ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ เสร็จสิ้นการแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายไปแล้ว เวลานี้ทีมชาติอาร์เจนตินา กลายเป็นทีมเดียวจากทวีปอเมริกาใต้ที่ได้ตั๋วเข้าไปเล่นในรอบตัดเชือก หลังจาก บราซิล พลาดท่าพ่าย โครเอเชีย ในการดวลจุดโทษ โดย "ฟ้าขาว" ภายใต้การนำทัพของ ลิโอเนล เมสซี ซูเปอร์สตาร์จากปารีส แซงต์ แชร์แม็ง ถูกยกให้ขึ้นมาเป็นเต็งหนึ่งเป็นที่เรียบร้อย
ลิโอเนล เมสซี เดินทางมาประเทศกาตาร์พร้อมกับความหวังการหยิบแชมป์โลกให้ได้สักครั้งในชีวิตเพื่อตอกย้ำความเป็น "นัมเบอร์วัน" ในโลกของฟุตบอลยุคปัจจุบัน เพราะในช่วงชีวิตการค้าแข้งที่ผ่านมาเขาประสบความสำเร็จมาแล้วทุกย่านน้ำ แทบจะคว้าแชมป์รายการใหญ่มาได้หมดแล้วบนโลกใบนี้ ขาดก็แค่เพียงถ้วย "เวิลด์ คัพ" ใบเดียวเท่านั้นที่เขายังไม่เคยได้มาครอบครองประดับบารีมีของตัวเอง
เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 7 สมัย ผ่านการเล่นทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย มาแล้ว 5 สมัย แต่เขายังไม่เคยพาอาร์เจนตินาประสบความสำเร็จเลยแม้แต่ครั้งเดียว จะมีใกล้เคียงที่สุดคือเมื่อปี 2014 ที่ทัพ "ฟ้าขาว" สามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ แต่ต้องพ่ายแพ้ให้กับ เยอรมนี 0-1 จากประตูชัยช่วงต่อเวลาพิเศษ ของ มาริโอ เกิทเซ่ ชวดแชมป์สมัยที่ 3 อย่างน่าเสียดาย
ไม่เคยมีใครตั้งคำถามถึงความเก่งกาจของซูเปอร์สตาร์ชาวอาร์เจนไตน์รายนี้ ผลงานกับ บาร์เซโลนา ตั้งแต่เริ่มต้นค้าแข้งฟุตบอลอาชีพ จนมาถึงปัจจุบันนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ เขาพาทัพ "อาซูลกรานา" คว้าแชมป์ลาลีกา สเปน ได้ถึง 10 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 4 สมัย, โคปา เดล เรย์ 7 สมัย, ซูเปอร์โคปา เดอ เอสปาญา 7 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 3 สมัย และแชมป์สโมสรโลก อีก 3 สมัย พาทีมชาติอาร์เจนตินา คว้าแชมป์โคปา อเมริกา เมื่อปี 2021 พ่วงด้วยรองแชมป์อีก 3 ครั้ง ขณะที่รางวัลส่วนตัวเขาได้ถ้วยบัลลงดอร์มาครอบครองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ถึง 7 ครั้ง ติดทีมยอดเยี่ยมของโลกอีกหลายสมัย ไม่มีใครกังขาในฝีเท้าของเขาเลยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตามการไร้แชมป์โลกก็เปรียบเสมือนราชาที่ไร้มงกุฎ ฟุตบอลโลก เป็นรายการเดียวที่เขายังไม่เคยได้ และหมายมั่นปั้นมือเป็นอย่างมากว่าจะคว้ามันมาครอบครอง แต่ความพยายามของเขา 4 ครั้งก่อนหน้านี้ไม่ประสบผลสำเร็จเลยแม้แต่หนเดียว
ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่ม อาร์เจนตินา ถูกยกให้เป็นเต็งสองประจำทัวร์นาเมนต์ จากผลงานอันยอดเยี่ยมในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พกสถิติไร้พ่ายทุกรายการ 36 นัด เพิ่งคว้าแชมป์โคปา อเมริกา 2021 มาหมาดๆ แถมขุมกำลังของพวกเขาก็สุกงอมได้ที่ มีแข้งเก๋า ผสมผสานกับแข้งหนุ่มที่กำลังมั่นใจในฟอร์มของตัวเองแบบสุดๆ ซึ่งก็ไม่แปลกที่พวกเขาจะถูกคาดหวังว่าครั้งนี้น่าจะเป็นเวิลด์ คัพ ที่พวกเขาได้ลุ้นแชมป์แบบเต็มตัว
แต่เมื่อเริ่มต้นฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ก็เกิดเรื่องช็อกทันทีตั้งแต่เกมแรกเมื่อ "ฟ้าขาว" พ่ายแบบช็อกโลกให้กับ ซาอุดิอาระเบีย 1-2 หยุดสถิติไร้พ่ายติดต่อกันเอาไว้ที่ 36 นัด และถูกตั้งคำถามว่าพวกเขาดีพอที่จะคว้าแชมป์โลกจริงๆหรือ?
ถึงกระนั้นในอีก 2 เกมรอบแบ่งกลุ่มพวกเขาก็ตั้งตัวได้ เล่นอยู่ในมาตรฐานของตัวเอง ปราบคู่แข่ง 2 เกมรวด เหนือ เม็กซิโก และโปแลนด์ ก่อนจะมาเก็บชัยเหนือ ออสเตรเลีย ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย พร้อมกับปราบ เนเธอร์แลนด์ ของกุนซือหลุยส์ ฟาน กัล ในการดวลจุดโทษรอบ 8 ทีมสุดท้ายแบบหืดจับสุดๆ
ณ เวลานี้ ลิโอเนล เมสซี เหลือด่านให้ฝ่าฟันอีก 2 นัด เพื่อพา อาร์เจนตินา ก้าวขึ้นไปครองตำแหน่งแชมป์โลกสมัยที่ 3 ในประวัติศาสตร์ และก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มเจ้าตัวประกาศเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า ฟุตบอลโลก 2022 จะเป็น "เวิลด์ คัพ" หนสุดท้ายในอาชีพของเขา ถ้าครั้งนี้พลาด ก็ไม่มีครั้งหน้าให้แก้ตัวอีกแล้ว
ด่านต่อไปของพลพรรค "ฟ้าขาว" คือทีม "ตราหมากรุก" โครเอเชีย ดีกรีรองแชมป์โลก 2018 ที่จะดวลกันในรอบรองฯ ฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งต้องบอกว่า โครเอเชียไม่ธรรมดาเลย เพราะพวกเขาเชียวชาญเป็นอย่างมากในการลากคู่แข่งเพื่อไปลุ้นในช่วงต่อเวลาพิเศษ และดวลจุดโทษ ถือเป็นสิ่งที่พวกเขาถนัดเป็นอย่างยิ่ง เกมรับแข็งแกร่งดุจหินผา แม้จะเต็มไปด้วยผู้เล่นที่อายุค่อนข้างเยอะ แต่ก็โชกโชนไปด้วยประสบการณ์อันเต็มเปี่ยม ถึงขุมกำลังของ อาร์เจนตินา จะดูเหนือกว่าเยอะ แต่ก็ไม่ใช่งานง่ายสำหรับยอดทีมจากทวีปอเมริกาใต้เลยแม้แต่น้อย ไม่เชื่อก็ลองไปถามบราซิลดูได้
หลังจากนี้คงต้องมาลุ้นกันว่า ลิโอเนล เมสซี และผองเพื่อนทีมชาติอาร์เจนตินา จะประสบความสำเร็จคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 มาครอบครองได้หรือไม่ และซูเปอร์สตาร์วัย 35 ปี จะมีโอกาสเถลิงบัลลังก์ "เวิลด์ คัพ" มาประดับบารมีก่อนจะแขวนสตั๊ดได้ไหม ต้องเอาใจช่วยกันอย่างเต็มที่