นายไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นประธานในงานแถลงข่าวความพร้อมของทัพนักกีฬาไทยที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 23 กันยายน - 8 ตุลาคม 2566 ในงาน "มีต เดอะ เพรส เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19" รอบที่ 1 โดยมี "บิ๊กต้อม" ธนา ไชยประสิทธิ์ รองประธานและเหรัญญิก คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าคณะนักกีฬาไทยชุดสู้ศึกเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 พร้อมผู้แทนจาก 8 สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมเปิดเผยความพร้อมและความคาดหวัง ที่ห้องประชุม 222 สนามราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2566
นายไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทุกครั้งที่ทัพนักกีฬาไทยเราจะเข้าร่วมมหกรรมกีฬาใหญ่ๆ สมาคมฯจะทำการจัดงานแถลงข่าวเพื่อประเมินความพร้อมและโอกาสที่ทัพไทยเราจะคว้าเหรียญทอง โดยเมื่อปี 2014 เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เราประเมินไว้ 14 เหรียญทอง ทัพไทยคว้ามาได้ 12 เหรียญทอง จบอันดับที่ 6 ของตารางสรุปเหรียญส่วน เมื่อปี 2018 เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่กรุงจาการ์ตา-เมืองปาเลมบัง ประเทศอินโดนีเซีย ประเมินไว้ 20 เหรียญทอง ทัพไทยคว้ามาได้ 11 เหรียญทอง จบอันดับที่ 12 ของตารางสรุปเหรียญ ส่วนครั้งนี้เป็นการจัดเอเชียนเกมส์ที่เลื่อนมา 1 ปีเนื่องด้วยไวรัสโควิด โดยจัดขึ้นที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ก็หวังว่าครั้งนี้สมาคมกีฬาไทยทุกสมาคมและนักกีฬาไทยทุกคนจะสู้เต็มที่และทำให้คนไทยมีความสุขอย่างเช่นทุกๆ ครั้งที่ผ่านๆ มาต่อไป
นายวิสุทธิ์ ตั้งวาริธร อุปนายกสมาคมกีฬาเอ็กซ์ตรีมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เอเชียนเกมส์ครั้งนี้สมาคมส่งเข้าร่วม 3 ประเภท ประกอบด้วย สเก็ตบอร์ด, อินไลน์สปีด และ อินไลน์ฟรีสไตล์ ส่งนักกีฬาประเภทละ 8 คน โดยในประเภทสเก็ตบอร์ดเรายังค่อนข้างเป็นรองชาติต่างๆ ในเอเชีย แต่ที่เราโดดเด่นจริงๆ คือประเภท อินไลน์ฟรีสไตล์ ซึ่งเราเป็นระดับท็อปในเอเชีย ดังนั้นเราจึงหวังจากประเภทอินไลน์ฟรีสไตล์นี้ 2 เหรียญทอง
นอกจากนี้ นายวิสุทธิ์ ตั้งวาริธร ในฐานะนายกสมาคมกีฬามวยปล้ำฯ ยังเผยด้วยว่า สมาคมฯเราเพิ่งมีผลงานที่ดีจากกีฬาซีเกมส์ที่ผ่านมาล่าสุดที่ประเทศกัมพูชา เราได้เหรียญทองมา ทำให้ได้งบประมาณการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งขาติให้เตรียมไปฝึกซ้อมที่คาซัคสถานในเดือนหน้า ซึ่งเป็นประเทศอันดับหนึ่งของเอเชียในกีฬามวยปล้ำ ก็คิดว่าจะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาเพื่อความพร้อมก่อนไปหางโจว โดยเราจะส่งแข่งทั้งหมด 11 คน เพราะก่อนหน้านี้เพิ่งบาดเจ็บไป 1 คน ส่วนความหวังตอนนี้คงขอแค่หวังลุ้นเหรียญรางวัลไว้ก่อน
ร.ต.อ.วัลลภ จิราทรวัฒนา รองเลขาธิการสมาคมกีฬาว่ายน้ำฯ เปิดเผยว่า เอเชียนเกมส์ครั้งนี้เราส่งทัพใหญ่ แบ่งเป็น ว่ายน้ำ 20 คน, โปโลน้ำทีมชาย-หญิง ทีมละ 13 คน รวมเป็น 26 คน, กระโดดน้ำ 4 คน, ระบำใต้น้ำ 12 คน และ ว่ายน้ำมาราธอน 4 คน รวมทั้งหมดเป็นจำนวน 66 คน โดยครั้งนี้เราผสมผสานทั้งนักกีฬาหน้าใหม่และตัวเก๋ารวมกัน เราตั้งความหวังไว้ที่ โปโลน้ำทีมหญิง ที่ดูแล้วมีโอกาสมากที่สุด ซึ่งในเอเชียนเกมส์ครั้งที่แล้วทีมโปโลน้ำหญิงเราได้อันดับที่ 4 ครั้งนี้น่าจะติด 1 ใน 3 ได้ ต้องยอมรับว่าโปโลน้ำนั้น จีน-ญี่ปุ่นนั้นเป็นระดับแชมป์โอลิมปิก นอกจากนี้ก็ยังมีเกาหลีใต้, คาซัคสถาน และ อุซเบกิสถาน ที่เหนือกว่าเรา ส่วน ว่ายน้ำ ก็หวังว่านักกีฬาไทยจะเข้ารอบชิงชนะเลิศทุกรายการ ส่วนกีฬาอื่นๆ ยังเป็นการเข้าร่วมใหม่ในระดับเอเชียนเกมส์ คงยังต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อไป
อาจารย์สุจินต์ (สือ จิน โบ) ผู้ฝึกสอนกีฬาหมากล้อมทีมชาติไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ส่งนักกีฬาแข่ง 3 ประเภท ประกอบด้วย บุคคลชาย, ทีมชาย และ ทีมหญิง โดยมีนักกีฬา ชาย 6 คน และ หญิง 4 คน โดยในช่วงเวลาการเก็บตัวที่ผ่านมาเราได้พยายามดูจุดเด่น-จุดด้อย และจุดที่ต้องปรับปรุงของนักกีฬาแต่ละคน อีกทั้งได้ใช้โปรแกรม Ai ของหมากล้อมที่มีความเก่งกาจ มาช่วยทดสอบว่าหมากการเล่นของนักกีฬาไทยคนนั้นๆ ดีหรือไม่ดีด้วย เพื่อให้การวางหมากของนักกีฬาเราออกมาแม่นยำมากที่สุด โดยในเอเชียนส์เกมส์ ปี 2010 ที่เมืองกว่างโจว ประเทศจีนทัพหมากล้อมไทยเราไม่ได้เหรียญรางวัลกลับมา แต่ในรายการเอเชียนอินดอร์และมาเชียลอาร์ตเกมส์ ปี 2013 ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เราได้เหรียญทองแดงในประเภททีมหญิงมา
"ดังนั้นเอเชียนเกมส์ครั้งนี้จึงหวังไว้ที่ทีมหญิงว่ามีโอกาสเป็นไปได้ แต่ก็ค่อนข้างที่จะเหนื่อย เพราะผู้นำของโลกในกีฬาชนิดนี้ล้วนอยู่เอเชียทั้งหมด อาทิ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และใต้หวัน ถ้าจะหวังเหรียญก็ต้องฝ่าฟัน 4 ประเทศนี้ให้ได้ อย่างไรก็ดีเราได้ส่งนักกีฬาไปเรียนที่เมืองจีน 2 ปีเพื่อฝึกฝนกีฬาชนิดนี้ และในอดีตเราก็เคยชนะนักกีฬาจีนมาได้เหมือนกัน ดังนั้นในประเภทบุคคลเราก็มีโอกาสทำได้ดี และนักกีฬาหญิงของเราที่เข้าร่วมครั้งนี้ก็เป็นระดับ 4 ดั้งทั้งหมด ซึ่งดีกว่าทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ใช่แค่เรื่องฝีมือ คงต้องอาศัยโชคในการจับสลากแบ่งสายรอบแรกด้วย"
นางสาวรุ่งกานต์ แสงทองสกุลเลิศ กรรมการบริหารสมาคมกีฬายิมนาสติกฯ เปิดเผยว่า นักกีฬาของสมาคมที่จะส่งแข่งในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้แบ่งออกเป็น ยิมศิลป์ ชาย 5 คน, ยิมศิลป์ หญิง 3 คน และ ยิมนาสติกลีลา 3 คน รวมทั้งหมด 11 คน โดยในช่วงปีหลังมานี้เรามีลำดับผลงานการได้เหรียญรางวัลที่ดีขึ้นและมีการนำผู้ฝึกสอนที่มีฝีมือจากต่างประเทศเข้าช่วยทีมชาติด้วย ต้องยอมรับว่า จีน ญี่ปุ่น คาซัคสถาน มีฝีมือระดับระดับโลก คงต้องพยายามตั้งเป้าไว้ว่าจะทำอย่างไรให้นักกีฬาไทยผ่านเข้าสู่ 1 ใน 8 ของรอบไฟนัลให้ได้สำเร็จ
นายชยวัฒน์ พิเศษสิทธิ์ นายกสมาคมกีฬาบริดจ์ฯ เผยว่า เอเชียนเกมส์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่เราเข้าร่วม ครั้งนี้ยอมรับว่าหินมาก เปิดชิงชัย 3 เหรียญทอง แม้สมาคมจะเตรียมนักกีฬามากว่า 2 ปี แต่ในระดับเอเชียนเกมส์ยังคงเป็นระดับที่เราเป็นรองเขา ลึกๆ แล้วเราหวังเล็กๆ ว่าจะได้เหรียญใดเหรียญหนึ่ง แต่คงไม่กล้าคาดหวังสูง
นาวาเอก เพชรเกษม รตาภรณ์ รองเลขาธิการสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นฯ เปิดเผยว่า สมาคมทำการส่งนักกีฬาเข้าร่วมเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ชาย 7 รุ่น และ หญิง 7 รุ่น คงยังไม่สามารถฟันธงได้เพราะยังไม่เห็นรายชื่อคู่แข่ง เนื่องจากจะมีสนามควอลิฟายน์โอลิมปิกเกมส์ที่ซาอุดิอาระเบียและที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ถึงตอนนั้นคงจะได้เห็นนักกีฬา และเราก็จะใช้ 2 สนามนี้เตรียมความพร้อมนักกีฬาให้มากขึ้นด้วย ยังไม่อยากพูดว่าจะได้เหรียญทองแน่เดี๋ยวจะเป็นการกดดันนักกีฬาของเราเอง อย่างไรก็ดีทุกคนจะพยายามทำให้คนไทยมีความสุข
นายสหพล นาควานิช นายกสมาคมกีฬาหมากรกสากลฯ เปิดเผยว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ทัพหมากรุกทีมชาติไทยได้ร่วมกีฬาระดับเอเชียนเกมส์ โดยจะร่วมชิงชัยทั้งหมด 4 ประเภท ประกอบด้วย ราปิด ชาย, สแตนดาร์ด ชาย, ราปิด หญิง และ สแตนดาร์ด หญิง โดยประเภทราปิดคือเกมเร็ว 15 นาที ส่วนสแตนดาร์ดจะใช้เวลาแข่ง 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยล่าสุดนักกีฬาไทยเราเพิ่งได้เหรียญรางวัลในระดับอินเตอร์เนชันแนลที่ประเทศจีนในรอบ 30 ปีด้วย แต่แชมป์โลกปัจจุบันคือ จีน ทั้งชายและหญิง รองมาคือ อินเดีย พูดตรงๆ ว่าเราจะทำให้ดีที่สุดแต่ยอมรับว่าระดับห่างกันพอสมควร ไม่อยากขายฝัน ครั้งนี้เป็นประสบการณ์ครั้งแรกในเอเชียนเกมส์ของเราด้วย
ขณะที่ "บิ๊กต้อม" ธนา ไชยประสิทธิ์ รองประธานและเหรัญญิก คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าคณะนักกีฬาไทยชุดสู้ศึกเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเราได้มีการแจ้งสมาคมกีฬาของไทยที่จะเข้าร่วมเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ไปทุกๆ สมาคมถึงกำหนดการและมาตรการต่างๆ ที่เจ้าภาพจีนตั้งไว้ โดยครั้งนี้เจ้าภาพกำหนดให้นักกีฬาเดินทางไปก่อนแข่งขันจริง 3 วัน และเดินทางกลับหลังแข่งขันเสร็จ 1 วัน โดยในหมู่บ้านนักกีฬาประจำเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 19 นี้ เชื่อว่าด้วยเหตุการณ์โควิดที่เลื่อนการแข่งขันออกมา 1 ปี จะทำให้จีนมีความพร้อมมากๆ ในการจัดต่างๆ และพวกเขามีศักยภาพสูงมากอยู่แล้ว นอกจากนี้จีนยังได้แจ้งให้ผู้เข้าร่วมทุกคนตรวจ ATK ก่อน 24 ชั่วโมงก่อนขึ้นเครื่องเดินทางไปยังประเทศจีน และจะมีการตรวจทุก 3 วันเมื่ออยู่ในทัวร์นาเมนต์การแข่งขัน รวมทั้งจะมีการใช้แอพลิเคชั่นติดตามตัวของเจ้าภาพเพื่อติดตามการเดินทางของนักกีฬาว่าเดินทางไปไหนอย่างไร เพื่อป้องกันความปลอดภัยต่างๆ จากเรื่องของโควิด
"ในส่วนของเรื่องโด๊ปปิ้งหรือสารต้องห้ามนั้น ทาง โอซีเอ หรือ สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย รวมทั้ง องค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ วาดะ ได้ระบุให้นักกีฬาทุกคนมีการอบรมเรื่องของสารต้องห้าม การใช้ยาหรือสารกระตุ้นต่างๆ และต้องผ่านมาตรการในการตรวจโด๊ปจากศูนย์โด๊ปปิ้งของแต่ละประเทศนั้นๆ มาก่อน ต้องมีใบรับรองที่ยืนยันว่าผ่านการอบรมแล้ว ซึ่งของไทยเรานั้นการกีฬาแห่งประเทศไทยก็ได้มีการจัดอบรมและออกใบรับรองให้กับนักกีฬาทุกคนเป็นที่เรียบร้อย ทุกคนจะต้องส่งใบดังกล่าวในหลักฐานการเดินทางและต้องติดตัวไปด้วยในการเดินทาง หากใครไม่มีใบดังกล่าวนี้ติดตัวไป เจ้าภาพจีนก็จะไม่ให้แข่งขัน ก็ฝากเตือนทุกคนว่าหากใครยังไม่มีใบรับรองหรือยังไม่ผ่านการอบรม ให้รีบดำเนินการโดยด่วน" บิ๊กต้อม กล่าว
สรุป"มีต เดอะ เพรส" เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 รอบที่ 1 ทั้ง 8 สมาคมกีฬาตั้งเป้ารวม 2 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดง แบ่งเป็น เอ็กซ์ตรีม 2 เหรียญทอง และ ว่ายน้ำ 1 เหรียญทองแดง
สำหรับกำหนดการ "มีต เดอะ เพรส" เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 รอบที่ 2 จะมีขึ้นในวันพุธที่ 16 สิงหาคม 2566 โดยจะมี 4 สมาคมกีฬา ประกอบด้วย ตะกร้อ, เทควันโด, ยูโด และ คาราเต้ ร่วมแถลงความพร้อม ปัญหาและอุปสรรคในการเตรียมทีม