วิเคราะห์ เจาะลึก กุญแจสำคัญสู่การเป็นผู้ชนะของสองตัวตึงคิกบ็อกซิ่ง ระหว่าง “ชิงกิซ อัลลาซอฟ” และ “มารัต กริกอเรียน” ก่อนประลองฝีมือกัน ในฐานะคู่เอกของ ศึก ONE Fight Night13
ใกล้เข้ามาทุกทีสำหรับการพบกันของสองคู่ปรับเก่า ระหว่าง “ชิงกิซ อัลลาซอฟ” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145 – 155 ป.) ที่จะลงป้องกันตำแหน่งครั้งแรก พบกับคู่แค้นที่เคยพลาดท่าเมื่อ 10 ปีก่อน อย่าง “มารัต กริกอเรียน” ในฐานะคู่เอกของศึก ONE Fight Night 13 ซึ่งจะแข่งขันกันที่สนามมวยเวทีลุมพินี โดยจะถ่ายทอดสดในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ตรงกับเวลา 07.00 น. ของวันเสาร์ที่ 5 ส.ค.2566
ในอดีตก่อนจะเข้ามาอยู่ใน ONE ทั้งคู่เคยปะทะกันครั้งแรกในเดือนเม.ย.56 แต่ต้องจบลงอย่างน่าผิดหวังด้วยการตัดสิน “ไม่มีผลการแข่งขัน” ก่อนที่ในอีก 8 เดือนต่อมา ทั้งคู่จะโคจรมาพบกันอีกครั้ง และเป็น “มารัต” ที่สามารถเอาชนะไปได้ เมื่อเวลาผ่านไปสิบปี ทั้งสองคน ต่างพัฒนาฝีมือขึ้นมาเป็นสุดยอดนักชกคิกบ็อกซิ่งเบอร์ต้นของโลก และต้องโคจรมาพบกันอีกครั้งในศึกภาคสาม โดยมีเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต เป็นเดิมพัน
เพื่อเป็นการเพิ่มอรรถรสก่อนที่การแข่งขันนัดหยุดโลกจะระเบิดขึ้น วันนี้เราจะขออาสาเทียบให้เห็นกันชัด ๆ ในทุกมิติของทั้งสองคน ว่าต่างฝ่ายต่างมีกุญแจสำคัญอะไรบ้าง ที่จะช่วยให้เป็นผู้ชนะในไฟต์นี้
เริ่มที่"ชิงกิซ อัลลาซอฟ" การเคลื่อนที่เข้าอออกอย่างรวดเร็ว คือสิ่งที่ “ชิงกิซ” แสดงออกมาให้เห็นทุกครั้งบนสังเวียน ด้วยความรวดเร็วของเขา ทำให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าอาวุธจะถูกโจมตีออกมาจากทิศทางไหน และที่สำคัญการเคลื่อนที่ของเขา ยังทำให้เขาสามารถค้นพบช่องโหว่ของคู่ต่อสู้ ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
นอกจากนี้ลูกเตะ คืออาวุธที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดของ “ชิงกิซ” เขาสามารถเตะสูงได้ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที ซึ่งนั่นทำให้คู่ต่อสู้แทบจะไม่มีโอกาสที่จะตอบโต หรือป้องกันได้เลย ที่สำคัญลูกเตะของเขาไม่ได้มีเพียงแค่ความเร็วแต่ยังเปี่ยมไปด้วยความรุนแรง ที่หากโดนเข้าจุดสำคัญ ก็อาจส่งคู่ต่อสู้ลงไปกองได้เลย
และอีกหนึ่งกลยุทธ์สุดอันตรายที่ “ชิงกิซ” มักจะใช้อยู่เป็นประจำยามเจอคู่ต่อสู้ที่ชอบบุกเดินเข้าหา คือการยิงหมัดตรงเพื่อทำลายจังหวะ ก่อนจะฉวยโอกาสแทงเข่าสวน และด้วยความยืดหยุ่นของร่างกาย ทำให้เขาสามารถแทงเข่าสูงเข้าที่ศรีษะของคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย
ขณะที่ฝั่ง"มารัต กริกอเรียน" เป็นนักมวยที่หมัดหนักไม่เกรงใจใคร สถิติชนะน็อก 37 ครั้งของ “มารัต” ส่วนใหญ่ล้วนมาจากพลังหมัดทำลายล้างของเขา โดยเฉพาะหมัดฮุกขวา และอัปเปอร์คัตขวาในระยะประชิดที่เล่นงานคู่ต่อสู้มานับไม่ถ้วน ซึ่ง “ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน” สุดยอดนักคิกบ็อกซิ่งชาวไทยก็เคยประสบด้วยตัวเองมาแล้วถึงขั้นแพ้น็อก ในการแข่งขันที่ประเทศจีน เมื่อปี 2551
นอกจากนี้ ลูกเตะขวาตาย ซ้ายสลบของ มารัต ยังน่ากลัว แม้ว่าหมัดจะเป็นอาวุธที่น่ากลัวที่สุดของ “มารัต” แต่ลูกเตะจากขาทั้งสองข้างของเขา ก็มีความอันตรายไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเมื่อไหร่ที่คู่ต่อสู้หยุดการโจมตี เขามักจะเล่นงานด้วยลูกเตะทันที ส่วนเรื่องของอานุภาพความรุนแรง ถือว่าไม่ธรรมดาเพราะเคยเอาชนะน็อกคู่ต่อสู้มาแล้วด้วยขาทั้งสองข้าง
อีกจุดเด่นของมารัต คือ เป้นนักชกอึดถึกทนไม่เป็นสองรองใคร นับตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา หรือตลอด 79 ไฟต์ในอาชีพนักคิกบ็อกซิ่ง “มารัต” เคยแพ้น็อกไปเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่น่าทึ่งเป็นอย่างมาก เพราะเขาเคยผ่านการปะทะกับสุดยอดนักคิกบ็อกซิ่งตัวอันตรายของโลกมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่เคยมีนักคิกบ็อกซิ่งรายใด ยัดเยียดการแพ้น็อกให้กับ “มารัต” ได้
แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมศึก ONE Fight Night 13 ในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR รวมทั้งติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของศึกนี้ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เว็บไซต์ www.onefc.com และอินสตาแกรม ONEChampTh
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ซุปเปอร์บอน'ดวล'โจ ณัฐวุฒิ' ONEลุมพินี81 ช่อง7ยิงสด พร้อมศึกแฟร์เท็กซ์-มวยไทย7สี
บู๊สะเทือนจอ “ช่อง 7HD” ส่งโปรแกรมมวยเดือด 3 เวที วันศุกร์จัดศึกใหญ่ไตรมาส 3 ของปี “ONE ลุมพินี 81” อัดแน่นด้วยขุนพลนักสู้ระดับแม่เหล็กทุกคู่ นำโดย “ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์” ปะทะ “โจ ณัฐวุฒิ” พร้อมร่วมลุ้นเฟ้นหานักมวยยอดฝีมือชิงตั๋วสู่สังเวียนระดับโลกใน “Fairtex Fight Road to One Season 3” ทั้งหมด 3 รุ่น 7 คู่ และมันกันต่อกับ “มวยไทย 7 สี”
6 นักชกไทยเตรียมพร้อมลั่นกลองรบ พร้อมลุย ONE Fight Night 24
แฟนมวยชาวไทยเตรียมเสียงเชียร์กันให้พร้อม เพื่อให้กำลังใจ 6 นักชกเชื้อสายไทย ได้แก่ “อาลีฟ ส.เดชะพันธ์”, “เด็ดดวงเล็ก ทีเด็ด99”, “แรมโบ้เล็ก ฉ.อจลบุญ”, “เฟอร์รารี แฟร์เท็กซ์”, ”นักรบ แฟร์เท็กซ์” และ “นาบิล อานาน” ที่เตรียมควงแขนขึ้นสังเวียนล่าแต้มชัยสุดสำคัญในศึก ONE Fight Night 24 ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 07.00 น.ของวันเสาร์ที่ 3 ส.ค.นี้
เกิดเป็นคนต้องสู้ 'ก้องศึก'ประเดิมต่างชาติ'โจอาคิม' คู่เอก ศึก ONE ลุมพินี
กลับมามอบความสนุกสุดมันเป็นประจำทุกช่วงค่ำวันศุกร์สุดสัปดาห์ สำหรับสัปดาห์นี้ ศึก ONE ลุมพินี 72 ขนเหล่านักสู้เชิงสูง มาประชันฝีมือกันทั้งสิ้น 12 คู่ พร้อมถ่ายทอดสดสู่สายตาผู้ชมมากกว่า 190 ประเทศทั่วโลก จากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 26 ก.ค.นี้ เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น.
'อาลิเบก'ต้อน'เร ยุน'ยับ 'แบล็คแพนเธอร์'ตัวแทนไทย เข้าวินคนเดียว
รูดม่านปิดฉากด้วยความมันระดับ 5 ดาว สำหรับ ศึก ONE Fight Night 23 เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ณ สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) โดยผลปรากฏว่า “อาลิเบก ราซูลอฟ” โชว์ความเหนือชั้นไล่ต้อนเอาชนะคะแนน “อ็อก เร ยุน” ขณะที่ "แบล็คแพนเธอร์" คือตัวแทนไทยเพียงคนเดียวที่คว้าชัยมาครองได้ ส่วน "เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์" และ "อาลีฟ ส.เดชะพันธ์" พลาดท่าปราชัยไปอย่างน่าเสียดาย
ปิดเกมยกแรก 'จ้าวเสือใหญ่'ดับฝัน'ผึ้งหลวง' ศึกONEลุมพินี 65
ศึก ONE ลุมพินี 65 มอบความบันเทิงให้กับแฟนกีฬาศิลปะการต่อสู้อย่างเต็มอิ่มหัวใจ เมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) โดยยกพลจอมบู๊มากความสามารถมาปะทะฝีมือกันทั้งสิ้น 12 คู่ ทำให้บรรดาเอฟซีจากทั่วทุกมุมโลกได้ลุ้นการแข่งขันสุดมันตั้งแต่ต้นจนจบรายการ
สะเทือนอิมแพ็คฯ 'แสตมป์' จับมือ 'ตะวันฉาย' ป้องกันแชมป์โลก ศึก ONE 167
“แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” แชมป์โลก ONE MMA รุ่นอะตอมเวตหญิง (105 - 115 ป.) ควงแขน “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” เจ้าของแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145 - 155 ป.) สองสมัย ขึ้นสังเวียนป้องกันบัลลังก์พร้อมกันในศึก ONE 167 โดยจะถ่ายทอดสดจากอิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับเวลา 07.00 น. ของวันเสาร์ที่ 8 มิ.ย.67