'เลสเตอร์' ประกาศแยกทาง 'ร็อดเจอร์ส' เซ่นผลงานสุดห่วยรั้งโซนตกชั้น

“เดอะ ฟ็อกซ์” เลสเตอร์ ซิตี ประกาศผ่านเว็บไซต์สโมสรยุติการทำงานร่วมกับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส หลังรับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมชุดใหญ่มาครบ 4 ปี แต่เวลานี้พวกเขาทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ร่วงไปอยู่ในโซนตกชั้น หลังล่าสุดบุกพ่าย คริสตัล พาเลซ 1-2

ผลงาน 6 เกมหลังสุด เลสเตอร์ ซิตี พ่ายแพ้ไปถึง 5 เกม เสมอ 1 เกม ไม่ชนะใคร มีเพียง 25 แต้ม จาก 28 นัด รั้งอันดับ 19 ของตาราง ห่างจากโซนปลอดภัย อย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด อันดับ 17 อยู่ 1 แต้ม

นอกจากนี้ คริส เดวี่ส์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีม และเกล็น ดริสโคลล์ โค้ชฟิตเนสทีมชุดใหญ่ ก็โบกมืออำลาทีมไปพร้อมกับ ร็อดเจอร์ส โดยเวลานี้ อดัม แซดเลอร์ และไมค์ สโตเวลล์ 2 โค้ชในทีมชุดใหญ่ที่รับใช้สโมสรมาอย่างยาวนาน จะรับผิดชอบการฝึกซ้อมไปก่อน และการเตรียมทีมในการแข่งขันนัดต่อไป

อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่า “ความสำเร็จของทีมภายใต้การบริหารของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เป็นสิ่งที่เราทราบกันดี เราเคยมีประสบการณ์กับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเล่นฟุตบอลภายใต้คำแนะนำของเขา และเราจะขอบคุณเขาและทีมงานเสมอสำหรับความสำเร็จที่เขาได้ทำไว้กับสโมสร”

“เบรนแดน น้อมรับวัฒนธรรมของสโมสรและช่วยปลูกฝังสภาพแวดล้อมการพัฒนาที่โดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เราปรับตัวกับสนามฝึกซ้อมเลสเตอร์ ซิตี้ เทรนนิ่ง กราวน์ แห่งใหม่ เขามีความเป็นผู้นำในช่วงที่มีระบาดของ โควิด-19 และเขาจะอยู่ในใจของเราตลอดไป”

“อย่างไรก็ตาม ผลงานของทีมในฤดูกาลปัจจุบันต่ำกว่าที่เราคาดไว้ เราเชื่อในความต่อเนื่องและความมั่นคงซึ่งเป็นกุญแจสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความสำเร็จก่อนหน้านี้ภายใต้การบริหารของเบรนแดน น่าเสียดายที่ทีมยังไม่สามารถปรับปรุงผลการแข่งขันให้ดีขึ้น และด้วยการแข่งขันเหลืออีกเพียง 10 เกมของฤดูกาล ฝ่ายบริหารจำเป็นต้องตัดสินใจดำเนินการทางเลือกอื่น เพื่อรักษาสถานะในพรีเมียร์ลีกของสโมสร”

“ยังมีงานที่รอเราอยู่ใน 10 เกมข้างหน้า ตอนนี้เราต้องร่วมมือกัน ทั้งแฟนบอล นักเตะ และ สต๊าฟ ต้องแสดงให้เห็นถึงความสุขุม คุณภาพ และการต่อสู้เพื่อรักษาสถานภาพในพรีเมียร์ลีกของสโมสร” ปธ.สโมสรทีมเดอะ ฟ็อกซ์ ทิ้งท้าย

สำหรับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ประสบความสำเร็จในถิ่น “คิง เพาเวอร์ สเตเดียม” พาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรเมื่อปี 2021 ก่อนจะคว้าแชมป์คอมมูนิตี ชิลด์ ในปีเดียวกัน นอกจากนี้ “บีร็อด” ยังพาทีมจบอันดับในพรีเมียร์ลีกสูงที่สุดเป็นอันดับสอง และสามของสโมสร และพาทีมลงแข่งขันในศึกฟุตบอลยุโรปติดต่อกันสองฤดูกาล รวมถึงผลงานในการพาทีมผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศฟุตบอลยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก เป็นครั้งแรกในปี 2022

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รุด' ผิดหวังไม่ได้ไปต่อกับ 'แมนฯ ยู' แต่ตอนนี้มูฟออนแล้ว ก่อนรับงานคุม 'จิ้งจอก'

รุด ฟาน นิสเตลรอย เทรนเนอร์ป้ายแดงของ เลสเตอร์ ซิตี ให้สัมภาษณ์เปิดใจ รู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้ทำงานกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อ แต่ตอนนี้มูฟออนแล้ว และเข้าใจหัวอกเฮดโค้ชคนใหม่ อย่าง รูเบน อโมริม เป็นอย่างดี และตอนนี้ตนก็ได้งานที่ "เดอะ ฟ็อกซ์" แล้ว

'เลสเตอร์' เตรียมตั้ง 'นิสเตลรอย' คุมทัพ แต่อาจไม่ทันคุมทีมสุดสัปดาห์นี้

เลสเตอร์ ซิตี ยอดทีมแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เตรียมแต่งตั้ง รุด ฟาน นิสเตลรอย เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ ตามรายงานจาก ฟาบริซิโอ โรมาโน่ ผู้สื่อข่าวชื่อดังชาวอิตาเลียน เมื่อวันพุธที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

'เลสเตอร์' ถูกปฏิเสธอุทธรณ์กฎการเงิน ส่อถูกโดนตัดแต้ม 'พรีเมียร์ ลีก' ซีซั่นใหม่

ผลการอุทธรณ์โทษของทีม "เดอะ ฟ็อกซ์" เลสเตอร์ ซิตี ในการละเมิดกฎการเงินของพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ถูกปฏิเสธโดยคณะกรรมการอิสระ ซึ่งจะทำให้พวกเขาเผชิญหน้ากับการถูกลงโทษหักแต้มในซีซั่นใหม่ที่กำลังจะเปิดฉาก แม้จะเพิ่งเลื่อนชั้นกลับมาก็ตาม

'เชลซี' จ่ายค่าฉีกสัญญา 10 ล้านปอนด์ ดึงตัว 'มาเรสกา' จาก 'เลสเตอร์' คุมทัพ

"สิงห์บลูส์" เชลซี ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ บรรลุข้อตกลงในการแต่งตั้ง เอ็นโซ่ มาเรสกา เฮดโค้ชชาวอิตาเลียน มาทำหน้าที่ผู้จัดการทีมคนใหม่ในซีซั่นหน้า หลังเจรจากับ เลสเตอร์ ซิตี ลุล่วงไปด้วยดี