กลับมาอีกครั้งกับการแข่งขันฟุตบอลในรุ่นอายุไม่เกิน 13 ปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รายการ “Chang Junior Cup 2023” เดิมพันด้วยรางวัลที่นักฟุตบอลทุกคนต่างใฝ่ฝัน ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่เงินรางวัลเท่านั้น แต่มันคือประสบการณ์อันล้ำค่าที่เงินหาซื้อไม่ได้ ที่บริษัท ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกับพาร์ทเนอร์ สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้, บริษัท บูทรูม จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องแต่งกายกีฬาและไลฟ์สไตล์แบรนด์อาริเกียร์ และบริษัท มอลเทน (ไทยแลนด์) จำกัด มอบให้กับทีมแชมป์เพียงหนึ่งเดียว คือการบินไปฝึกฟุตบอลที่ประเทศอังกฤษแบบยกทีม พร้อมคัดเลือก“นักเตะผู้มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยม” หรือ “Most Talented Player” นักฟุตบอลผู้มีทักษะฟุตบอลอันโดดเด่นจากทีมอื่นๆ ซึ่งจะได้รับสิทธิ์เดินทางไปประเทศอังกฤษร่วมกับทีมแชมป์ในทุกๆปี
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2566 ณ ห้องบอลรูม สโมสรราชพฤกษ์ คุณชลันดา ชอบจิตร ผู้อำนวยการกองบริหารงานและประเมินผลกีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย, คุณธนศักดิ์ สุระประเสริฐ อุปนายกฝ่ายสื่อสารองค์กร สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยคุณโรจนสิทธิ์ มีนิจสิน รองผู้อำนวยการฝ่ายกีฬา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยน้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง, คุณภัฏปพนธ์ ปวริศร์สุรีกุล ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท บูทรูม จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องแต่งกายกีฬาและไลฟ์สไตล์แบรนด์อาริเกียร์, คุณยูโด ซูคาดะ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการขายในประเทศ บริษัท มอลเทน (ไทยแลนด์) จำกัด และตัวแทนทั้ง 16 ทีม เข้าร่วมงานแถลงข่าวและพิธีจับสลาก Chang Junior Cup 2023 รอบชิงแชมป์ประเทศไทย
คุณโรจนสิทธิ์ มีนิจสิน รองผู้อำนวยการฝ่ายกีฬา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด
(มหาชน) โดยน้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง กล่าวว่า “กว่า 25 ปีที่ “ช้าง” ได้สนับสนุนวงการฟุตบอลไทย โดยมุ่งหวังให้วงการฟุตบอลในบ้านเรามีการพัฒนาและยกระดับไปสู่ระดับสากล จึงมุ่งมั่นพัฒนา สร้างรากฐาน และความยั่งยืนแบบทั้งระบบ ผ่านโครงการต่างๆ โดยเริ่มตั้งแต่ระดับเยาวชน ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาสู่นักกีฬาอาชีพในอนาคต จึงได้จัดการแข่งขัน ฟุตบอลเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี รายการ “Chang Junior Cup 2023” เพื่อสร้างเวทีและเพิ่มโอกาสให้น้องๆ เยาวชนทั่วประเทศได้ทดสอบฝีเท้ากันและพัฒนาศักยภาพให้มากขึ้น และเตรียมความพร้อมก่อนที่จะก้าวไปสู่วงการลูกหนังอาชีพและทีมชาติไทยต่อไปในอนาคต
โดยการแข่งขัน “Chang Junior Cup 2023” ได้กลับมาจัดการแข่งขันอีกครั้งหลังว่างเว้นไป 3 ปี เนื่องจากโควิด-19 และปัจจัยด้านความปลอดภัยต่างๆ ซึ่งในปีนี้นับเป็นปีที่ 8 ที่เราได้จัดการแข่งขันขึ้น ในรอบคัดเลือก แบ่งการแข่งขันออกเป็น 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ มีทีมสมัครเข้าร่วมการแข่งขันรวมกว่า 300 ทีม ซึ่งในตอนนี้เราได้สุดยอดทีมเยาวชนตัวแทนทุกภาคทั่วประเทศจำนวน 7 ทีม ประกอบด้วย
ทีมแข้งเทพ จูเนียร์ แชมป์ภาคตะวันตก, ทีมการท่าเรือ เอฟซี แชมป์ภาคตะวันออก, ทีมพิชญบัณฑิต แชมป์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ทีมโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญาในพระอุปถัมภ์ แชมป์ภาคใต้, ทีมโรงเรียนวชิราลัย แชมป์ภาคเหนือ, ทีมโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร และโรงเรียนปทุมคงคา แชมป์และรองแชมป์ กรุงเทพฯและปริมณฑล
ซึ่งทั้ง 7 ทีม จะเข้าแข่งขันกับทีมเยาวชนจากสโมสรแถวหน้าของประเทศไทย ที่เป็นทีมวาง จำนวน 9 ทีม คือ ชลบุรี เอฟซี ดีกรีแชมป์ 2 สมัย,โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี แชมป์เก่า ดีกรีแชมป์ 4 สมัย , บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รองแชมป์ปี 2019, ราชบุรี เอฟซี รองแชมป์ปี 2017, โปลิศ เทโร เอฟซี, พีที ประจวบ เอฟซี, ลำพูน วอริเออร์, สุพรรณบุรี เอฟซี, และทหารบก เอฟซี ทำการแข่งขันแบบแบ่งกลุ่ม 4 กลุ่ม เพื่อหาทีมที่มีคะแนนที่ดีที่สุดอันดับ 1 และ 2 ของกลุ่มเข้าแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายในระบบน็อคเอ้าท์ จนถึงรอบชิงชนะเลิศ”
ผลการจับสลากแบ่งกลุ่มการแข่งขัน
กลุ่ม A ได้แก่ โรงเรียนปทุมคงคา, โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญาในพระอุปถัมภ์, ทหารบก เอฟซี และโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี
กลุ่ม B ได้แก่ ชลบุรี เอฟซี, พีที ประจวบ เอฟซี, แข้งเทพ จูเนียร์ และโรงเรียนวชิราลัย
กลุ่ม C ได้แก่ โปลิศ เทโร เอฟซี, โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร, ราชบุรี เอฟซี และลำพูน วอริเออร์
กลุ่ม D ได้แก่ การท่าเรือ เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี, พิชญบัณฑิต และบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
คุณโรจนสิทธิ์ มีนิจสิน กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา มีน้องๆเยาวชนเข้าร่วมโครงการกว่า 20,000 ชีวิต และได้พัฒนาทักษะฝีเท้า จนก้าวไปสู่การเป็นนักเตะสโมสรทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ รวมถึงการติดทีมชาติไทย ไม่ว่าจะเป็น “ต้า” ทรงชัย ทองฉ่ำ แชมป์ ปี 2013 สโมสรชลบุรี เอฟซี ซึ่งปัจจุบันได้เป็นกำลังหลักของทีม, “ไม้” อชิตพล คีรีรมย์ จากทีม KC-15 ชุดแชมป์ปี 2014 สโมสรปัจจุบัน เอาส์บวร์ก 2 ประเทศเยอรมัน, ทอมมี่ สตีเวนส์ จากทีม KC-15 แชมป์ ช้าง จูเนียร์ คัพ 2014 ที่โลดแล่นในลีกต่างประเทศ รวมถึงนักเตะดาวรุ่งอย่าง “แบงค์” ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา จากสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งคว้ารางวัลกองหน้ายอดเยี่ยมของ ในปี 2015 และล่าสุดได้เตรียมบินลัดฟ้าไปค้าแข้งที่ต่างประเทศ และยังมีน้องๆอีกมากมายที่ได้โลดแล่นอยู่ในวงการฟุตบอลไทยทั้งในสโมสรอาชีพและรับใช้ทีมชาติไทย
นอกจากนี้ทาง“ช้าง”ยังมีรางวัลพิเศษสำหรับนักเตะฝีเท้าดีที่ผ่านการคัดเลือกจากหัวหน้าผู้ฝึกสอนเยาวชนทีมชาติไทยถึง 6 รางวัลด้วยกัน ได้แก่ กองหน้ายอดเยี่ยม, กองกลางยอดเยี่ยม, กองหลังยอดเยี่ยม, ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม, รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยม หรือ Most Valuable Player (MVP) และรางวัลนักเตะผู้มีพรสวรรค์ หรือ “Most Talented Player” ที่จะได้สิทธิ์เดินทางสู่ประเทศอังกฤษพร้อมกับทีมแชมป์ Chang Junior Cup 2023 และรางวัลพิเศษอีก 1 รางวัล คือ “Sportsmanship Award” สำหรับทีมที่มีความเป็นน้ำใจนักกีฬาตลอดทัวร์นาเมนท์อีกด้วย”
สำหรับ “ช้าง จูเนียร์ คัพ 2023” รอบชิงแชมป์ประเทศไทย จะทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 6 - 9 มิถุนายน 2566 ที่สนามไทยเบฟ ฟุตบอล อะคาเดมี่ ส่วนรอบรองและรอบชิงชนะเลิศ จะทำการแข่งขันในระหว่างวันที่ 17 - 18 มิถุนายน 2566 ที่สนามบุณยะจินดา เพื่อหาทีมแชมป์เพียงหนึ่งเดียว ที่จะคว้าสิทธิ์บินตรงสู่เมืองผู้ดี เปิดประสบการณ์ลูกหนังอันล้ำค่าที่เงินหาซื้อไม่ได้ ยังแหล่งต้นกำเนิดเป็นระยะเวลากว่า 10 วัน ติวเข้มกับสโมสรชั้นนำของประเทศอังกฤษ เข้าชมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษกันแบบติดขอบสนามพร้อมลงแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรกับอะคาเดมี่ของเกาะอังกฤษในเดือนกันยายนนี้ ส่วนรองชนะเลิศได้รับทุนการศึกษา 50,000 บาท อันดับที่ 3 รับทุนการศึกษา 30,000 บาท และอันดับที่ 4 รับทุนการศึกษา 20,000 บาท ติดตามข่าวสาร ผลการแข่งขัน และรับชมการถ่ายทอดสด “Chang Junior Cup 2023” ได้ทางFacebook : ThaiBev ThaiTalent