จากสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้ทุกองค์กรทั่วโลก รวมทั้งแวดวงกีฬา เช่นเดียวกับเอเชียน ทัวร์ องค์กรผู้ดูแลการจัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพชายในเอเชียและภูมิภาคอื่นที่ร่วมมือกัน ล้วนได้รับผลกระทบจากปัญหานี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เอเชียน ทัวร์ สามารถข้ามผ่านวิกฤตนั้นมาได้ และกำลังก้าวไปในทิศทางที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม
เอเชียน ทัวร์ ปัจจุบันอยู่ภายใต้การนำของ โช มินน์ ตันห์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวเรือใหญ่ที่นำทัวร์ก้าวผ่านวิกฤตไปได้อย่างน่าทึ่ง และได้พันธมิตรจากกลุ่มทุนซาอุดิอาระเบีย รวมทั้งลิฟ กอล์ฟ ผนึกกำลังฝ่าวิกฤตนั้นมาได้อย่างแข็งแกร่ง
โช มินน์ ตันห์ เผยว่า "ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจเราประสบปัญหาเรื่องสปอนเซอร์ทำให้รายการแข่งขันของเราลดน้อยลง และยังมาประสบกับวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เข้ามาอีก ทำให้การจัดการแข่งขันอยู่ในแวดวงจำกัดเพียงแค่บางประเทศ แต่หลังจากนั้นเมื่อทุกอย่างเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติเราก็กลับมาแข่งขันได้ตามปกติ และเราโชคดีที่เราได้พันธมิตรจากทางกอล์ฟซาอุดีและกลุ่มทุนทางซาอุดิอาระเบียผ่านทางลิฟกอล์ฟที่เข้ามาสนับสนุนเรา ทำให้กลับมามีรายการแข่งขันและมีเงินรางวัลเพิ่มมากขึ้น"
ประธานบริหารเอเชียน ทัวร์ ยังกล่าวถึงการแข่งขันรายการใหญ่ที่เพิ่มเข้ามานั่นคือ อินเตอร์ เนชันแนล ซีรีส์ ทำให้เอเชียน ทัวร์ ก้าวไปอีกระดับว่า "แน่นอนการที่เราได้จัดการแข่งขันอินเตอร์ เนชันแนล ซีรีส์ ขึ้นมาทำให้นักกอล์ฟสมาชิกของเอเชียน ทัวร์ ได้แข่งขันกับนักกอล์ฟระดับชั้นนำจากทวีปต่างๆ และได้ไปจัดการแข่งขันในทวีปอื่นอย่างในอังกฤษ โดยปีที่แล้วเรามี 6 รายการ เริ่มต้นที่ประเทศไทยเป็นรายการแรก และปิดท้ายในทวีปแอฟริกาที่โมร็อกโกและอิยิปต์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เอเชียน ทัวร์ แข่งขันในแอฟริกาเหนือ รวมถึงแต่ละรายการก็มีเงินรางวัลไม่น้อยกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ”
โช มินน์ ตันห์ กล่าวอีกว่า "สำหรับปีนี้เราได้ประกาศการแข่งขันไปแล้ว 5 รายการ และเป็นครั้งแรกที่อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ แข่งขันในตะวันออกกลางที่โอมานและกาตาร์ ก่อนมาแข่งขันในประเทศไทย และเรายังมีโปรแกรมไปแข่งขันที่เวียดนาม และกลับไปแข่งขันที่อังกฤษอีกครั้ง ส่วนที่เหลือเราจะประกาศโปรแกรมเอเชียน ทัวร์ ช่วงฤดูกาลครึ่งหลังให้ทราบอีกครั้ง และยังมีโปรแกรมของเอเชียน ทัวร์ ในประเทศไทยที่จะประกาศอีกด้วย และที่สำคัญนักกอล์ฟในเอเชียน ทัวร์ ของเรา เมื่อมีอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ทำให้พวกเขามีโอกาสได้ต่อสู้ในการทำอันดับเพื่อให้ได้สิทธิ์ไปแข่งขัน ลิฟ กอล์ฟอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันนักกอล์ฟที่ครองอันดับหนึ่งของตารางเงินรางวัลรวมหรือ ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต ในรายการ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ จะได้สิทธิ์ไปแข่งขันรายการ ลิฟ กอล์ฟ และในอนาคตอาจมีเพิ่มมากขึ้นก็ได้""
ประธานบริหารเอเชียน ทัวร์ ยังกล่าวถึงการเติบโตของทัวร์ในขณะนี้ว่า "หลังจากที่เราได้จัดการแข่งขันรายการ อินเตอร์ เนชันแนล ซีรีส์ ทำให้นักกอล์ฟชั้นนำของเอเชียน ทัวร์ ที่ไปแข่งขันในทัวร์ใหญ่หลายคนกลับมาแข่งขันในทัวร์เรามากขึ้น เอเชียน ทัวร์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของนักกอล์ฟที่จะก้าวไปในทัวร์ใหญ่อย่างพีจีเอ ทัวร์ ไม่ว่าจะเป็น กิรเดช อภิบาลรัตน์, อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ หรือแม้แต่นักกอล์ฟคนล่าสุดอย่าง คิม จูฮยอง (ทอม คิม) จากเกาหลีใต้ก็สามารถคว้าแชมป์ในพีจีเอ ทัวร์ มาได้"
ประธานเอเชียน ทัวร์ ยังได้กล่าวถึงนักกอล์ฟในเอเชียน ทัวร์ ว่า "ปัจจุบันมีการพัฒนาการก้าวไปข้างหน้าเพิ่มมากขึ้นโดยกลุ่มนักกอล์ฟรุ่นใหม่ๆ แม้ว่าทัวร์ของเราจะเป็นทัวร์มีสมาชิกหลากหลายและมีจำนวนนักกอล์ฟไทยมากที่สุด รองลงมาคืออินเดียและเกาหลีใต้ หากจะให้มองย้อนกลับไปในอดีตแล้วปัจจุบันนี้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนพัฒนาศักยภาพนักกอล์ฟมากกว่าเดิม"
เป้าหมายของเอเชียน ทัวร์ ในอนาคตนั้นคือการเตรียมจะเข้าไปเปิดตลาดในเอเชียกลางโดย โช มินน์ ตันห์ กล่าวทิ้งท้ายว่า "หลังจากเราไปจัดการแข่งขันในยุโรป แอฟริกา และไปแอฟริกาเหนือ รวมถึงตะวันออกลาง เพื่อจัดการแข่งขันอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ครั้งแรก เป้าหมายต่อไปของเราคือการก้าวไปยังเอเชียกลาง เพราะประเทศแถบนี้ไม่เคยมีการจัดการแข่งขันกอล์ฟทัวร์อาชีพรายการสำคัญมาก่อน"
สำหรับเอเชียน ทัวร์ ฤดูกาล 2023 ได้ประกาศโปรแกรมช่วงแรกออกมารวม 11 รายการ เริ่มต้นรายการแรกที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีเงินรางวัลรวม 5 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเอเชียน ทัวร์ (ยกเว้นรายการร่วมกับพีจีเอ ทัวร์) ทั้งนี้ทางเอเชียน ทัวร์ จะประกาศโปรแกรมการแข่งขันครึ่งฤดูกาลหลังออกมาอีกครั้งในโอกาสต่อไป
ติดตามข่าวสารของเอเชียน ทัวร์ ได้ที่เว็บไซต์ www.asiantour.com และเฟซบุค Asian Tour
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พสิษฐ์-กัสสะ'คว้าแชมป์ 'สิงห์-กรุงไทย จูเนียร์ กอล์ฟ' สนาม5สู้ถึงเพลย์ออฟ
การแข่งขันกอล์ฟเยาวชนส่วนกลางสะสมคะแนนประจำปี 2567-2568 ของสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ "สิงห์-กรุงไทย จูเนียร์ กอล์ฟ แรงกิ้ง" สนาม 5 ที่สนามกรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ จ.กาญจนบุรี แข่งระหว่างวันที่ 15-17 พ.ย.67 สัปดาห์นี้แข่ง 4 รุ่น คลาส S รุ่นอายุ 19 ปี ขึ้นไป, คลาส A รุ่นอายุ 15-18 ปี และ คลาส B รุ่นอายุ 13-14 ปี
'สุธีพัทธ์-รัญชนพงศ์' นำร่วมรอบ3ลุ้นชิงแชมป์ 'ไต้หวัน กลาส ไท่ฟง โอเพ่น'
สุธีพัทธ์ ประทีปเธียรชัย และ รัญชนพงศ์ อยู่ประยงค์ นำร่วมด้วยสกอร์รวมเท่ากันที่คนละ 18 อันเดอร์พาร์ 198 ลุ้นชิงแชมป์ไต้หวัน กลาส ไท่ฟง โอเพ่น หลังจบรอบสามที่สนามไท่ฟง กอล์ฟ คลับ เมืองชางฮัว ประเทศไต้หวัน เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมี แดนไท บุญมา และ ชลทิตย์ ชื่นบุญงาม ตามหลัง 4 สโตรค
ศึกกอล์ฟ'ไทยแลนด์ โอเพ่น' ครั้งที่52วันที่14-17พ.ย.นี้ ชิงเงินรวม5ล้าน
สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ และบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด(มหาชน) ร่วมกันแถลงข่าวจัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพรายการใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย "ไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งที่ 52" ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมเงินรางวัลรวม 5 ล้านบาท
'พีจีเอทัวร์'กับสถิติน่าใจ ในเดือนตุลาคม 'เอชาวาร์เรีย'แชมป์ที่ญี่ปุ่น
“เอชาวาร์เรีย” คว้าแชมป์ที่ญี่ปุ่น การเปลี่ยนกริพพัตเตอร์และการจับไม้พัตเตอร์ใหม่สร้างความแตกต่างให้กับ นิโก้ เอชาวาร์เรีย อย่างเห็นได้ชัด เมื่อโปรกอล์ฟหนุ่มวัย 30 ปีจากโคลัมเบีย ผงาดครองแชมป์โซโซ แชมเปี้ยนชิพ ที่ประเทศญี่ปุ่นในการลงเล่นครั้งแรก โดยทำเบอร์ดี้หลุมสุดท้าย ในหลุม 18 พาร์ 5 เฉือนชนะ จัสติน โธมัส ดีกรีสองแชมป์เมเจอร์ และแม็กซ์ เกรย์เซอร์แมน ที่จับคู่กับเขาคว้าอันดับ 4 ร่วมในการแข่งขันแบบทีมรายการซูริก คลาสสิค ออฟ นิวออร์ลีน เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ศึก'อินเตอร์ฯ ซีรีส์ แรงกิ้ง' ดุเดือด เพื่อสิทธิลุย 'ลิฟ กอล์ฟ โปรโมชันส์'
การชิงชัยอันดับในตารางคะแนนสะสมอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ แรงกิ้ง เพิ่มความเข้มข้นยิ่งขึ้น เมื่อมีการประกาศยืนยันให้สิทธิ์นักกอล์ฟที่ทำผลงานใน 32 อันดับแรก เข้าร่วมแข่งขันในศึกลิฟ กอล์ฟ โปรโมชันส์ ปีที่สอง ณ สนามริยาด กอล์ฟ คลับ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อลุ้นตั๋วเข้าไปเล่นในลิฟ กอล์ฟ ลีก ฤดูกาลหน้า
'อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์' บริจาคเงินให้มูลนิธิอรุณเจิดจรัส เพื่อเด็กไทยที่ด้อยโอกาส
ฝ่ายจัดการแข่งขันกอล์ฟอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ร่วมบริจาคเงินสมทบทุนให้กับมูลนิธิอรุณเจิดจรัส (Bright Dawn Foundation) จำนวน 25,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 827,000 บาท เป็นครั้งที่สาม เพื่อสนับสนุนภารกิจของมูลนิธิในการการพัฒนาชีวิตเด็กไทยในครอบครัวที่มีรายได้น้อยในชนบทของอำเภอหัวหิน ด้วยการสนับสนุนบริการด้านการดูแลสุขภาพ และการสนับสนุนด้านการศึกษาแก่โรงเรียนประถมจำนวน 5 แห่งในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยการบริจาคดังกล่าวมีขึ้นระหว่างการแข่งขันกอล์ฟอินเตอร์เนชันแนล ซีส์ ไทยแลนด์ ณ สนามไทยคันทรีคลับ จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา