมอย่างเข้มข้นเพราะไม่อยากผิดพลาด จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้" ผู้ฝึกสอนตะกร้อทีมชาติไทย กล่าว
ร้อยโท(หญิง) พัชรี พิไชยแพทย์ ผู้ฝึกสอนกีฬายูโดทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ตอนนี้มีความพร้อมอยู่ที่ 90 เปอร์เซนต์แล้ว โดยผลงานเอเชียนเกมส์ครั้งที่แล้วได้ 2 เหรียญทองแดง แต่หนึ่งในสองคนนั้นคือ กชกร วรสีหะ เลิกเล่นไป ส่วนอีกคนที่ได้เหรียญมาคือ โอเอดะ อิคุมิ ยังร่วมทัพไปด้วยในครั้งนี้โดยที่หางโจว ครั้งนี้เราส่งนักกีฬาไปทั้งหมด 10 คน ตั้งเป้าไว้ที่ 3 เหรียญทองแดง ในรุ่น 78 กก., 73 กก. และ 90 กก. สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องของการจับสลากแบ่งสาย เราหวังว่าผลการจับสลากเมื่อถึงวันแข่งนักกีฬาเราจะสามารถเลี่ยงการพบกับตัวระดับโลกอย่าง ญี่ปุ่น หรือ เกาหลีใต้ ได้
พลเอกสุรชาติ จิตต์แจ้ง นายกสมาคมกีฬาคาราเต้แห่งประเทศไทย เผยว่า นักกีฬาของเราตอนนี้มีความพร้อมทั้งร่างกายและขวัญกำลังใจ โดยเมื่อปลายเดือนที่แล้วเราส่งพวกเขาไปหาประสบการณ์ระดับเอเชียที่ประเทศมาเลเซียมา ทำให้นักกีฬามีความฟิตพร้อมมาก ทว่านักกีฬาส่วนใหญ่ยังเป็นหน้าใหม่ พวกเขายังขาดประสบการณ์เวทีต่างชาติ สมาคมจึงพยายามส่งแข่งนอกประเทศบ่อย เริ่มตั้งแต่ซีเกมส์ล่าสุดที่ผ่านมา โดยเอเชียนเกมส์ครั้งที่แล้วเราได้มา 1 เหรียญทองแดงจาก "น้ำผึ้ง" มนสิชา สกุลรัตนธารา ส่วนครั้งนี้จะส่งนักกีฬาเข้าร่วม 8 คน ชาย 4 หญิง 4 ซึ่งเป็นหน้าใหม่ไปเอเชียนเกมส์ครั้งแรกถึง 6 คน แต่ยังมี น้ำผึ้ง มนสิชา นำทัพไปด้วย โดยเรามีสิทธิ์เข้าไปหยิบเหรียญ 3 รุ่น ในประเภทท่ารำแต่ประสบการณ์เราไม่มาก นักกีฬาจากประเทศ อิหร่าน หรือ คาซัคสถาน ดังนั้นคงตั้ง 1 เหรียญทองแดงเท่ากับครั้งที่แล้วไว้ก่อน
สรุป มีต เดอะ เพรส เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 รอบที่ 2 ทั้ง 4 สมาคมกีฬาตั้งเป้าคว้ารวม 5 เหรียญทอง 4 เหรียญทองแดง รวมหลังจัดงาน มีต เดอะ เพรส เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 จำนวน 2 รอบ ทั้งหมด 12 สมาคมกีฬาที่เข้าร่วมงานแถลงความพร้อมตั้งเป้าคว้าเหรียญรวมแล้วทั้งสิ้น 7 เหรียญทอง 5 เหรียญทองแดง
สำหรับกำหนดการ มีต เดอะ เพรส เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 รอบที่ 3 วันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม 2566 ที่ห้องประชุม 222 สนามราชมังคลาฯ หัวหมาก จะมี 10 สมาคมกีฬา คือ แบดมินตัน, เทนนิส, เทเบิลเทนนิส, ซอฟท์เทนนิส, สควอช, อีสปอร์ต, คูราช, ปีนหน้าผา , ยูยิตสู และ วูซู ร่วมแถลงความพร้อม