'อิสสระ'มั่นใจชนะสิงคโปร์ เกมนี้ไม่มีVARช่วย ใช้ชุดน้ำเงินนำโชค

ความเคลื่อนไหวของทีมฟุตบอลชายในกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 32 ที่ประเทสกัมพูขานั้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2566 เวลา 11.00 น. ณ โรงแรม พนมเปญ ฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลชาย ในซีเกมส์ จัดการแถลงข่าวก่อนการแข่งขัน โดย ทีมชาติไทย ได้ส่ง อิสสระ ศรีทะโร หัวหน้าผู้ฝึกสอน เข้าร่วมแถลงข่าว พร้อมด้วย เฮดโค้ชจากอีกสามชาติที่เข้าร่วมแถลงในครั้งนี้ ก่อนทีมชาติไทย มีโปรแกรมการแข่งขันนัดแรกวันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน 2566 เวลา 16.00 น. พบ สิงคโปร์ ที่ ปรินซ์ สเตเดียม
 
โดยการประชุมผู้จัดการทีม เพื่อเตรียมพร้อมก่อนการแข่งขันของกลุ่มบี ผู้เข้าร่วมประชุมได้แก่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆอาทิ ฝ่ายจัดการแข่งขัน, ฝ่ายควบคุมการแข่งขัน, ฝ่ายผู้ตัดสิน, ฝ่ายรักษาความปลอดภัย และ ตัวแทนจากทั้ง 5 ทีม สรุปผลการประชุมมีดังนี้
 
- เรื่องสีเสื้อ ทีมชาติไทย จะสวมชุดน้ำเงิน ผู้รักษาประตูสีเหลือง ในเกมที่จะพบกับ สิงคโปร์
 
- การแข่งขันรายการนี้ หากมีสองทีมที่มีคะแนนเท่ากัน จะตัดสินกันประตูได้เสีย และตามด้วยประตูได้
 
- การเปลี่ยนตัวสามารถเปลี่ยนได้ทั้งหมด 5 คน ทั้งหมด 3 ครั้ง ไม่รวมพักครึ่ง
 
- ในกรณีที่ผู้เล่นได้รับใบแดง จะถูกแบนนัดต่อไปโดยอัตโนมัติ ในกรณีที่สะสมใบเหลืองครบ 2 ใบ จะถูกแบนอัตโนมัติในนัดต่อไปเช่นกัน และจะมีการล้างใบเหลืองหลังจบรอบแบ่งกลุ่ม
 
- ในกรณีที่ถูกใบแดงไล่ออกในเกมนัดสุดท้าย หรือ สะสมครบสองใบเหลืองนัดสุดท้าย หากทีมของผู้เล่นคนดังกล่าวได้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย จะไม่สามารถลงสนามในเกม รอบรองชนะเลิศ หรือ ตามที่โทษแบนระบุไว้ได้
 
- สำหรับการตัดสินจะไม่มีเทคโนโลยี VAR เข้ามาช่วยเหลือในการตัดสิน
 
- การคูลลิ่งเบรกจะขึ้นอยู่กับ ดุลยพินิจของผู้ตัดสิน
 
- ส่วนการแข่งขัน ในรอบรองชนะเลิศ และ รอบชิงชนะเลิศ หาก เสมอกัน จะมีการต่อเวลาพิเศษ หากยังเสมอกันอีกจะตัดสินที่การดวลลูกจุดโทษ ส่วนรอบชิงอันดับ 3 หากเสมอในเวลา 90 นาที จะยิงจุดโทษ
 
และช่วงเย็นเวลา 16.00 น. ณ อีดีซี สเตเดียม ฟุตบอลชายทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ ลงทำการฝึกซ้อมครั้งสุดท้ายก่อนทำการแข่งขันนัดแรกพบกับ ทีมชาติสิงคโปร์
 
การฝึกซ้อมครั้งนี้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าโดยเน้นไปที่การใส่รายละเอียดเรื่องแท็คติกและลูกตั้งเตะต่างๆ
 
โดย ลีออน เจมส์ กองกลางทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ กล่าวว่า "ทุกคนก็พร้อม เราก็ซ้อมมาค่อนข้างหนักเพราะเรารู้ว่าเราแข่งกันถี่ และทีมเราก็ซ้อมกันหนัก เรื่องอากาศ เราไม่กังวล เพราะที่ไทยเราก็ซ้อมเวลานี้ และก็พร้อมแล้วครับ"
 
"หลังจากโดฮา คัพ ผมก็พักมา 2 สัปดาห์ เพราะมีอาการบาดเจ็บ แต่ตอนนี้ก็กลับมาซ้อมได้ทุกอย่างตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว"
 
"เกมแรกกับสิงคโปร์ เราก็ได้ดูวิดีโอของเขา แต่เราเรื่องการเล่นของคู่ต่อสู้ เราก็โฟกัสในระดับหนึ่งแต่เราต้องพยายามโฟกัสในแท็คติกของเรา และเชื่อว่าเราเอาชนะใครก็ได้"
 
ด้าน อิสสระ ศรีทะโร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า "ตอนนี้เราก็ก็พร้อมค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว ในส่วนที่เรามาครบ ณ ตอนนี้ ตอนนี้เราก็ต้องโฟกัสในทีมของเราก่อน สำหรับคนที่มา เราก็มีการซ้อมต่อเนื่องมา"
 
"เราอยากให้สิงคโปร์ เล่นตามสไตล์ที่เขาเล่นมาล่าสุด แต่เราก็คาดการณ์ว่าเขาน่าจะมารับในแดน เราก็ทำการบ้านไว้สองอย่างตรงนี้ก็หวังว่าจะเป็นเกมที่ดีของเรา สำหรับสภาพสนามแข่ง สนามก็ได้มาตรฐาน เขาปูหญ้าใหม่ ไม่น่าห่วง ระยะยาวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร"
 
"สำหรับการหาสนามซ้อมใหม่ เจ้าภาพก็ได้จัดไว้ให้ แต่บางสนาม ก็ค่อนข้างไกล เราต้องมองหาสนามที่ ใกล้นิดนึง เพราะบางสนามใช้เวลาชั่วโมงกว่าในการเดินทางไปกลับก็สองชั่วโมงกว่า ก็กินเวลาเกือบสามชั่วโมง มันจะเสียเวลามากเกินไป เราก็ต้องหาสนามให้ได้"
 
"ความมั่นใจ ด้วยคุณภาพของน้องๆ และการฝึกซ้อมคิดว่าเราน่าจะชนะได้ ก็ต้องดูว่ารูปเกมของเราเป็นอย่างไร"
 
 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผวาหายนะ! บี้ '2พ่อลูกชินวัตร' ทบทวนพฤติกรรม บ้านเมืองไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราข โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ทักษิณ คุณเป็นใคร? หลังจากนายทักษิณ ชินวัตร

สมาคมฯและไทยลีก จัดสัมมนาแนวทางพัฒนาฟุตบอล ให้ตัวแทนลีกกัมพูชา

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ บริษัท ไทยลีก จำกัด จัดสัมมนาแนวทางการพัฒนาและยกระดับฟุตบอลลีกอาชีพ ร่วมกับ ตัวแทนจาก Cambodia Premier league ในโครงการ Thai League x Cambodia Premier League workshop ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร FA Thailand เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2567

'ทักษิณ' ลั่นล้านเปอร์เซ็นต์ 'เกาะกูด' ของไทย ไม่บ้ายกให้กัมพูชา จ่อติวเข้ม สส. แจงปชช.

'ทักษิณ' ลั่นล้านเปอร์เซ็นต์ 'เกาะกูด' เป็นของไทย โต้เฟกนิวส์ใช้เอไอปล่อยข่าวมั่ว ชี้ใครจะบ้ายกให้ เตรียมติว สส. เพื่อไทย แจงประชาชนถึงที่มา MOU 44

ปลุกรุมบี้ 'รัฐบาลอิ๊งค์' ส่งศาล รธน. ชี้ขาด 'MOU 44'

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ท่านที่ได้อ่านโพสต์ที่แล้วของผม คงจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับที่มาที่ไป