ทัวร์นาเมนต์ลูกหนังเวิลด์ คัพ 2022 ที่ประเทศกาตาร์ เดินทางมาถึงรอบตัดเชือกเป็นที่เรียบร้อย หลังสิ้นสุดการแข่งขันรอบก่อนรองชนะเลิศ คู่สุดท้าย เมื่อคืนวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา ปรากฎว่า 2 ทีมลุ้นแชมป์ทั้ง บราซิล และโปรตุเกส มีอันต้องกระเด็นตกรอบไปแบบช็อกแฟนบอล ด้วยน้ำมือ โครเอเชีย และโมร็อกโก 2 ทีมที่ถือว่าเป็น"ม้ามิด" โดยเฉพาะโมร็อกโก ที่มาไกลจนไม่มีทีมใดกล้ามองข้าม ทำให้ฟุตบอลโลกหนนี้มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
โดย 4 ทีมที่ฝ่ามรสุมลูกหนังใน"กาตาร์ 2022" เข้ามาถึงรอบตัดเชือก ก็มีทั้งทีมที่มาตามคาด และมาไกลเกินคาด ประกอบด้วย
- อาร์เจนตินา
ขุนพล "ฟ้าขาว" ภายใต้การคุมทีมของ ลิโอเนล สกาโลนี ทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่พ่ายแพ้ซาอุดิอาระเบีย 1-2 ในเกมประเดิมสนามฟุตบอลโลก 2022 แบบช็อกโลก แต่หลังจากนั้นก็เดินหน้าไล่ปราบคู่แข่งมา 4 เกมรวด ซึ่งในปีนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่พวกเขาจะลุ้นชูถ้วยแชมป์โลกอีกครั้งในรอบ 36 ปี
ลิโอเนล เมสซี ซูเปอร์สตาร์จากทีมปารีส แซงต์ แชร์แม็ง ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของอาร์เจนตินาเสมอ และในทัวร์นาเมนต์นี้เจ้าตัวยิงไปแล้ว 4 ประตู ตามหลัง คีเลียน เอ็มบัปเป ในการลุ้นคว้าดาวซัลโวเพียงแค่ 1 ประตู เรียกได้ว่ายังมีโอกาสหยิบรางวัลดังกล่าวถ้าไม่ชิงตกรอบไปเสียก่อน ซึ่งถ้าดาวเตะวัย 35 ปีเล่นได้อย่างท็อปฟอร์มในรอบตัดเชือก การเข้าไปลุ้นแชมป์โลกสมัยที่ 3 ของทัพ "ฟ้าขาว" ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่งเจ้าตัวหมายมั่นปั้นมือเป็นอย่างมากที่จะพาบ้านเกิดของเขาเถลิงบัลลังก์แชมป์โลกให้ได้ก่อนจะแขวนสตั๊ด ปิดฉากอาชีพนักฟุตบอลแบบสมบูรณ์
คู่แข่งของพวกเขาในรอบ 4 ทีมสุดท้าย ได้แก่ โครเอเชีย ที่ปราบ บราซิล ทีมเต็งหนึ่งในการดวลจุดโทษ แน่นอนว่า "ฟ้าขาว" จะประมาททีมตราหมากรุกไม่ได้เป็นอันขาด เพราะชาติร่วมทวีปอเมริกาใต้อย่างขุนพล "แซมบ้า" ต้องน้ำตาตกมาแล้ว
- โครเอเชีย
พกดีกรีรองแชมป์เก่าติดตัวมาด้วยสำหรับทีม "ตราหมากรุก" ที่ในฟุตบอลโลก 2018 พวกเขาสร้างเซอร์ไพรส์มาแล้วครั้งหนึ่งด้วยการโค่นทีมเต็งต่างๆ คว้าตั๋วเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ ก่อนจะพ่ายแพ้ให้กับ ฝรั่งเศส 2-4 พลาดคว้าแชมป์โลกสมัยแรกอย่างน่าเสียดาย
ในฟุตบอลโลก 2022 โครเอเชีย ก็ถือเป็นทีมที่มาไกลเกินคาด จะ นักเตะ"ตราหมากรุก"ชุดนี้จุดเด่นอยู่ที่ความเก๋าเกมของ 3 มิดฟิลด์ ทั้ง ลูกา โมดริช, มาร์เซโล โบรโซวิช และมาเตโอ โควาซิช รวมถึงความเหนียวหนึบของ โดมินิก ลิวาโนวิช นายทวารตัวเก่ง ช่วยให้ทีมฝ่าฟันมาถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายได้อย่างยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตามคู่แข่งของพวกเขาคือยักษ์ใหญ่ อย่าง อาร์เจนตินา ที่กำลังมั่นใจสุด พวกเขาคงต้องรวบรวมพลังทั้งหมดที่มีอีกครั้งเพื่อฝ่าด่านสำคัญนี้ไปให้ได้
- ฝรั่งเศส
แชมป์เก่าเมื่อปี 2018 มุ่งมั่นที่จะขีดเขียนประวัติศาสตร์เป็นชาติแรกที่สามารถป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ นับตั้งแต่ฟุตบอลโลกเปลี่ยนจากถ้วยรางวัล "จูลส์ ริเมต์" มาเป็น "ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ" ในปี 1974 หากไม่นับเกมที่พ่าย ตูนีเซีย 0-1 ในรอบแบ่งกลุ่มที่ส่งตัวสำรองลงเล่นถึง 10 คน ถือว่าฟอร์มการเล่นของพวกเขาในทัวร์นาเมนต์นี้สุดยอดเป็นอย่างมาก ปราบทีมใหญ่ด้วยกันอย่างอังกฤษในรอบ 8 ทีมสุดท้าย
คีเลียน เอ็มบัปเป กำลังร้อนแรงติดลมบน เขายิงไปแล้ว 5 ประตูในฟุตบอลโลกหนนี้ มีลุ้นคว้ารางวัลดาวซัลโวไปครอบครอง ส่วนขุมกำลังในเกมรุกคนอื่นๆ ก็เล่นได้อย่างเข้าฝัก ทั้ง โอลิวิเยร์ ชิรูด์, อองตวน กรีซมันน์ หรืออุสมาน เด็มเบเล
สำหรับคู่แข่งของพวกเขาในรอบตัดเชือก อย่าง โมร็อกโก หากมองผิวเผินอาจดูห่างชั้นกันพอสมควร แต่ "สิงโตแห่งเทือกเขาแอตลาส" มีจุดเด่นที่เกมรับอันเหนียวแน่นสุดๆ ปราบ 2 ทีมใหญ่มาแล้วทั้ง สเปน และโปรตุเกส รวมไปถึงเอาชนะ เบลเยียม ในรอบแบ่งกลุ่ม เรียกได้ว่าทัพ "ตราไก่" ห้ามประมาทโดยเด็ดขาด
- โมร็อกโก
สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นทีมแรกจากทวีปแอฟริกาที่สามารถผ่านเข้ามาเล่นในรอบ 4 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ โมร็อกโก ถือเป็น"ม้ามิด"ตัวจริงในเวิล์ดคัพ 2022 ชูจุดเด่นในการเล่นเกมรับ พร้อมการสวนกลับที่อันตรายเป็นอย่างมาก ฝ่าฟันด่านหินทั้งการดวลจุดโทษเอาชนะ สเปน ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ต่อด้วยพลิกล็อกเฉือน โปรตุเกส รอบ 8 ทีมสุดท้าย
สำหรับฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ถือเป็นเวิลด์ คัพ ที่พวกเขาประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะก่อนหน้านี้่ โมร็อกโก เดินทางไปได้ไกลที่สุดคือรอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อปี 1986 หลังจากนั้นก็มักจะจอดป้ายแค่รอบแบ่งกลุ่ม
แม้ชื่อชั้นของตัวผู้เล่นในหลายตำแหน่งเมื่อเทียบกับอีก 3 ชาติในรอบตัดเชือกด้วยกันจะดูเป็นรองทีมอื่นๆค่อนข้างเยอะ แต่พวกเขามีสปิริตทีมที่ยอดเยี่ยม ทีมเวิร์คสุดแจ่ม มีความเข้าใจในการเล่นเกมรับที่ดี ผ่านมาถึงรอบนี้แล้ว โมร็อกโก คงหวังถึงการสร้างเซอร์ไพรส์คว้าแชมป์โลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์
สำหรับการแข่งขันในรอบ 4 ทีมสุดท้าย คู่แรก อาร์เจนตินา พบ โครเอเชีย ฟาดแข้งกันในวันที่ 13 ธันวาคม เวลา 02.00น. ตามเวลาประเทศไทย ส่วน ฝรั่งเศส พบ โมร็อกโก จะแข่งขันในคืนวันที่ 14 ธันวาคม เวลา 02.00น.