'คอนเต' ตำหนิลูกทีม 'ไก่เดือยทอง' เต็มไปด้วยนักฟุตบอลที่เห็นแก่ตัว

อันโตนิโอ คอนเต ยอดเฮดโค้ชของทีม ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ให้สัมภาษณ์สุดเดือดตำหนิลูกทีม “ไก่เดือยทอง” เห็นแก่ตัวแทบทุกคน หลังทีมบุกเสมอ “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน สุดมัน 3-3 ทั้งๆที่ออกนำคู่แข่งไปก่อน 3-1 แต่รักษาสกอร์ไม่ได้

เกมดังกล่าว สเปอร์ส ออกนำ เซาแธมป์ตัน 3-1 จากสามประตูของ เปโดร ปอร์โร น.45+1, แฮร์รี เคน น.65 และอีวาน เปริซิช น.74 อย่างไรก็ตามเจ้าถิ่นมีลูกฮึดช่วง 15 นาทีสุดท้าย ทำสองประตูไล่ตีเสมอ 3-3 จาก ธีโอ วัลค็อตต์ น.77 และจุดโทษของ เจมส์ วาร์ด-เพราส์ น.90+3 ชวดคว้าสามแต้มอย่างน่าเสียดาย ซึ่งทำให้พวกเขาไร้ชัยในฐานะเกมเยือน 5 นัดติดต่อกันในทุกรายการ แบ่งเป็นแพ้ 4 เสมอ 1 นัด

“ผมไม่เคยต้องเจอกับสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ผมเห็นผู้เล่นที่เห็นแก่ตัวเต็มไปหมด ผมไม่ได้มองเห็นถึงทีมเวิร์คเลย เราเป็นนักเตะ 11 คนที่ลงสนาม แต่ทุกคนเล่นแบบเห็นแก่ตัว ผมมองเห็นนักเตะไม่ได้เล่นแบบช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แถมยังไม่ละเอียดในหลายๆเรื่อง” คอนเต เริ่มกล่าว

“ก่อนหน้านี้พวกเขาอาจจะเคยชินกับมัน พวกเขาไม่ได้เล่นเพื่อสิ่งที่สำคัญที่สุด พวกเขาแทบไม่ต้องเล่นภายใต้ความกดดัน พวกเขาไม่ต้องการที่จะเล่นภายใต้ความตรึงเครียด เพราะว่าที่ผ่านมาทำแบบนี้มันเป็นงานง่าย สโมสรของเรามันก็เป็นแบบนี้”

“ทีมไม่เคยคว้าแชมป์อะไรเลย 20 กว่าปี ถามว่าทำไม? ก็อาจเป็นความผิดของสโมสร หรือผู้จัดการทีมทุกคนที่เข้ามาทำงานที่นี่ และยอมเสียงที่จะทำลายภาพลักษณ์ของตัวเอง เพื่อปกป้องสโมสรจากสถานการณ์อื่นๆ”

“ตอนนี้ผมขอย้ำว่าผมไม่ต้องการปกปิดสถานการณ์ใดๆ ที่สโมสรแห่งนี้อีก ผมไม่อยากเห็นสิ่งที่ผมไม่อยากเห็นเหมือนในวันนี้อีกแล้ว มันเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ แฟนๆ ก็คงรับไม่ได้เช่นกัน พวกเขาตามเชียร์พวกเรา จ่ายค่าตั๋ว มาดูทีมลงสนาม แต่เกมฟุตบอลที่นักเตะสื่ออกไปนั้นเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ เราต้องคิดกันใหม่สำหรับเรื่องนี้”

“ไม่เพียงแค่สโมสร, ผู้จัดการทีม หรือสตาฟฟ์โค้ชเท่านั้น นักเตะต้องมีส่วนร่วมเกี่ยวกับสถานการณ์เหล่านี้ ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่ถ้าพวกเขาต้องการเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเขาก็อาจจะเปลี่ยนโค้ชอีกหลายคน แต่อะไรที่เคยทำซ้ำๆ เดิมๆ มันก็จะไม่มีทางเปลี่ยนได้ เชื่อผมเถอะ” นายใหญ่ไก่เดือยทอง ทิ้งท้าย

เวลานี้ถึงแม้ สเปอร์ส จะยังคงรั้งอันดับ 4 ของตารางด้วยการมี 49 คะแนน จาก 28 นัด แต่พวกเขานำหน้า นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เพียง 2 แต้ม และแข่งขันมากกว่าถึง 2 นัด และนำลิเวอร์พูล 7 คะแนน แต่แข่งขันมากกว่า 2 นัดเช่นกัน โอกาสที่จะถูกแย่งพื้่นที่ท็อปโฟร์ถือว่ามีสูง