ด่าสมาคมฯ...ปธ.ลำพูนไม่รอด โดนปรับ1แสน พัทยา-พิษณุโลกกองเชียร์จุดพลุ

จากกรณีเหตุการณ์ไม่ปกติของการแข่งขัน ฟุตบอลลีกอาชีพรายการ “ไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก” เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2566 คู่ระหว่างสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด พบ สโมสรลำพูน วอริเออร์
 
ผู้ควบคุมการแข่งขัน และฝ่ายจัดการแข่งขัน ได้รายงานเหตุการณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ที่มี พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน เป็นประธาน    โดยภายหลังจากจบการแข่งขันเวลา 21.03 น. ต่อมาในเวลา 21.05 น. ได้ปรากฏข้อความใน Facebook ของประธานสโมสรลำพูน วอริเออร์ ซึ่งเปิดโพสต์เป็นสาธารณะ ระบุข้อความว่า “แมร่ง...ทั้งคณะ ไอ้... เกินไป วันพระไม่ได้มีหนเดียวแล้วเจอกันใหม่ แมตแห่งความ....”
 
จากกรณีดังกล่าว คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท พิจารณาบทลงโทษ ประธานสโมสรลำพูน วอริเออร์ วิพากษ์วิจารณ์ผ่านสื่อ ทำให้เกิดความเสียหาย หรือเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือภาพลักษณ์ของสมาคม มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 2.10 ปรับเงิน 100,000 บาท
 
สำหรับ ระเบียบว่าด้วยการลงโทษวินัย มารยาท ข้อ 2.10 ระบุว่า "วิพากษ์วิจารณ์ผ่านสื่อ ทำให้เกิดความเสียหาย หรือเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือภาพลักษณ์ของสมาคม ครั้งแรกมีโทษปรับ 100,000 บาท และครั้งต่อไปปรับเพิ่มอีกครั้งละ 100,000 บาท"
 
คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท พิจารณาบทลงโทษ จากกรณีเหตุการณ์ไม่ปกติของการแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการ ไทยลีก 3 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2566 คู่ระหว่าง สโมสรพิษณุโลก เอฟซี พบ สโมสรพัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด
 
ผู้ควบคุมการแข่งขัน ได้รายงานเหตุการณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ถึงเหตุการณ์ กองเชียร์สโมสรสโมสรพัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด จุดพลุในสถานที่จัดการแข่งขัน สองครั้ง ในเวลา 17.40 น. ก่อนเริ่มการแข่งขัน 20 นาที ได้จุดพลุบริเวณด้านหลังอัฒจันทร์หลัก ระยะเวลาในการจุดพลุประมาณ 6-7 นาที ระบุชัดเจนว่าเป็นกองเชียร์สโมสรพัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด เนื่องจากมีธงโบกและการสวมใส่เสื้อที่เป็นตราสัญลักษณ์เชียร์ของกองเชียร์สโมสรพัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด และมีการตะโกนร้องว่า “พัทยา”
 
ต่อมาเวลา 19.50 น. นาทีที่ 90+4 ของการแข่งขัน กองเชียร์สโมสรพัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด ที่นั่งอยู่บริเวณขวามือของอัฒจันทร์หลัก มีป้ายตราสัญลักษณ์ของสโมสรพัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด ติดอยู่บริเวณด้านหน้าอัฒจันทร์พร้อมกับธงเชียร์ที่เป็นตราสัญลักษณ์เชียร์ของกองเชียร์สโมสรพัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด ได้จุดพลุบนอัฒจันทร์ ระยะเวลาในการจุดพลุประมาณ 10-15 นาที กลุ่มกองเชียร์ที่จุดพลุทั้งสองครั้งเป็นกลุ่มเดียวกัน โดยการจุดพลุครั้งแรกและครั้งที่สองห่างกันประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที เห็นว่าให้แยกเป็น 2 กรรม โดยการแข่งขันนัดดังกล่าวมีผู้ชมเข้าชมจำนวน 3,769 คน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 นาย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 20 คน
 
จากกรณีดังกล่าว คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท พิจารณาบทลงโทษ ดังนี้
 
 1) กรณีที่ 1 ในเวลา 17.40 น. ก่อนเริ่มการแข่งขัน 20 นาที จุดพลุบริเวณด้านหลังอัฒจันทร์หลัก ระยะเวลาในการจุดพลุประมาณ 6-7 นาที ลงโทษกองเชียร์สโมสรพัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.3 ปรับเงิน 30,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสาม ปรับเงิน 10,000 บาท
 
 2) กรณีที่ 2 ในเวลา 19.50 น. นาทีที่ 90+4 ของการ จุดพลุบนอัฒจันทร์หลักด้านขวา ระยะเวลาในการจุดพลุประมาณ 10-15 นาที ลงโทษกองเชียร์สโมสรพัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.3 ปรับเงิน 30,000 บาท เนื่องจากกองเชียร์สโมสรพัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด ถูกลงโทษไปแล้วจากการกระทำผิดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2566 ยังไม่พ้นกำหนด 1 ปี เป็นการกระทำความผิดซ้ำ ตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 จึงเพิ่มโทษกองเชียร์สโมสรพัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด ปรับเงินเพิ่มอีก 15,000 บาท รวมโทษปรับเงิน 45,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสาม ปรับเงิน 15,000 บาท รวมโทษปรับเงินทั้งสิ้น 25,000  บาท
 
3) ลงโทษสโมสรพิษณุโลก เอฟซี มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.18 (1) ปรับเงิน 30,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสาม ปรับเงิน 10,000 บาท บกพร่องในการตรวจเช็คควบคุมไม่ให้กองเชียร์หรือบุคคลใดนำพลุเข้าไปในสถานที่จัดการแข่งขัน
 
4) ลงโทษสโมสรพิษณุโลก เอฟซี มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.18 (3) ปรับเงิน 30,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสาม ปรับเงิน 10,000 บาท ไม่ได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามที่กำหนดไว้ในระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขันฯ บกพร่องเรื่องงานรักษาความปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 นาย และรปภ. 20 คน ในกรณีที่ผู้ชมไม่เกิน 1,000 คน  หากเกินจำนวนจะต้อง เพิ่มจำนวนตามสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของผู้ชม 100 คนต่อเจ้าหน้าที่ 1 คน ซึ่งนัดดังกล่าวมีผู้ชม 3,769 คน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'FIFA Congress 2024' ความสำเร็จของไทย เจ้าภาพที่ยิ่งใหญ่สุดของ'ฟีฟ่า'

• ประวัติศาสตร์จารึก #ประเทศไทย ชาติแรกในอาเซียน ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับ ประเทศไทย ในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ฟีฟ่า คองเกรส ครั้งที่ 74 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานครฯ ในฐานะประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียน และชาติที่ 5 ของทวีปเอเชีย ที่ได้รับเลือกจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ในการได้รับเกียรติ ถูกรับเลือกให้เป็นเจ้าภาพ จัดอีเวนต์นอกสนามที่ยิ่งใหญ่สุดของ ฟีฟ่า

'บิ๊กหยิม'เร่งสตาฟฟ์'ช้างศึก'23ปี ทำการบ้านทีมคู่แข่ง ศึกชิงแชมป์เอเชีย

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 House of Thai Football สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดประชุมเพื่อสรุปผลการเก็บตัวของ ฟุตบอลชายทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในการเก็บตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมวางแผนสำหรับการเก็บตัวครั้งต่อไป

ส.ฟุตบอลไทยฯ มีชื่อเข้าชิงรางวัล การพัฒนาเยาวชน ในระดับเงินของAFC

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล การพัฒนาเยาวชน ผ่านโครงการฟุตบอลขั้นพื้นฐาน (Grassroots Football) ในระดับเงิน

ส'ฟุตบอลไทยฯ ยืนยันไม่ทิ้ง'ไทยลีก3' ยังจัดเหมือนเดิม พร้อมเงินสนับสนุน

ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อโซเชียล เรื่องไม่มีงบสนับสนุนทีมในการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 3 ซึ่งส่งผลให้สโมสรสมาชิกที่ได้รับผลกระทบและมีความกังวลต่อการเตรียมทีม อีกทั้งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง นั้น